ฮัสสินี
จายาติลากา และศาสตราจารย์ เดนนิส วิร์ทส Hasini
Jayatilaka, left, and Denis Wirtz) ทำงานร่วมกันในสถาบัน NanoBioTechnology ในมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอพกินส์
ฮัสสินี Hasini
Jayatilaka ขณะที่เป็นนักศึกษาปีที่ 2 ของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอพกินส์
เธอทำงานในห้องแล็ปที่ศึกษาเกี่ยวกับเซลส์มะเร็ง เธอสังเกตเห็นว่าเมื่อเซลส์มะเร็งในเนื้องอกมีความหนาแน่นมากเกินไป
จะมีบางเซลส์ที่แตกออกจากเนื้องอกและเริ่มแพร่กระจายไปตามส่วนอื่นของร่างกายเธอไม่แน่ใจว่าอะไรที่เป็นสาเหตุ
จนกระทั่งเธอได้เข้าร่วมในการประชุมประจำปีและได้ฟังวิทยากรพูดเกี่ยวกับเซลส์แบคทีเรียที่มีพฤติกรรมแบบเดียวกัน และเมื่อเธอค้นคว้าบทความประจำปีเพื่อหาว่ามีใครที่เคยเขียนเกี่ยวกับพฤติกรรมของเซลส์มะเร็งในลักษณะนี้บ้างหรือไม่
ก็ไม่พบว่ามีใครเคยกล่าวไว้
เจ็ดปีต่อมา ทฤษฏีของฮัสสินีก็ได้พัฒนาจนค้นพบวิธีรักษามะเร็งที่ได้ผล
เจ็ดปีต่อมา ทฤษฏีของฮัสสินีก็ได้พัฒนาจนค้นพบวิธีรักษามะเร็งที่ได้ผล
ฮัสสินีและทีมงานที่มหาวิทยาลัยจอห์น
ฮอพกินส์ได้ค้นพบกระบวนการทางชีวเคมีที่อธิบายถึงการที่เซลส์มะเร็งแตกออกจากเนื้องอกและแพร่กระจายไปตามร่างกาย กระบวนการนี้เรียกว่า เมตาสเตสิส metastasis ผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็ง 90 % เสียชีวิตโดยมีสาเหตุจากการที่เซลส์มะเร็งเกิด เมตาสเตไซส์ metastasizes
(เซลส์แตกออกจากเนื้องอก) ทีมงานยังได้พบยาที่ช่วยชะลอการเกิด เมตาสเตไซส์
metastasizes ด้วย
ผลงานการศึกษานี้ถูกตีพิมพ์ทางออนไลน์ในวันที่ 26
พ.ค. ในหนังสือ journal Nature
Communications ขั้นต่อไปทางทีมงานจะทดสอบประสิทธิภาพของยานี้ในมนุษย์
นักวิจัยด้านมะเร็งและการรักษามะเร็งพยายามหาวิธีทำลายเนื้องอกโดยทำให้มันแตกหรือฉีกขาดด้วยวิธีเคมีบำบัดหรือวิธีการอื่นๆ แต่ทางทีมงานบอกว่า กระบวนการกำจัด metastasis
จะช่วยให้คนไข้มีโอกาสรอดมากกว่า
ฮัสสินีเริ่มศึกษาวิธีที่เซลส์มะเร็งสื่อสารกับเซลส์มะเร็งด้วยกันเอง
โดยใช้โมเดลสามมิติเลียนแบบเนื้อเยื่อของมนุษย์ ไม่ใช่วิธีสังเกตเนื้อเยื่อที่เพาะในจานเพาะ นักวิจัยหลายคนเชื่อว่า metastasis
เกิดขึ้นหลังจากที่เนื้องอกเติบโตถึงขนาดหนึ่ง
แต่ฮัสสินีพบว่าความหนาแน่นของเนื้องอกเป็นสิ่งที่จะบ่งบอกถึงการเกิด metastasis
เมื่อเนื้องอกเติบโตจนมีความหนาแน่นถึงระดับหนึ่ง มันจะปลดปล่อยโปรตีนสองตัวที่เรียกว่า Interleukin 6 และ
Interleukin 8 ซึ่งจะเป็นตัวบ่งชี้ว่าเซลส์มะเร็งได้เติบโตมากเกินไปและถึงเวลาที่มันจะแตกและแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นของร่างกาย
ทีมนักวิจัยกล่าวว่า โปรตีน Interleukin
จะเป็นตัวกระตุ้นให้เนื้องอกแตก
ดังนั้นถ้าเราใส่โปรตีนตัวนี้ลงไปในเนื้องอก มันก็จะเริ่มกระบวนการ metastasized
ทีมนักวิจัยจึงทดสอบตัวยาสองตัวที่ทำงานในโปรตีนInterleukin เพื่อดูว่ามันจะสามารถบล็อกหรือชะลอ
metastasis ในหนูทดลองได้หรือเปล่า และการทดสอบได้ผลว่าตัวยาสองตัวนี้ถ้าใช้ร่วมกันจะสามารถบล็อกสัญญาณจากโปรตีน
Interleukin ไม่ให้ไปบอกเซลส์มะเร็งเพื่อทำให้มันแตกออกได้ แต่นี่เป็นเพียงการชะลอ metastasis ให้ช้าลง
ยังไม่ใช่เป็นการหยุดยั้งอย่างสมบูรณ์
ถึงแม้จะยังไม่สามารถหยุดยั้งอย่างสมบูรณ์ แต่หนูทดลองก็รอดชีวิต ถ้าหากค้นหายาใหม่เพิ่มเติม
หรือเพิ่มปริมาณยาก็อาจทำให้ metastasis หยุดลงอย่างสมบูรณ์ก็เป็นได้
เมื่อเปรียบเทียบกับวิธีทางเคมีบำบัดซึ่งก่อให้เกิดผลข้างเคียงแล้วเช่น
ผมร่วง อาเจียน
วิธีการใหม่นี้ให้ผลข้างเคียงน้อยมาก
ทีมวิจัยกล่าวว่า
ในอนาคตเราอาจต่อสู้กับมะเร็งโดยใช้วิธีผสมผสานระหว่างเคมีบำบัดกับการให้ยาสองตัวที่ได้พัฒนาขึ้นใหม่นี้ซึ่งจะสามารถมั่นใจได้ว่าจะหยุดยั้ง
metastasize ได้
--------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น