วันอาทิตย์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2560

คุณพ่อปีโอสรรเสริญการได้รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ของพระนางมารีย์


นำมาจาก the Italian of the fourth book of the Letters of Padre Pio

            เหตุการณ์อันยิ่งใหญ่ที่มีค่าแก่การจดจำได้เวียนมาถึง เมื่อครบรอบปีของการขึ้นครองราชย์ของพระมหากษัตริย์ก็ย่อมมีการเฉลิมฉลองกันและนั่นเป็นชัยชนะที่สำคัญ แต่กระนั้นก็ดีบางครั้งวันครบรอบนั้นก็ตรงกับเหตุการณ์ความวิปโยคในพระศาสนจักรที่ทำให้หัวใจของคริสตชนคาทอลิกต้องเศร้าเสียใจ แต่สำหรับบรรดาบุตรธิดาที่น่ารักที่สุด  วันอันสวยงามนี้ได้รับการบันทึกว่าเป็นชัยชนะและพระเกียรติรุ่งโรจน์ของพระมารดาของพวกเขา  เราชาวคาทอลิกผู้ซึ่งเคารพเทิดทูนพระมารดามารีย์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง ผู้ทรงอ่อนโยนและน่ารักที่สุดยิ่งกว่ามารดาทั้งหลายจนไม่อาจพรรณนาได้  เราได้แต่ชื่นชมยินดีในวันนั้นอันเป็นที่ระลึกถึงชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของพระนาง  นั่นคือ วันที่พระนางได้รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณและพระนางทรงได้รับการสถาปนาให้เป็นราชินีแห่งสวรรค์ ราชินีของเหล่าเทวดาและนักบุญทั้งหลาย

เพราะฉะนั้น ให้เราหยุดที่นี่สักพักหนึ่งเพื่อพิจารณาไตร่ตรองถึงอำนาจและพระสิริรุ่งเรืองของการที่พระนางมารีย์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งทรงได้รับการยกขึ้นสู่สวรรค์ เพื่อที่เราจะได้มีความศรัทธาและเชื่อมั่นไว้วางใจในพระนางมากขึ้น

หลังจากที่พระเยซูคริสตเจ้าเสด็จสู่สวรรค์แล้ว  พระนางมารีย์ทรงมีความปรารถนาอันร้อนแรงที่จะได้อยู่ร่วมกับพระองค์ และ ดูเถิด พระนางทรงถอนพระทัย และทรงคร่ำครวญอย่างน่าสงสารถึงพระองค์ไม่หยุดหย่อน เพื่อที่พระองค์จะทรงเรียกพระนางให้ไปหาพระองค์  ปราศจากองค์พระบุตรของพระนาง ดูเหมือนว่าพระนางจะทรงอยู่ในแดนเนรเทศที่ยากลำบากที่สุด  ปีแล้วปีเล่าที่พระนางต้องแยกจากพระองค์ สำหรับพระนางแล้วนี่เป็นมรณสักขีที่เจ็บปวดและผ่านไปอย่างเชื่องช้าที่สุด มรณสักขีแห่งความรักซึ่งครอบคลุมจิตใจของพระนางทีละเล็กทีละน้อย  และแล้ว ในที่สุดชั่วโมงแห่งการโหยหาก็สิ้นสุดลง  พระนางมารีย์ทรงได้ยินเสียงของผู้เป็นสุดที่รักของพระนางที่เรียกมาจากเบื้องบน “เชิญมาเถิด ผู้เป็นสุดที่รักของเรา ผู้เป็นความยินดีของเรา ผู้เป็นเจ้าสาวของเรา เชิญมาเถิด โอ สุดที่รักแห่งดวงใจของเรา เวลาแห่งการคร่ำครวญของท่านบนโลกได้สิ้นสุดลงแล้ว  เชิญมาเถิด เจ้าสาว เชิญมารับจากองค์พระบิดา จากองค์พระบุตร และจากองค์พระจิตศักดิ์สิทธิ์  เชิญมารับมงกุฎที่ได้เตรียมไว้ให้ท่านแล้วในสวรรค์”   

