วันเสาร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2560

คำทำนายของนักบุญมาลาคีเกี่ยวกับพระสันตปาปา


นักบุญมาลาคีได้ทำนายชื่อของพระสันตะปาปาไว้ 112 องค์ นับตั้งแต่โป๊ปอินโนเซนต์ที่ 2 (ปี 1130-1143) เป็นต้นมา  เมื่อครั้งที่พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ทรงลาออกจากตำแหน่ง ทำให้เกิดความสนใจในคำทำนายของนักบุญมาลาคีขึ้นอีกครั้ง  เพราะเชื่อกันว่าพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 เป็นพระสันตะปาปาลำดับที่ 111 และพระสันตะปาปาองค์ต่อไปจะเป็นลำดับที่ 112 และเป็นองค์สุดท้าย  ดังชื่อที่นำมาลงไว้เป็นพระสันตะปาปา 5 องค์สุดท้ายตามคำทำนายของนักบุญมาลาคี

1.        Flos Florum (“Flower of Flowers”) – Pope Paul VI (พระสันตะปาปาเปาโลที่ 6)
2.        De medietate Lunae (“Of the Half Moon”) – Pope Juan Pablo I (พระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 1)
3.        De Labore Solis (“From the Toil of the Sun”) – Pope John Paul II (พระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2)
4.        Gloria Olivae (“The Glory of the Olive”) – Pope Benedict XVI (พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16)
5.        Petrus Romanus (“Peter the Roman”) – Pope Francis I (พระสันตปาปาฟรังซิส)

แต่ก็มีความเห็นแย้งเช่นกันว่า พระสันตปาปาฟรังซิสไม่ใช่พระสันตะปาปาองค์สุดท้ายตามคำทำนาย  เพราะนักบุญมาลาคีต้องทำนายเฉพาะพระสันปาปาที่ขึ้นมาดำรงตำแหน่งอย่างถูกต้องเท่านั้น  แต่ในอดีตมีพระสันตะปาปาบางองค์ที่ดำรงตำแหน่งอย่างไม่ถูกต้องที่เรียกว่า แอนตี้โป๊ป  ดังนั้นพระสันตะปาปาดังกล่าวย่อมไม่อยู่ในรายชื่อของนักบุญมาลาคี (และถ้าเป็นดังนี้จะมีพระสันตปาปาต่อจากพระสันตปาปาฟรังซิสอีก 7 พระองค์)   อีกประการหนึ่งคือ  พระสันตะปาปาองค์ใหม่จะดำรงตำแหน่งต่อเมื่อพระสันตะปาปาองค์เดิมสิ้นพระชนม์แล้ว  แต่ในกรณีของพระสันตปาปาฟรังซิสทรงดำรงตำแหน่งเพราะพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ทรงลาออกจากตำแหน่ง  จึงไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขนี้

ซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้ พระสันตปาปาฟรังซิสก็ไม่ใช่ เปโตรชาวโรมัน Petrus Romanus แต่เป็น Gloria Olivae ที่ต่อจากองค์เดิมนั่นคือเป็น Gloria Olivae II (สง่าราศีของต้นมะกอกที่ 2) สืบต่อจากพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่16 (พระสันตปาปาฟรังซิสเองก็เคยกล่าวว่าอาจจะขอสละตำแหน่งในอีกสามปีข้างหน้า  และอาจเป็นไปได้ที่พระสันตปาปาองค์ต่อๆไปอาจจะสละตำแหน่งเช่นเดียวกัน)

ท่านอธิการ Joachim Merlin ได้ทำนายว่า ผู้อภิบาลศักดิสิทธิ์ (พระสันตะปาปา) สามองค์จะมาสืบทอดตำแหน่งจากพระสันตปาปาผู้ยิ่งใหญ่ชาวฝรั่งเศส  และสองในสามองค์นี้จะขอลาออกจากตำแหน่งโดยทำหน้าที่เป็นเพียงผู้สนับสนุนพระสันตปาปาองค์ต่อไป (เรียกว่า "backup popes")

----------------------

บางคนมีข้อสังเกตว่า มีหลักฐานบางอย่างที่แสดงว่าคำทำนายของ น.มาลาคีเป็นจริง ยกตัวอย่าง พระสันตะปาปาเปาโลที่ 6 มีตราที่เสื้อโค๊ทเป็นรูปดอกลิลลี่ 3 ดอก fleur-de-lys ซึ่งสอดคล้องกับคำทำนายว่า “บุปผาแห่งมวลบุปผา” (“Flower of Flowers”) แต่ความเชื่อมโยงระหว่างคำทำนายและพระสันตปาปาเป็นเรื่องที่เห็นได้ไม่ค่อยชัดเจนนัก

