นักบุญมาลาคีได้ทำนายชื่อของพระสันตะปาปาไว้ 112 องค์ นับตั้งแต่โป๊ปอินโนเซนต์ที่
2 (ปี 1130-1143) เป็นต้นมา
เมื่อครั้งที่พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่
16 ทรงลาออกจากตำแหน่ง
ทำให้เกิดความสนใจในคำทำนายของนักบุญมาลาคีขึ้นอีกครั้ง เพราะเชื่อกันว่าพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16
เป็นพระสันตะปาปาลำดับที่ 111 และพระสันตะปาปาองค์ต่อไปจะเป็นลำดับที่ 112
และเป็นองค์สุดท้าย
ดังชื่อที่นำมาลงไว้เป็นพระสันตะปาปา 5
องค์สุดท้ายตามคำทำนายของนักบุญมาลาคี
1.
Flos Florum (“Flower of Flowers”) – Pope
Paul VI (พระสันตะปาปาเปาโลที่ 6)
2.
De medietate Lunae
(“Of the Half Moon”) – Pope Juan Pablo I (พระสันตะปาปายอห์นปอลที่
1)
3.
De Labore Solis (“From the Toil
of the Sun”) – Pope John Paul II (พระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2)
4.
Gloria Olivae (“The Glory of
the Olive”) – Pope Benedict XVI (พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16)
5.
Petrus Romanus (“Peter the
Roman”) – Pope Francis I (พระสันตปาปาฟรังซิส)
แต่ก็มีความเห็นแย้งเช่นกันว่า
พระสันตปาปาฟรังซิสไม่ใช่พระสันตะปาปาองค์สุดท้ายตามคำทำนาย
เพราะนักบุญมาลาคีต้องทำนายเฉพาะพระสันปาปาที่ขึ้นมาดำรงตำแหน่งอย่างถูกต้องเท่านั้น
แต่ในอดีตมีพระสันตะปาปาบางองค์ที่ดำรงตำแหน่งอย่างไม่ถูกต้องที่เรียกว่า
แอนตี้โป๊ป
ดังนั้นพระสันตะปาปาดังกล่าวย่อมไม่อยู่ในรายชื่อของนักบุญมาลาคี (และถ้าเป็นดังนี้จะมีพระสันตปาปาต่อจากพระสันตปาปาฟรังซิสอีก
7 พระองค์) อีกประการหนึ่งคือ
พระสันตะปาปาองค์ใหม่จะดำรงตำแหน่งต่อเมื่อพระสันตะปาปาองค์เดิมสิ้นพระชนม์แล้ว
แต่ในกรณีของพระสันตปาปาฟรังซิสทรงดำรงตำแหน่งเพราะพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ทรงลาออกจากตำแหน่ง จึงไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขนี้
ซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้
พระสันตปาปาฟรังซิสก็ไม่ใช่ เปโตรชาวโรมัน Petrus
Romanus แต่เป็น Gloria Olivae ที่ต่อจากองค์เดิมนั่นคือเป็น Gloria Olivae II (สง่าราศีของต้นมะกอกที่
2) สืบต่อจากพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่16
(พระสันตปาปาฟรังซิสเองก็เคยกล่าวว่าอาจจะขอสละตำแหน่งในอีกสามปีข้างหน้า และอาจเป็นไปได้ที่พระสันตปาปาองค์ต่อๆไปอาจจะสละตำแหน่งเช่นเดียวกัน)
ท่านอธิการ
Joachim Merlin ได้ทำนายว่า ผู้อภิบาลศักดิสิทธิ์
(พระสันตะปาปา)
สามองค์จะมาสืบทอดตำแหน่งจากพระสันตปาปาผู้ยิ่งใหญ่ชาวฝรั่งเศส
และสองในสามองค์นี้จะขอลาออกจากตำแหน่งโดยทำหน้าที่เป็นเพียงผู้สนับสนุนพระสันตปาปาองค์ต่อไป
(เรียกว่า "backup popes")
----------------------
บางคนมีข้อสังเกตว่า
มีหลักฐานบางอย่างที่แสดงว่าคำทำนายของ น.มาลาคีเป็นจริง ยกตัวอย่าง พระสันตะปาปาเปาโลที่
6 มีตราที่เสื้อโค๊ทเป็นรูปดอกลิลลี่ 3 ดอก fleur-de-lys ซึ่งสอดคล้องกับคำทำนายว่า
