วิญญาณที่ได้รับพระพรของทุกคนมีความสุขอย่างเต็มเปี่ยมในอาณาจักรสวรรค์
และระดับของความสุขนั้นจะมากน้อยขึ้นอยู่กับความสามารถหรือพละกำลังของแต่ละวิญญาณที่สามารถรับได้
ความสามารถของวิญญาณในการรับความสุขแห่งสวรรค์นั้นได้มาจากระยะเวลาที่วิญญาณนั้นๆพัฒนาขึ้นขณะดำรงชีวิตอยู่ในโลก ดังนั้นบรรดาวิญญาณของผู้ที่ศักดิ์สิทธิ์มากได้พัฒนาความรักของท่านที่มีต่อพระเป็นเจ้าและต่อเพื่อนมนุษย์ขณะที่ท่านมีชีวิตอยู่บนโลก
ทำให้วิญญาณของท่านมีความสามารถในการรับความสุขของพระเป็นเจ้าได้มากกว่าวิญญาณของผู้ที่มีพัฒนาการด้านความรักนี้น้อยกว่า
ดังนั้นความรักต่อพระเป็นเจ้าและต่อเพื่อนมนุษย์ขณะที่มีชีวิตอยู่บนโลกส่งผลไปถึงชีวิตนิรันดรของแต่ละบุคคล
อีกประการหนึ่งบุคคลที่เสียสละชีวิตของเขาเพื่อพระเป็นเจ้าและเพื่อเพื่อนมนุษย์มากเพราะความรัก พระเป็นเจ้าก็ย่อมจะประทานเกียรติแก่บุคคลนั้นมากกว่าผู้ที่เสียสละตนเองน้อยกว่า อย่างไรก็ตาม วิญญาณทุกดวงจะได้รับความสุขอย่างเต็มที่เท่าที่สามารถรับได้
วิญญาณของผู้ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายจะแบ่งปันความสุขให้แก่กันและกัน มอบความรักให้แก่กันและกัน ในสวรรค์จึงเต็มไปด้วยความสุขของทุกคน
มีระดับชั้นในสวรรค์ด้วย
ที่เมืองลิสตรา เปาโลได้เทศน์สอนและทำสิ่งอัศจรรย์ ทำให้ประชาชนกลับใจมาเชื่อในพระเยซูเจ้ามากมาย แต่ก็ทำให้ชาวยิวรู้สึกไม่พอใจ พวกเขาเอาหินขว้างใส่เปาโล ทำให้เปาโลบาดเจ็บ ขณะที่บาดเจ็บ เปาโลถูกนำขึ้นไปสู่สวรรค์ นักบุญเปาโลได้เล่าเรื่องการไปสู่สวรรค์ว่า “ข้าพเจ้ารู้จักมนุษย์คนหนึ่งผู้เลื่อมใสในพระคริสตเจ้า (หมายถึงตัวท่านเอง) เมื่อสิบสี่ปีมาแล้ว เขาถูกดึงตัวขึ้นสวรรค์ชั้นที่สาม แต่จะไปในร่างกายหรือนอกร่างกาย ข้าพเจ้าไม่อาจรู้ได้ พระเจ้าทรงทราบ" (2โครินทร์12 :2-5) และท่านบรรยายถึงสวรรค์ว่า “เป็นสิ่งที่ตาไม่เคยเห็น หูไม่เคยได้ยิน
และจิตใจของมนุษย์ไม่อาจเข้าใจได้ในสิ่งที่พระเป็นเจ้าทรงจัดเตรียมไว้ให้สำหรับผู้ที่รักพระองค์” (1โครินทร์2:9)
4. ความพ้นจากทุกข์ทั้งปวง วิญญาณจะไม่ประสบความทุกข์อีกเลย
ระดับชั้นในสวรรค์แต่ละชั้นเป็นอย่างไร? ไม่มีใครรู้ได้ ผู้ที่ได้รับประสบการณ์หลังความตายหรือใกล้ตายได้เล่าบรรยายถึงสวรรค์ที่พวกเขาเห็นไว้หลายแบบ บางคนบอกว่าได้เห็นสวนที่สวยงาม ซึ่งเต็มไปด้วยดอกไม้สวยงามหลากหลายชนิดที่ไม่มีในโลก
มีกลิ่นหอมอบอวลไปทั่ว มีผู้คนมากมายกำลังเล่นอย่างสนุกสนาน มีเสียงดนตรีไพเราะ
มีอาคารที่สวยงาม บรรยากาศแห่งความสุขแผ่กระจายไปทั่ว ฯลฯ.....ครั้งหนึ่งนักบุญโดมินิก
ซาวีโอได้ปรากฏแก่คุณพ่อบอสโกในความฝัน
และคุณพ่อบอสโกเห็นสิ่งต่างๆตามที่กล่าวมานี้ น.โดมินิกบอกคุณพ่อบอสโกว่าสิ่งที่ท่านเห็นนี้ยังไม่ใช่สวรรค์ แต่เป็นเพียงสิ่งที่คล้ายหรือใกล้เคียงสวรรค์เท่านั้น
(แต่ก็ยังห่างไกลจากสวรรค์มาก)
เพราะถ้าคุณพ่อบอสโกเห็นสวรรค์จริงๆแล้ว
