โดย Patti Maguire Armstrong
ฉันเชื่อว่าการสวดภาวนาของฉันมีส่วนในการกลับใจในเวลาใกล้ตายของบุคคลผู้หนึ่ง
มีบทภาวนาที่ใช้ในงานนี้อยู่บ้าง
แต่สำหรับฉันมีบทภาวนาที่ฉันชอบอยู่ พระคัมภีร์บอกว่า “การสวดภาวนาของผู้ชอบธรรมมีพลังอำนาจมาก”
(ยากอบ 5:16)
ฉันมีญาติที่อยู่อีกฝากหนึ่งของประเทศและเธอกำลังต่อสู้กับโรคมะเร็งเป็นเวลานานก่อนที่เธอจะเข้าสู่อาการโคม่า หมอหมดหวังแล้วสำหรับหญิงผู้นี้ซึ่งฉันเรียกเธอว่า
บาบาร่า คนที่รู้จักเธอก็จะรู้นิสัยและมุมมองที่ค่อนข้างไปทางเสรีนิยม
โดยเฉพาะในเรื่องของการทำแท้ง
ตัวเธอเองก็เคยทำแท้งมาเมื่อหลายปีก่อน
ถึงแม้ว่าบาบาร่าจะเป็นคาทอลิก แต่เธอไม่ค่อยมีความสัมพันธ์กับทางโบสถ์สักเท่าไร
เธอไม่ได้ไปโบสถ์มานานมาก การเป็นโรคมะเร็งเป็นเวลานานของเธอไม่ทำให้เธอเปลี่ยนแปลงในความเป็นเสรีนิยมลงเลย
เธอจำเป็นต้องได้รับศีลศักดิ์สิทธิ์สำหรับผู้ใกล้ตาย ฉันคิดเมื่อรู้ถึงสถานการณ์ของบาบาร่า ศีลศักดิ์สิทธิ์สำหรับผู้ใกล้ตายหรือบางทีเรียกว่า
ศีลเสบียง (เมื่อก่อนเรียกว่าศีลทาสุดท้าย) เป็นศีลศักดิ์สิทธิ์ที่จะเตรียมให้คริสตชนคาทอลิกได้รับการอภัยบาป
รับศีลมหาสนิทและได้รับการเจิมน้ำมันศักดิ์สิทธิ์ในเวลาที่เจ็บป่วยหรือใกล้เสียชีวิต แต่ลูกทุกคนของบาบาร่าซึ่งเติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้วล้วนแต่ละทิ้งโบสถ์ไปสิ้น ความคิดที่จะจัดหาพระสงฆ์ไปเยี่ยมบาบาร่าในโรงพยาบาลไม่มีอยู่ในสมองของผู้เป็นสามีหรือลูกๆของเธอเลย
และบาบาร่าที่อยู่ในอาการโคม่าก็ไม่สามารถไปสารภาพบาปได้ อย่างไรก็ตาม
ยังมีคาทอลิกผู้หนึ่งที่เป็นญาติของเธอแต่อยู่ห่างไกลจากเธอมาก
ฉันเริ่มสวดภาวนาสายประคำพระเมตตาเพื่อบาบาร่าทุกๆวัน
และยังบอกให้บรรดาญาติคนอื่นๆของเธอมาร่วมกับฉันด้วย ฉันรู้จากหนังสือไดอารี่ของน.โฟสตินา -- “พระเมตตาในจิตวิญญาณของฉัน”--
ว่าการสวดภาวนาเพื่อการกลับใจและเพื่อเตรียมจิตใจของผู้ใกล้ตายให้เผชิญความตายนั้นมีพลังอำนาจมาก
น.โฟสตินาได้รับการไขแสดงจากพระเยซูเจ้าในปี
1930 พระองค์ทรงปรากฏแก่เธอและขอให้เธอสวดภาวนาสายประคำแห่งพระเมตตาเพื่อคนบาปและคนที่กำลังจะตาย พระองค์ตรัสว่า
“จงสวดภาวนาให้มากเท่าที่เธอสามารถทำได้เพื่อคนที่กำลังจะตาย เพื่อช่วยให้เขามีความวางใจในพระเมตตาของเรา เพราะพวกเขาจำเป็นต้องมีความวางใจนี้เป็นอย่างมาก จงมั่นใจว่าพระหรรษทานแห่งความรอดนิรันดรสำหรับวิญญาณที่อยู่ในช่วงสุดท้ายของชีวิตนั้นขึ้นอยู่กับการสวดภาวนาของเธอ เธอได้รู้จักมหาสมุทรแห่งพระเมตตาของเราแล้ว
