ผลวิจัยชี้รถที่ใช้น้ำมันจะถึงจุดจบภายใน
8 ปี บริษัทน้ำมันจะล้มระเนระนาด
18 พฤษภาคม 256018 May 2017
Posted By: sytboka hilight
จะไม่มีการขายรถยนต์ รถบัส
และรถบรรทุกที่ใช้น้ำมันโซลาร์หรือดีเซลในทุกแห่งทั่วโลกภายใน 8 ปี
การขนส่งทางบกทั้งหมดจะเปลี่ยนไปใช้ยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า
นำไปสู่การลดลงของราคาน้ำมันอย่างรุนแรงและการสิ้นสุดของอุตสาหกรรมน้ำมันปิโตรเลียมที่ยืนยงมานับศตวรรษ
นั่นคือคำทำนายอนาคตของ Tony Seba นักเศรษฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยแสตนฟอร์ด
ที่แพร่หลายในหมู่นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและได้สร้างความวิตกกังวลอย่างรุนแรงต่อวงการธุรกิจน้ำมัน
ข้อสมมุติฐานของ Seba คือผู้คนจะเลิกขับรถเอง
พวกเขาจะเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าแบบขับอัตโนมัติซึ่งถูกกว่ารถน้ำมันเป็นสิบเท่าและมีอายุการใช้งานยาวนานกว่ากันเยอะ
จะเหลือเจ้าของรถไม่มากนักที่ยังจมอยู่กับอดีตและยึดติดการใช้รถแบบเก่า
ที่เหลือจะเปลี่ยนไปใช้รถที่ทันสมัย ในอนาคตจะหาปั๊มน้ำมัน อะไหล่
รวมทั้งช่างซ่อมเครื่องยนต์สันดาปภายในได้ยาก ผู้แทนจำหน่ายรถแบบเก่าจะหดหายไปภายในปี
2024
หน่วยราชการจะสั่งห้ามไม่ให้คนขับรถเมื่อมีข้อมูลยืนยันถึงอันตรายที่มีมากกว่าระบบขับอัตโนมัติ
ราคารถมือสองจะตกต่ำรุนแรง คุณอาจต้องจ่ายเงินเพื่อเอารถคันเก่าของคุณไปทำลายทิ้ง
มันเป็นเกลียวมรณะ (Death Spiral) ของทั้งกลุ่มบริษัทค้าน้ำมันยักษ์ใหญ่และกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่
และยังเกี่ยวพันไปถึงบริษัทใหญ่ในตลาดหุ้นที่ปรับตัวไม่ทันอีกด้วย
ราคาน้ำมันดิบจะลดลงถึง 25 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาเรลอย่างยาวนาน
สกอตแลนด์จะสูญเสียแหล่งขุมทรัพย์ในทะเลเหนือ รัสเซีย, ซาอุดิอารเบีย,
ไนจีเรีย และเวเนซุเอลาจะตกอยู่ในสถานะการณ์ที่ยากลำบาก
มันจะเป็นภัยคุกคามต่อบริษัทฟอร์ด, จีเอ็ม
และบริษัทผลิตรถยนต์ในเยอรมัน
พวกเขาจะต้องเผชิญกับทางเลือกระหว่างการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่กำไรต่ำมากหรือผันตัวเองไปเป็นผู้ให้บริการรถยนต์ไร้คนขับแบบ
Uber และ Lyft
รถยนต์ยุคถัดไปจะเป็น “คอมพิวเตอร์ติดล้อ”
Google, Apple, และ Foxconn มีเทคโนโลยีที่พร้อมจะเข้าไปยึดครอง
และ Silicon Valley จะเป็นศูนย์กลางธุรกิจรถยนต์ไม่ใช่ Detroit,
Wolfsburg หรือ Toyota City อีกต่อไป
“เรากำลังอยู่ในจุดที่เป็นการแตกสลายของการขนส่งที่เร็วที่สุดลึกล้ำที่สุดอย่างต่อเนื่องมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาตร์”
Seba กล่าว “ยานยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในจะเข้าสู่วัฏจักรอันเลวร้ายของต้นทุนที่เพิ่มขึ้น”
จุดเปลี่ยนจะมาถึงภายในสองสามปีข้างหน้า เมื่อแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าใช้งานได้เกิน
320 กิโลเมตร และราคารถยนต์ไฟฟ้าลดลงถึง 30,000 ดอลลาร์สหรัฐ
ภายในปี 2022 รุ่นต่ำสุดราคาจะเหลือเพียง 20,000
ดอลลาร์ หลังจากนั้นก็จะเป็นการเปลี่ยนแปลงแบบถล่มทลาย
“ภายในปี
2025 รถใหม่ทั้งหมดจะเป็นรถไฟฟ้า ทั้งรถยนต์ รถบัส
รถแทรกเตอร์ รถแวน ทุกอย่างที่มีล้อจะใช้ไฟฟ้าทั้งหมดทั่วโลก” Seba กล่าว
ข้อมูลและภาพจาก financialpost, stuff.co.nz
---------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น