ท่านอาจตายเพราะความสุขล้นเหลือของสวรรค์ได้ เราจึงไม่อาจจินตนาการได้อย่างชัดเจนในเรื่องความสุขของสวรรค์ ระดับชั้นในสวรรค์อาจแบ่งตามความศักดิ์สิทธิ์ของวิญญาณแต่ละดวง
และมีฐานันดรที่พระเป็นเจ้าทรงแบ่งไว้ เช่นฐานันดรสำหรับวิญญาณของพระสงฆ์ ของนักบวช พรหมจารีย์
ปิตาจารย์ อัครสาวก มรณสักขี
และของบุคคลทั่วไป แต่วิญญาณก็สามารถติดต่อสื่อสารกันได้เสมอโดยไม่มีการแบ่งชั้นวรรณะ
พระเป็นเจ้าทรงจัดทุกสิ่งไว้อย่างเป็นระเบียบเสมอ
วิญญาณที่มีความรักต่อพระเป็นเจ้ามากในเวลาที่มีชีวิตอยู่บนโลกก็สามารถรับความรักจากพระเป็นเจ้าได้มาก
วิญญาณนั้นก็อยู่ใกล้ชิดพระเป็นเจ้ามาก
วิญญาณที่รักพระเป็นเจ้าน้อยกว่าก็สามารถรับความรักจากพระเป็นเจ้าได้น้อยกว่า
วิญญาณนั้นก็อยู่ห่างจากพระเป็นเจ้าไปอีกเล็กน้อย แต่ไม่ว่าจะอยู่ในระดับชั้นใดในสวรรค์ วิญญาณทุกดวงได้เห็นพระเป็นเจ้าหน้าต่อหน้า
ได้รู้จักพระเป็นเจ้าตามที่พระองค์ทรงเป็นจริง
ความสามารถในการรับความสุขของสวรรค์
นักบุญหลุยส์
มาร์ติน บิดาของนักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเยซู ได้สอนลูกสาวห้าคนของท่านเกี่ยวกับความสุขของสวรรค์ที่วิญญาณแต่ละดวงได้รับ
โดยเปรียบเทียบวิญญาณแต่ละดวงกับถ้วยแก้วบรรจุน้ำแต่ละใบที่มีขนาดไม่เท่ากัน มีถ้วยแก้วขนาดเล็ก ขนาดปานกลาง
และขนาดใหญ่ แต่ละใบบรรจุน้ำได้ไม่เท่ากัน
แต่ทุกใบก็มีน้ำอยู่เต็มถ้วยจนไม่สามารถรับน้ำได้อีก
ฉันใดก็ฉันนั้น วิญญาณแต่ละดวงก็ได้รับความสุขอย่างเต็มเปี่ยม ถึงแม้จะได้รับความสุขไม่เท่ากันก็ตาม ในสวรรค์ไม่มีความเจ็บปวดหรือความทุกข์แม้แต่ที่เล็กน้อยที่สุด
ปีเตอร์ คลีฟได้อธิบายในหนังสือ The
God Who Loves You, (Peter Kreeft) “วิญญาณทุกดวงจะมีน้ำใจสอดคล้องกับน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้าเสมอ.....วิญญาณไม่พอใจในบาปของมนุษย์บนโลก....ความสุขในสวรรค์ไม่มีสิ่งใดมาทำลายได้
แม้จะเป็นความรู้ว่าผู้ที่เขารักนั้นไปอยู่ในนรกก็ตาม
วิญญาณจะยังคงรักวิญญาณที่ถูกสาปแช่ง
แต่ความรักของท่านเป็นเหมือนความรักของพระเป็นเจ้า
เป็นความรักที่ไม่ขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ ความรักนี้ไม่ต้องการสิ่งตอบแทน”
วิญญาณทุกดวงในสวรรค์จะมีจิตอันสดใสรุ่งโรจน์และมีสิ่งที่เหมือนกัน
4 อย่างคือ
1.
ความงดงาม วิญญาณมีจิตที่สวยงามรุ่งโรจน์เป็นอย่างยิ่ง พระเยซูเจ้าตรัสว่า "ผู้ต่ำต้อยที่สุดในอาณาจักรสวรรค์ก็ยังยิ่งใหญ่กว่ายอห์น (บัพติส)" มธ 11.2-11
2.
ความรวดเร็วว่องไว วิญญาณสามารถเคลื่อนย้ายไปตามที่ต่างๆได้อย่างรวดเร็วเพียงแต่มีความต้องการเท่านั้นก็สามารถเคลื่อนย้ายไปสู่ที่ที่ต้องการได้
3.
ความละเอียดอ่อน วิญญาณสามารถผ่านวัตถุสสารได้เหมือนเช่นที่พระเยซูเจ้าทรงผ่านประตูห้องที่ปิดอยู่เพื่อเข้าไปพบกับอัครสาวกในห้องชั้นบนหลังจากทรงกลับคืนพระชนม์แล้ว (ยอห์น 20:19)
4. ความพ้นจากทุกข์ทั้งปวง วิญญาณจะไม่ประสบความทุกข์อีกเลย
และสุดท้ายความสุขในสวรรค์นั้นไม่มีสิ้นสุด
แต่จะคงอยู่ตลอดไปชั่วนิรันดร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น