นำมาจาก the Italian of the fourth book of the Letters
of Padre Pio
เหตุการณ์อันยิ่งใหญ่ที่มีค่าแก่การจดจำได้เวียนมาถึง
เมื่อครบรอบปีของการขึ้นครองราชย์ของพระมหากษัตริย์ก็ย่อมมีการเฉลิมฉลองกันและนั่นเป็นชัยชนะที่สำคัญ
แต่กระนั้นก็ดีบางครั้งวันครบรอบนั้นก็ตรงกับเหตุการณ์ความวิปโยคในพระศาสนจักรที่ทำให้หัวใจของคริสตชนคาทอลิกต้องเศร้าเสียใจ
แต่สำหรับบรรดาบุตรธิดาที่น่ารักที่สุด วันอันสวยงามนี้ได้รับการบันทึกว่าเป็นชัยชนะและพระเกียรติรุ่งโรจน์ของพระมารดาของพวกเขา
เราชาวคาทอลิกผู้ซึ่งเคารพเทิดทูนพระมารดามารีย์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง
ผู้ทรงอ่อนโยนและน่ารักที่สุดยิ่งกว่ามารดาทั้งหลายจนไม่อาจพรรณนาได้ เราได้แต่ชื่นชมยินดีในวันนั้นอันเป็นที่ระลึกถึงชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของพระนาง นั่นคือ
วันที่พระนางได้รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณและพระนางทรงได้รับการสถาปนาให้เป็นราชินีแห่งสวรรค์
ราชินีของเหล่าเทวดาและนักบุญทั้งหลาย
เพราะฉะนั้น
ให้เราหยุดที่นี่สักพักหนึ่งเพื่อพิจารณาไตร่ตรองถึงอำนาจและพระสิริรุ่งเรืองของการที่พระนางมารีย์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งทรงได้รับการยกขึ้นสู่สวรรค์
เพื่อที่เราจะได้มีความศรัทธาและเชื่อมั่นไว้วางใจในพระนางมากขึ้น
หลังจากที่พระเยซูคริสตเจ้าเสด็จสู่สวรรค์แล้ว
พระนางมารีย์ทรงมีความปรารถนาอันร้อนแรงที่จะได้อยู่ร่วมกับพระองค์ และ
ดูเถิด พระนางทรงถอนพระทัย และทรงคร่ำครวญอย่างน่าสงสารถึงพระองค์ไม่หยุดหย่อน
เพื่อที่พระองค์จะทรงเรียกพระนางให้ไปหาพระองค์
ปราศจากองค์พระบุตรของพระนาง
ดูเหมือนว่าพระนางจะทรงอยู่ในแดนเนรเทศที่ยากลำบากที่สุด ปีแล้วปีเล่าที่พระนางต้องแยกจากพระองค์ สำหรับพระนางแล้วนี่เป็นมรณสักขีที่เจ็บปวดและผ่านไปอย่างเชื่องช้าที่สุด มรณสักขีแห่งความรักซึ่งครอบคลุมจิตใจของพระนางทีละเล็กทีละน้อย และแล้ว
ในที่สุดชั่วโมงแห่งการโหยหาก็สิ้นสุดลง
พระนางมารีย์ทรงได้ยินเสียงของผู้เป็นสุดที่รักของพระนางที่เรียกมาจากเบื้องบน
“เชิญมาเถิด ผู้เป็นสุดที่รักของเรา ผู้เป็นความยินดีของเรา ผู้เป็นเจ้าสาวของเรา เชิญมาเถิด