“บุปผาแห่งมวลบุปผา” (“Flower of Flowers”) แต่ความเชื่อมโยงระหว่างคำทำนายและพระสันตปาปาเป็นเรื่องที่เห็นได้ไม่ค่อยชัดเจนนัก
น.มาลาคี
ได้บรรยายเหตุการณ์เกี่ยวกับพระสันตะปาปาองค์สุดท้ายไว้ว่า "ระหว่างการเบียดเบียนครั้งสุดท้ายต่อพระศาสนจักรโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ "Petrus Romanus"จะขึ้นครองราชย์ พระองค์จะเลี้ยงดูฝูงแกะของพระองค์ในความทุกข์เข็ญนานับประการ
หลังจากนั้นนครแห่ง 7 ขุนเขา (โรม) จะถูกทำลาย และมหาตุลาการจะทรงพิพากษาประชากรของพระองค์ อาแมน"
มีผู้แปลความหมายของคำทำนายนี้ว่า “มหาตุลาการ” ก็คือพระเยซูเจ้านั่นเอง และการพิพากษาหมายถึงการลงโทษผู้ที่ทำลายพระศาสนจักร
โรมจะถูกทำลายและพระสันตปาปาที่ได้รับการแต่งตั้งจะต้องหนีลี้ภัยไปที่อื่น และพระสันตะปาปาจะได้รับความช่วยเหลือจากมหาพันธมิตร(ที่อยู่ในราชวงศ์ฝรั่งเศส) พระองค์จะกลับมาสร้างพระราชวังพระสันตปาปาในโรมขึ้นใหม่ (ไม่ใช่วันสิ้นโลกอย่างที่เข้าใจกัน)
อย่างไรก็ตามคำทำนายเหล่านี้มีไว้เพื่อเตือนใจให้เราระวังตัวเท่านั้น
และเราควรรับฟังคำพยากรณ์ที่มีที่มาจากพระเจ้าเท่านั้น อย่างเช่นคำพยากรณ์ของบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ และคำพยากรณ์ที่ปรากฏอยู่ในพระคัมภีร์
เช่น หนังสือดาเนียล วิวรณ์ และ
เซคารียาห์ เพราะคำพยากรณ์เหล่านั้นมีไว้เพื่อความดีของมนุษย์
อีกประการหนึ่งคำทำนายต่างๆอาจไม่เกิดขึ้นก็ได้
โดยเฉพาะในเรื่องคำทำนายเกี่ยวกับภัยพิบัติต่างๆ
เพราะสิ่งเหล่านี้ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของมนุษย์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการกลับใจ เพราะพระเป็นเจ้าจะทรงให้อภัยและไม่ลงโทษมนุษย์ ถ้าหากมนุษย์กลับใจหันกลับมาหาพระองค์ มีตัวอย่างเรื่องนี้ในพระคัมภีร์ เช่น เรื่องของประกาศกโยนาห์ พระเป็นเจ้าทรงสั่งให้ประกาศกโยนาห์ไปที่เมืองนีนาเวห์ และประกาศแก่ชาวเมืองว่า อีกหนึ่งเดือนพระเป็นเจ้าจะทรงทำลายเมืองนี้เสีย ชาวเมืองนีนาเวห์เมื่อได้ฟังต่างก็พากันเป็นทุกข์กลับใจตั้งแต่ผู้ปกครองมาจนถึงเด็ก พวกเขานำขี้เถ้ามาโปรยศีรษะ นุ่งห่มด้วยผ้ากระสอบ วอนขออภัยต่อพระเจ้า พระเป็นเจ้าทรงเห็นเช่นนี้จึงทรงเปลี่ยนพระทัยไม่ทำลายเมืองของพวกเขา แต่คนที่เสียหน้ามากที่สุดก็คือประกาศกโยนาห์ เพราะเมืองไม่ได้ถูกทำลายตามที่เขาประกาศไว้ ประกาศกโยนาห์ถึงกับตัดพ้อต่อว่าพระเจ้าในเรื่องนี้ พระเป็นเจ้าจึงให้บทเรียนแก่โยนาห์ พระองค์ทำให้ต้นไม้โตขึ้นในคืนเดียวเพื่อเป็นที่หลบแดดของโยนาห์ที่เหนือยล้า แต่วันต่อมาก็ทรงทำให้ต้นไม้เหี่ยวเฉา โยนาห์ตัดพ้อต่อว่าพระเจ้าอีก พระองค์จึงตรัสว่า ต้นไม้นั้นโยนาห์ก็ไม่ได้ปลูกเองและเป็นเจ้าของ ดังนั้นพระองค์จะทำอย่างไรกับต้นไม้ก็ได้ เช่นเดียวกับเมืองนีนาเวห์ ในเมื่อชาวเมืองกลับใจแล้ว พระองค์ก็ไม่ทรงลงโทษก็เป็นเรื่องที่ชอบธรรมแล้ว
****************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น