จงนำมันมาใช้เพื่อตัวเธอเองและโดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อคนบาปที่น่าสงสารทั้งหลายเถิด ในไม่ช้า สวรรค์และโลกจะกลายเป็นสิ่งไร้ค่าเมื่อเทียบกับพระเมตตาของเราที่โอบกอดวิญญาณที่มีความวางใจในเรา” (ไดอารี่ 1777)
พระเยซูเจ้าตรัสกับเธอว่า
“ลูกสาวของเรา
จงปลุกเร้าจิตใจของวิญญาณทั้งหลายให้สวดภาวนาสายประคำพระเมตตาที่เราได้มอบแก่ลูก เราพอใจที่จะให้ทุกสิ่งตามที่พวกเขาวอนขอด้วยการสวดสายประคำนี้....จงบันทึกไว้ว่า เมื่อพวกเขาสวดสายประคำนี้ต่อหน้าคนที่กำลังจะตาย เราจะยืนอยู่ระหว่างพระบิดาของเรากับคนที่กำลังจะตาย
ไม่ใช่ในฐานะผู้พิพากษาแต่ในฐานะพระผู้ไถ่ผู้ทรงความเมตตา” (ไดอารี่
1541)
น.โฟสตินาได้เขียนบันทึกในเวลาที่เธอกำลังสวดภาวนาให้กับชายคนหนึ่งที่กำลังจะตายว่า
“’ลูกสาวของเรา
ช่วยเราในการช่วยเหลือคนบาปคนนี้ที่กำลังจะตายเถิด จงสวดสายประคำที่เราสอนลูกเพื่อเขา’ และเมื่อฉันเริ่มสวดสายประคำพระเมตตา
ฉันเห็นชายคนที่กำลังจะตายดิ้นรนอย่างทรมาน
อารักขเทวดาของเขาพยายามปกป้องเขา
แต่ท่านไม่มีพละกำลังที่จะช่วยเหลือชายผู้นั้นที่มีจิตใจที่สิ้นหวังเป็นอย่างมาก ปีศาจจำนวนมากกำลังรอคอยวิญญาณดวงนี้ แต่เมื่อฉันสวดสายประคำพระเมตตา
ฉันเห็นพระเยซูเจ้าในท่าทางเช่นเดียวกับในพระรูป
รังสีที่ส่องออกมาจากดวงพระทัยของพระองค์ได้ครอบคลุมชายผู้นั้น แล้วอำนาจแห่งความมืดก็หนีหายไปด้วยความหวาดหวั่น ชายที่เจ็บป่วยหายใจครั้งสุดท้ายอย่างสงบ เมื่อฉันกลับคืนมาจากภวังค์ ฉันก็เข้าใจถึงความสำคัญของการสวดสายประคำพระเมตตาเพื่อคนที่กำลังจะตาย มันเป็นการบรรเทาพระพิโรธของพระเจ้า”(ไดอารี่ 1565)
หลังจากสองสัปดาห์ของการสวดสายประคำพระเมตตาเพื่อบาบาร่า
ฉันก็ได้รู้ว่าเธอได้หายจากอาการโคม่าอย่างน่าประหลาดใจและมีสุขภาพที่ทรงๆอยู่หลายวัน
ลูกๆของเธอทั้งใกล้และไกลได้มาอยู่รวมกันรอบๆเตียงของเธอในช่วงเวลาที่พิเศษมากนี้ พระสงฆ์องค์หนึ่งได้มาเยี่ยมเธอและได้เจิมศีลศักดิ์สิทธิ์สำหรับผู้ใกล้ตายให้แก่เธอ บาบาร่าใช้เวลานานมากโดยลำพังกับพระสงฆ์
ต่อมา บาบาร่าได้พูดกับลูกๆของเธอว่า ความคิดหลายอย่างของเธอได้เปลี่ยนไปแล้ว สองสามวันต่อมา บาบาร่าก็จากไป ครอบครัวได้จัดงานศพที่สวยงาม สามีของเธอซึ่งมีชีวิตต่อมาอีก 7 ปี
กลายเป็นผู้มีความศรัทธาและเขาสวดสายประคำ (rosary) ทุกวัน
----------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น