            คำเชื้อเชิญของความรักส่งมาถึงพระนางมารีย์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งโดยอาศัยความรักอันร้อนแรงซึ่งทำให้พระนางบังเกิดความปรารถนามากยิ่งกว่าแต่ก่อนที่จะได้พบกับองค์พระบุตรของพระนางและได้อยู่ร่วมกับพระองค์  ดวงหทัยของพระนางบอกพระนางว่าการรอคอยของพระนางนั้นในที่สุดก็บรรลุสมความปรารถนาแล้ว  และพระนางทรงเป็นสุขยิ่งนักในการเตรียมตัวที่จะจากโลกนี้ไป พระนางเหมือนจะทรงได้ยินเสียงขับร้องเป็นเพลงประสานของเหล่านิกรเทวดาในสวรรค์  อย่างไรก็ตาม ดวงหทัยของพระนางก็รู้สึกแตกสลายเมื่อคิดว่ายังมีการแยกจากกันระหว่างองค์พระบุตรของพระนางผู้ทรงประทับอยู่ในสวรรค์กับบรรดาบุตรที่พระนางทรงรับไว้ที่อยู่บนโลก  นั่นคือบรรดาอัครสาวก  ในฐานะที่ทรงเป็นมารดาอ่อนโยนยิ่งนัก พระนางปรารถนาที่จะอวยพรพวกเขาก่อนที่พระนางจะจากโลกนี้  พระเป็นเจ้าทรงประสงค์ให้พระนางจากโลกนี้ไปอย่างสบายพระทัยจึงทรงทำให้ความประสงค์ของพระนางสำเร็จ  ในเวลาไม่นานนัก บรรดาอัครสาวกที่กระจัดกระจายไปในที่ต่างๆของโลกเพื่อประกาศพระวรสาร  ก็ถูกนำมายังบ้านอันต่ำต้อยของพระนางมารีย์ด้วยมือที่มองไม่เห็น  พระนางมารีย์ทรงยินดียิ่งนักที่ได้เห็นพวกเขา พระนางทรงบอกพวกเขาว่าพระนางจะได้ไปอยู่ร่วมกับองค์พระบุตรของพระนางในไม่ช้านี้แล้ว

            บรรดาอัครสาวก เมื่อได้ยินว่าพระนางมารีย์จะจากพวกเขาไปในไม่ช้านี้ ทำตัวเหมือนเด็กที่รู้ว่าจะต้องเป็นกำพร้า  พวกเขาร้องไห้คร่ำครวญด้วยความโศกเศร้า  พระนางจึงเสด็จมาใกล้พวกเขาเพื่อปลอบประโลมใจและให้คำมั่นกับพวกเขาว่าพระนางจะไม่ละทิ้งพวกเขา  แต่จะมาช่วยเหลือพวกเขาจากสวรรค์  พวกเขาไม่ยอมทิ้งให้พระนางต้องอยู่เพียงลำพังแม้เพียงชั่วครู่เดียว  พระนางมารีย์จึงปลอบโยนความโศกเศร้าของพวกเขา  โดยตรัสว่าพวกเขาก็จะได้อยู่ในสวรรค์เช่นเดียวกัน  ทรงประทานคำปรึกษาอันชาญฉลาดด้วยคำพูดปลอบประโลมใจต่อบรรดาอัครสาวกที่จิตใจอ้างว้างเศร้าโศก

                 ความรักอันศักดิ์สิทธิ์ที่เผาไหม้ในดวงหทัยของพระนางมารีย์ร้อนแรงเป็นอย่างยิ่งเช่นนี้ จนพระกายมนุษย์ของพระนางมิอาจทนทานได้  ดังนั้นพระวิญญาณของพระนางมารีย์ที่เปรียบเสมือนนกพิราบที่โบยบินไป ก็ได้แยกจากพระกายของพระนาง และโบยบินไปสู่พระอุระของผู้เป็นสุดที่รักของพระนาง   แต่พระเยซูเจ้าผู้ทรงปกครองในสวรรค์ในพระกายมนุษย์อันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ที่พระองค์ทรงได้รับมาจากพระครรภ์ของพระนางพรหมจารีย์มารีย์  ทรงปรารถนาให้พระมารดาของพระองค์ ไม่เพียงแต่พระวิญญาณของพระนางเท่านั้นแต่รวมถึงพระกายของพระนางด้วย  ได้มาอยู่กับพระองค์และได้รับพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์อย่างบริบูรณ์  และสิ่งนี้เป็นความชอบธรรมและถูกต้อง  พระกายของพระนางซึ่งไม่เคยเป็นทาสของปีศาจหรือบาปใดๆเลย  ไม่สมควรที่จะต้องเปื่อยเน่าไป