โอ สุดที่รักแห่งดวงใจของเรา เวลาแห่งการคร่ำครวญของท่านบนโลกได้สิ้นสุดลงแล้ว เชิญมาเถิด เจ้าสาว เชิญมารับจากองค์พระบิดา
จากองค์พระบุตร และจากองค์พระจิตศักดิ์สิทธิ์
เชิญมารับมงกุฎที่ได้เตรียมไว้ให้ท่านแล้วในสวรรค์”
คำเชื้อเชิญของความรักส่งมาถึงพระนางมารีย์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งโดยอาศัยความรักอันร้อนแรงซึ่งทำให้พระนางบังเกิดความปรารถนามากยิ่งกว่าแต่ก่อนที่จะได้พบกับองค์พระบุตรของพระนางและได้อยู่ร่วมกับพระองค์ ดวงหทัยของพระนางบอกพระนางว่าการรอคอยของพระนางนั้นในที่สุดก็บรรลุสมความปรารถนาแล้ว
และพระนางทรงเป็นสุขยิ่งนักในการเตรียมตัวที่จะจากโลกนี้ไป
พระนางเหมือนจะทรงได้ยินเสียงขับร้องเป็นเพลงประสานของเหล่านิกรเทวดาในสวรรค์ อย่างไรก็ตาม ดวงหทัยของพระนางก็รู้สึกแตกสลายเมื่อคิดว่ายังมีการแยกจากกันระหว่างองค์พระบุตรของพระนางผู้ทรงประทับอยู่ในสวรรค์กับบรรดาบุตรที่พระนางทรงรับไว้ที่อยู่บนโลก นั่นคือบรรดาอัครสาวก ในฐานะที่ทรงเป็นมารดาอ่อนโยนยิ่งนัก
พระนางปรารถนาที่จะอวยพรพวกเขาก่อนที่พระนางจะจากโลกนี้ พระเป็นเจ้าทรงประสงค์ให้พระนางจากโลกนี้ไปอย่างสบายพระทัยจึงทรงทำให้ความประสงค์ของพระนางสำเร็จ ในเวลาไม่นานนัก
บรรดาอัครสาวกที่กระจัดกระจายไปในที่ต่างๆของโลกเพื่อประกาศพระวรสาร ก็ถูกนำมายังบ้านอันต่ำต้อยของพระนางมารีย์ด้วยมือที่มองไม่เห็น พระนางมารีย์ทรงยินดียิ่งนักที่ได้เห็นพวกเขา
พระนางทรงบอกพวกเขาว่าพระนางจะได้ไปอยู่ร่วมกับองค์พระบุตรของพระนางในไม่ช้านี้แล้ว
บรรดาอัครสาวก
เมื่อได้ยินว่าพระนางมารีย์จะจากพวกเขาไปในไม่ช้านี้
ทำตัวเหมือนเด็กที่รู้ว่าจะต้องเป็นกำพร้า
พวกเขาร้องไห้คร่ำครวญด้วยความโศกเศร้า
พระนางจึงเสด็จมาใกล้พวกเขาเพื่อปลอบประโลมใจและให้คำมั่นกับพวกเขาว่าพระนางจะไม่ละทิ้งพวกเขา แต่จะมาช่วยเหลือพวกเขาจากสวรรค์
พวกเขาไม่ยอมทิ้งให้พระนางต้องอยู่เพียงลำพังแม้เพียงชั่วครู่เดียว
พระนางมารีย์จึงปลอบโยนความโศกเศร้าของพวกเขา โดยตรัสว่าพวกเขาก็จะได้อยู่ในสวรรค์เช่นเดียวกัน
ทรงประทานคำปรึกษาอันชาญฉลาดด้วยคำพูดปลอบประโลมใจต่อบรรดาอัครสาวกที่จิตใจอ้างว้างเศร้าโศก
บัดนี้คำพูดใดเล่าจะสามารถบรรยายได้ถึงชัยชนะแห่งการเข้าสู่สวรรค์ของพระนางมารีย์?
