2 ธันวาคม 2016
By Whitney Hetzel
คนเป็นจำนวนมากที่เชื่อในพระเจ้าและพระเมตตาของพระองค์และยังเชื่อในการปรากฏอยู่ของพระคริสต์ในศีลมหาสนิทด้วย บางครั้งสวรรค์เบื้องบนก็ประทานเครื่องหมายบางอย่างเพื่อช่วยให้เรามีความหวังในพระเยซูเจ้า
เพื่อนคนหนึ่งของผมได้รับเครื่องหมายนี้ขณะที่เขากำลังคุกเข่านมัสการศีลมหาสนิท
เขาได้เห็นบางอย่าง
ผมไม่ขอเอ่ยนามของเพื่อนของผมและสถานที่ที่เกิดเหตุการณ์นี้เพราะมีกระบวนการสอบสวนเรื่องนี้อยู่ก่อนที่ทางโบสถ์จะประกาศว่าเรื่องนี้เป็น”อัศจรรย์ศีลมหาสนิท”
เราจึงควรเคารพในกระบวนการนี้
และนี่คือเรื่องราวที่เพื่อนของผมได้เขียนมาเล่าแก่ผม
อัศจรรย์ศีลมหาสนิทเกิดขึ้นในระหว่างการอวยพรศีลของพิธีเคารพศีลมหาสนิทในวันที่
25 มิ.ย. 2016 เวลา 18.34 น. ในห้องประชุมของโรงเรียนอันเป็นสถานที่จัดให้มีการฟื้นฟูจิตใจให้แก่นักเรียน และผม (เพื่อนของ
Whitney Hetzel ผู้เขียน) เป็นพี่เลี้ยงของเด็ก มีการจัดพระแท่นที่ห้องโถงนั้น
ผมอยู่ที่นั่นพร้อมกับภรรยาและลูกชายคนเล็กที่เรียนอยู่ในโรงเรียนนี้และเข้าร่วมการฟื้นฟูจิตใจด้วย
มีพี่เลี้ยงคนอื่นๆในค่ายฟื้นฟูจิตใจนี้หลายคน กลุ่มของเราทำงานตลอดทั้งสัปดาห์ในชุมชนที่ยากจนแห่งหนึ่ง เราช่วยกันทำความสะอาดชุมชน ทาสีและเปลี่ยนแปลงโรงเรียนประถมให้เป็นศูนย์เยาวชนของชุมชนแห่งนั้น
ในวันสุดท้ายก่อนที่เราจะกลับไปที่โบสถ์ของเรา มีหมายกำหนดการเคารพและอวยพรศีลมหาสนิทสำหรับเยาวชนทุกคนรวมทั้งบรรดาพี่เลี้ยงด้วย
(มีคนทั้งหมด 300 คน)
ขณะที่พิธีเคารพศีลมหาสนิทใกล้สิ้นสุด
และพระสงฆ์ผู้เป็นประธานในพิธีกำลังชูศีลขึ้นอวยพร ผมเห็นแสงสว่างเริ่มส่องแสงเป็นเปลวไฟจากรัศมีที่บรรจุแผ่นศีลซึ่งตั้งอยู่บนพระแท่น
รัศมีนี้ทำด้วยไม้มีส่วนที่เป็นโลหะประกอบอยู่น้อยมาก
ผมแน่ใจในสิ่งที่ผมเห็นในเวลาที่อวยพรศีลมหาสนิท....ไฟนี้ส่องออกมาจากพระเป็นเจ้าในศีลมหาสนิท
ขณะที่เปลวไฟเริ่มส่องออกมาและเต้น ผมดึงเอาไอโฟนออกมาจากกระเป๋าหลังและถ่ายภาพไว้ประมาณ
9-10 วินาที
ภรรยาของผมรู้สึกโกรธเคืองในการกระทำของผม
แต่ผมประหลาดใจในสิ่งที่มองเห็นมากผมจึงต้องการเก็บภาพไว้ให้ได้
ภาพถูกถ่ายได้ในขณะที่พระสงฆ์ผู้เป็นประธานกำลังอวยพรและกำลังสวดภาวนาตามพิธีกรรม ในรูปสุดท้าย พระสงฆ์กำลังชูรัศมี แสง (หรือเปลวไฟ) สว่างเจิดจ้าเหมือนดวงอาทิตย์
ทำให้เวทีพลอยสว่างสไวไปด้วย
มันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว....แล้วก็หายไป