บัดนี้คำพูดใดเล่าจะสามารถบรรยายได้ถึงชัยชนะแห่งการเข้าสู่สวรรค์ของพระนางมารีย์? ถ้าหากการเฉลิมฉลองบนโลกนี้ถูกจัดเตรียมไว้อย่างยิ่งใหญ่เพื่อปลุกเร้าใจประชาชนให้บังเกิดความกระตือรือร้น  ดึงดูดใจประชาชนให้คิดพิจารณาถึงพระเกียรติของพระนางเช่นนี้  แล้วใครเล่าจะสามารถบรรยายถึงชัยชนะที่พระเป็นเจ้าเองทรงจัดเตรียมไว้ให้แด่พระมารดาของพระองค์เองได้เล่า?  นักบุญอังแซล์มยืนยันว่า องค์พระผู้ไถ่ทรงปรารถนาที่จะเสด็จสู่สวรรค์ก่อนพระมารดาของพระองค์  มิใช่เพียงเพื่อเตรียมพระบัลลังก์อันล้ำค่าสำหรับการเป็นราชินีของพระนางเท่านั้น  แต่เพื่อเตรียมชัยชนะอันยิ่งใหญ่และพระเกียรติรุ่งโรจน์ของการเข้าสู่สวรรค์ของพระนางด้วย  เพื่อเป็นการต้อนรับพระนาง ณ. สวรรค์และได้มาพบกับพระองค์และบรรดานิกรเทวดาทั้งหลายทุกชั้นทุกฐานันดร    ด้วยเหตุนี้ นักบุญปีเตอร์ ดาเมียนจึงไม่ลังเลใจที่จะยืนยันว่าการได้รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณของพระนางมารีย์นั้นยิ่งใหญ่และมีเกียรติรุ่งโรจน์ยิ่งกว่าการเสด็จสู่สวรรค์ของพระเยซูคริสตเจ้าเสียอีก  เพราะมีเพียงเหล่านิกรเทวดาเท่านั้นที่มาต้อนรับพระคริสตเจ้า  แต่สำหรับพระมารดามารีย์  ไม่เพียงแต่เหล่านิกรเทวดาที่มาต้อนรับพระนาง แต่ยังมีเหล่านักบุญและผู้ศักดิ์สิทธิทั้งหลาย และรวมถึงพระเยซูเจ้าเองด้วย

 

พระนางทรงตื่นจากบรรทมแห่งความตาย  ทูตสวรรค์ทั้งหลายมาเปิดพระคูหาที่บรรจุร่างกายของพระนางไว้  องค์พระบุตรของพระนางทรงยื่นพระหัตถ์ออกมายังพระนาง  และพระนางมารีย์ทรงติดตามพระองค์ไป  พระอานุภาพและแสงสว่างอันเจิดจ้าส่องสว่างดุจดวงอาทิตย์ที่กำลังขึ้น  พระนางทรงลอยขึ้นจากแผ่นดินอย่างนุ่มนวลและสงบเงียบ ขึ้นไปสู่กลุ่มเมฆและบรรยากาศแห่งสวรรค์อันเป็นขอบเขตแห่งผู้ได้รับพระพร  ประตูสวรรค์เปิดออกและพระมารดาของพระเจ้าทรงเข้าสู่ประตูสวรรค์นั้น  ในทันทีที่บรรดานักบุญทั้งหลายในสวรรค์ได้เห็นพระนางเสด็จมาในรังสีอันสดใสและความงามยิ่งนัก  การเฉลิมฉลองอันยิ่งใหญ่และความชื่นชมยินดีล้นพ้นก็บังเกิดขึ้น  เพื่อต้อนรับพระนางและเทิดพระเกียรติพระนางด้วยฐานะอันสูงส่ง  นักบุญทุกองค์ต่างน้อมคารวะพระนางด้วยการหมอบกราบแทบพระบาทของพระนาง และพากันร้องเสียงกึกก้องประกาศว่าพระนางทรงเป็นราชินีของพวกท่าน      องค์พระตรีเอกภาพเสด็จร่วมในการเฉลิมฉลองในสวรรค์ด้วย  พระบิดาทรงต้อนรับพระนางในฐานะบุตรีสุดที่รักของพระองค์ และทรงเชื้อเชิญให้พระนางมีส่วนร่วมในพระอานุภาพของพระองค์

---------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น