น.มาลาคี ได้บรรยายเหตุการณ์เกี่ยวกับพระสันตะปาปาองค์สุดท้ายไว้ว่า "ระหว่างการเบียดเบียนครั้งสุดท้ายต่อพระศาสนจักรโรมันอันศักดิ์สิทธิ์  "Petrus Romanus"จะขึ้นครองราชย์ พระองค์จะเลี้ยงดูฝูงแกะของพระองค์ในความทุกข์เข็ญนานับประการ หลังจากนั้นนครแห่ง 7 ขุนเขา (โรม) จะถูกทำลาย  และมหาตุลาการจะทรงพิพากษาประชากรของพระองค์ อาแมน"

มีผู้แปลความหมายของคำทำนายนี้ว่า  “มหาตุลาการ” ก็คือพระเยซูเจ้านั่นเอง และการพิพากษาหมายถึงการลงโทษผู้ที่ทำลายพระศาสนจักร โรมจะถูกทำลายและพระสันตปาปาที่ได้รับการแต่งตั้งจะต้องหนีลี้ภัยไปที่อื่น  และพระสันตะปาปาจะได้รับความช่วยเหลือจากมหาพันธมิตร(ที่อยู่ในราชวงศ์ฝรั่งเศส)  พระองค์จะกลับมาสร้างพระราชวังพระสันตปาปาในโรมขึ้นใหม่ (ไม่ใช่วันสิ้นโลกอย่างที่เข้าใจกัน)

อย่างไรก็ตามคำทำนายเหล่านี้มีไว้เพื่อเตือนใจให้เราระวังตัวเท่านั้น และเราควรรับฟังคำพยากรณ์ที่มีที่มาจากพระเจ้าเท่านั้น อย่างเช่นคำพยากรณ์ของบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ และคำพยากรณ์ที่ปรากฏอยู่ในพระคัมภีร์ เช่น หนังสือดาเนียล  วิวรณ์ และ เซคารียาห์  เพราะคำพยากรณ์เหล่านั้นมีไว้เพื่อความดีของมนุษย์

อีกประการหนึ่งคำทำนายต่างๆอาจไม่เกิดขึ้นก็ได้  โดยเฉพาะในเรื่องคำทำนายเกี่ยวกับภัยพิบัติต่างๆ  เพราะสิ่งเหล่านี้ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของมนุษย์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการกลับใจ  เพราะพระเป็นเจ้าจะทรงให้อภัยและไม่ลงโทษมนุษย์  ถ้าหากมนุษย์กลับใจหันกลับมาหาพระองค์ มีตัวอย่างเรื่องนี้ในพระคัมภีร์ เช่น เรื่องของประกาศกโยนาห์  พระเป็นเจ้าทรงสั่งให้ประกาศกโยนาห์ไปที่เมืองนีนาเวห์ และประกาศแก่ชาวเมืองว่า อีกหนึ่งเดือนพระเป็นเจ้าจะทรงทำลายเมืองนี้เสีย  ชาวเมืองนีนาเวห์เมื่อได้ฟังต่างก็พากันเป็นทุกข์กลับใจตั้งแต่ผู้ปกครองมาจนถึงเด็ก พวกเขานำขี้เถ้ามาโปรยศีรษะ นุ่งห่มด้วยผ้ากระสอบ วอนขออภัยต่อพระเจ้า พระเป็นเจ้าทรงเห็นเช่นนี้จึงทรงเปลี่ยนพระทัยไม่ทำลายเมืองของพวกเขา  แต่คนที่เสียหน้ามากที่สุดก็คือประกาศกโยนาห์  เพราะเมืองไม่ได้ถูกทำลายตามที่เขาประกาศไว้  ประกาศกโยนาห์ถึงกับตัดพ้อต่อว่าพระเจ้าในเรื่องนี้  พระเป็นเจ้าจึงให้บทเรียนแก่โยนาห์ พระองค์ทำให้ต้นไม้โตขึ้นในคืนเดียวเพื่อเป็นที่หลบแดดของโยนาห์ที่เหนือยล้า  แต่วันต่อมาก็ทรงทำให้ต้นไม้เหี่ยวเฉา  โยนาห์ตัดพ้อต่อว่าพระเจ้าอีก พระองค์จึงตรัสว่า  ต้นไม้นั้นโยนาห์ก็ไม่ได้ปลูกเองและเป็นเจ้าของ ดังนั้นพระองค์จะทำอย่างไรกับต้นไม้ก็ได้  เช่นเดียวกับเมืองนีนาเวห์ ในเมื่อชาวเมืองกลับใจแล้ว พระองค์ก็ไม่ทรงลงโทษก็เป็นเรื่องที่ชอบธรรมแล้ว

****************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น