ถ้าหากการเฉลิมฉลองบนโลกนี้ถูกจัดเตรียมไว้อย่างยิ่งใหญ่เพื่อปลุกเร้าใจประชาชนให้บังเกิดความกระตือรือร้น ดึงดูดใจประชาชนให้คิดพิจารณาถึงพระเกียรติของพระนางเช่นนี้
แล้วใครเล่าจะสามารถบรรยายถึงชัยชนะที่พระเป็นเจ้าเองทรงจัดเตรียมไว้ให้แด่พระมารดาของพระองค์เองได้เล่า? นักบุญอังแซล์มยืนยันว่า
องค์พระผู้ไถ่ทรงปรารถนาที่จะเสด็จสู่สวรรค์ก่อนพระมารดาของพระองค์ มิใช่เพียงเพื่อเตรียมพระบัลลังก์อันล้ำค่าสำหรับการเป็นราชินีของพระนางเท่านั้น
แต่เพื่อเตรียมชัยชนะอันยิ่งใหญ่และพระเกียรติรุ่งโรจน์ของการเข้าสู่สวรรค์ของพระนางด้วย เพื่อเป็นการต้อนรับพระนาง ณ.
สวรรค์และได้มาพบกับพระองค์และบรรดานิกรเทวดาทั้งหลายทุกชั้นทุกฐานันดร
ด้วยเหตุนี้ นักบุญปีเตอร์
ดาเมียนจึงไม่ลังเลใจที่จะยืนยันว่าการได้รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณของพระนางมารีย์นั้นยิ่งใหญ่และมีเกียรติรุ่งโรจน์ยิ่งกว่าการเสด็จสู่สวรรค์ของพระเยซูคริสตเจ้าเสียอีก เพราะมีเพียงเหล่านิกรเทวดาเท่านั้นที่มาต้อนรับพระคริสตเจ้า แต่สำหรับพระมารดามารีย์ ไม่เพียงแต่เหล่านิกรเทวดาที่มาต้อนรับพระนาง
แต่ยังมีเหล่านักบุญและผู้ศักดิ์สิทธิทั้งหลาย และรวมถึงพระเยซูเจ้าเองด้วย
พระนางทรงตื่นจากบรรทมแห่งความตาย
ทูตสวรรค์ทั้งหลายมาเปิดพระคูหาที่บรรจุร่างกายของพระนางไว้ องค์พระบุตรของพระนางทรงยื่นพระหัตถ์ออกมายังพระนาง และพระนางมารีย์ทรงติดตามพระองค์ไป
พระอานุภาพและแสงสว่างอันเจิดจ้าส่องสว่างดุจดวงอาทิตย์ที่กำลังขึ้น
พระนางทรงลอยขึ้นจากแผ่นดินอย่างนุ่มนวลและสงบเงียบ
ขึ้นไปสู่กลุ่มเมฆและบรรยากาศแห่งสวรรค์อันเป็นขอบเขตแห่งผู้ได้รับพระพร
ประตูสวรรค์เปิดออกและพระมารดาของพระเจ้าทรงเข้าสู่ประตูสวรรค์นั้น
ในทันทีที่บรรดานักบุญทั้งหลายในสวรรค์ได้เห็นพระนางเสด็จมาในรังสีอันสดใสและความงามยิ่งนัก การเฉลิมฉลองอันยิ่งใหญ่และความชื่นชมยินดีล้นพ้นก็บังเกิดขึ้น เพื่อต้อนรับพระนางและเทิดพระเกียรติพระนางด้วยฐานะอันสูงส่ง นักบุญทุกองค์ต่างน้อมคารวะพระนางด้วยการหมอบกราบแทบพระบาทของพระนาง
และพากันร้องเสียงกึกก้องประกาศว่าพระนางทรงเป็นราชินีของพวกท่าน องค์พระตรีเอกภาพเสด็จร่วมในการเฉลิมฉลองในสวรรค์ด้วย พระบิดาทรงต้อนรับพระนางในฐานะบุตรีสุดที่รักของพระองค์
และทรงเชื้อเชิญให้พระนางมีส่วนร่วมในพระอานุภาพของพระองค์
---------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น