ผมเก็บไอโฟนไว้ในกระเป๋าหลังเหมือนเดิม พระสงฆ์ประกอบพิธีเสร็จแล้ว เริ่มการเดินแห่ไปในห้องประชุมเพื่อนำแผ่นศีลไปเก็บไว้ที่ตู้ศีลในโบสถ์น้อย
ขณะที่ผมและภรรยาเดินออกจากห้องประชุม เธอถามผมว่าผมทำอะไรในระหว่างพิธี ผมจึงอธิบายให้เธอรู้ว่าผมได้ถ่ายรูปแสงสว่างที่ออกมาจากรัศมี
ภรรยาของผมมองดูผมด้วยความสงสัยและถามผมว่า
“เปลวไฟอะไร?” ผมจึงเอาไอโฟนออกมาจากกระเป๋าและให้เธอดูภาพที่ผมถ่ายเอาไว้
ทันทีที่เธอเห็นรูปภาพสี่ภาพเธอบอกว่าเธอไม่เห็นอะไรที่เป็นเปลวไฟหรือแสงเลย เธอเห็นแต่รัศมีที่อยู่บนพระท่านที่สลัวๆ เราทั้งสองนิ่งเงียบ...ระหว่างพิธีเคารพศีลนั้นภรรยาของผมคุกเข่าอยู่ข้างๆผม...ทำไมเธอจึงไม่เห็นสิ่งนี้ล่ะ?
ทันทีผมรีบถามเพื่อนของผมซึ่งคุกเข่าอยู่ด้านซ้ายมือของผมในระหว่างพิธี
– พวกคุณเห็นเปลวไฟไหม?
พวกเขามองผมด้วยความสงสัยและพูดว่า “ไม่เห็น - เปลวไฟหรือแสงอะไรหรือ?” ทำไมพวกเขาจึงไม่เห็นอะไรเลย?
ผมจึงไปหาพระสงฆ์และถามท่านว่าท่านเห็นแสงสว่างหรือแสงสะท้อนอะไรจากรัศมีบ้างหรือไม่ คำตอบก็คือ”ไม่” ผมจึงแสดงรูปภาพให้ท่านดู ท่านถึงกับตะลึงในสิ่งที่ท่านเห็น
พระสงฆ์เอารูปถ่ายของผมไปและเดินกลับไปที่ห้องโถง เวลานั้นอาสาสมัครผู้ทำงานกำลังเก็บข้าวของเครื่องดนตรีที่ใช้เล่นในระหว่างพิธีเคารพศีล
พระสงฆ์ถามพวกเขาว่าระหว่างพิธีมีการส่องแสงไฟมาที่รัศมีบนพระแท่นหรือเปล่า? พวกเขาตอบว่า “เปล่า, ไม่มี” พวกเราจึงมองหาสป็อตไลท์หรืออุปกรณ์ที่ให้แสงในบริเวณนั้น เรายังได้ถามแต่ละคนว่าพวกเขาเห็นแสงสว่างหรือแสงสะท้อนหรือเปล่า และคำตอบก็คือ”ไม่”
ในคืนนั้น
เราได้แสดงรูปถ่ายของผมให้บรรดาพี่เลี้ยงและเยาวชนเพื่อหาว่ามีใครที่เห็นแสงสว่าง
, แสงสะท้อนหรืออะไรที่ใกล้เคียง....และผลลัพท์ก็คือไม่มีใครเลยที่เห็น
(จากคนทั้งหมด 300 + ) นอกจากผมเพียงคนเดียว
ผมแสดงรูปถ่ายให้พระสงฆ์ท่านอื่นอีกสองท่านซึ่งผมรู้จักเพื่อขอความเห็นและคำแนะนำ ผมได้รับคำแนะนำจากทั้งสองท่านว่าให้ผมสวดภาวนาเพื่อขอให้พระเจ้าแสดงให้ผมรู้ว่าพระองค์ทรงประสงค์จะบอกอะไรกับผม ผมยังได้รับคำแนะนำไม่ให้ระบุชื่อของผม
เพื่อคนที่อยากรู้อยากเห็นในสิ่งอัศจรรย์จะได้ไม่กวนใจผม
การได้เห็นพระเจ้าในเปลวไฟของพระจิตเจ้าซึ่งเปล่งแสงออกมาจากศีลมหาสนิททำให้ชีวิตของผมเปลี่ยนแปลง
ผมตื่นเต้นที่ได้เห็นว่าพระเจ้าทรงกำลังเรียกผม
-------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น