วันเสาร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ประสบการณ์ใกล้ตาย NDE




วาเลนา ฮรินโดวา มีประสบการณ์ใกล้ตาย NDE ( Near death experience) เธอได้ยินเสียงที่พูดกับเธอว่า “เธอยังไม่ได้ปฏิบัติภารกิจที่ต้องทำให้สำเร็จสมบูรณ์ในชีวิตนี้ของเธอ  เธอต้องกลับไป”

*****************

27 ก.ค. 2014 Valeria Hrindova มาจาก Trmava เมื่อสองปีก่อนหัวใจของเธอล้มเหลว หัวใจของเธอไม่เต้นเป็นเวลาหลายนาที หมอได้พยายามช่วยเธออย่างเต็มที่ แต่เธอก็เสียชีวิตไป  แล้วเธอก็กลับฟื้นมามีชีวิตอีก  เวลานี้เธอยังมีชีวิตอยู่และชีวิตของเธอเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง  ประสบการณ์ของเธอจะทำให้คุณต้องเปลี่ยนความคิดไป ขอเชิญติดตาม.....

เหตุการณ์เริ่มต้นในวันปกติธรรมดาทั่วไป เมื่อพวกเขาเดินทางกลับบ้านหลังจากวันหยุดพักผ่อน  “มันเกิดขึ้นในตอนกลางคืนของวันที่12-13 กันยายน  และดิฉันแน่ใจว่าเป็นเพราะความช่วยเหลือจากแม่พระแน่นอน ทุกคนก็รู้  รถยนต์ของเราเสียการควบคุมและสามีของดิฉันขับรถชนต้นไม้ รถเข้าไปติดอยู่ในต้นไม้  ดิฉันกระเด็นออกจากรถทางหน้าต่างด้านหน้า ฉันกระเด็นไปไกลประมาณ 80 เมตรห่างจากตัวรถตามที่ตำรวจรายงาน  ฉันได้รับบาดเจ็บสาหัสกระดูกหน้าอกและซี่โครงแตก กระดูกขากรรไกรหัก ศีรษะกระแทกกับพื้นและมีรอยแผลเต็มไปหมด”

“อาการบาดเจ็บของฉันและสามีร้ายแรงมาก อาจเสียชีวิตได้ทุกวินาที  เมื่ออยู่ในรถฉุกเฉินฉันก็อยู่ในอาการโคม่าแล้ว  ในทางการแพทย์นั่นเป็นช่วงแรกที่ฉันเข้าสู่ระยะของความตายแล้ว  เมื่อฉันไปถึงโรงพยาบาลที่กรุงเวียนนา ฉันได้รับการผ่าตัด...เป็นเวลานานเท่าไรที่ฉันอยู่ในความตายในทางการแพทย์  ฉันไม่ทราบ  หลังจากการผ่าตัดสามครั้งฉันก็ยังไม่ฟื้นขึ้นมา สิ่งที่ฉันรู้สึกก็คือตัวฉันออกจากร่างกายของฉัน ฉันเห็นร่างกายของฉันนอนอยู่และตัวของฉันลอยขึ้นไปที่เพดานห้อง ไม่มีหมอหรือพยาบาลอยู่ที่นั่นเลยเพราะมันเป็นเวลากลางคืนมากแล้ว  ฉันรู้สึกว่ามีคนพูดกับฉันอยู่แต่ฉันไม่เห็นใครเลย  เสียงนั้นบอกฉันว่า “เธอสามารถมองดูตัวเองได้”  หลายสิ่งหลายอย่างผ่านจิตใจของฉัน แต่ฉันไม่กลัว ไม่มีความกลัวเลย ทันใดนั้นฉันก็พบตัวเองอยู่ในถ้ำที่ใหญ่โตมาก มันใหญ่โตมหึมา  หรืออาจเป็นเพราะฉันตัวเล็กลง  มันเป็นสถานที่ใหญ่โตมากทีเดียว  และมีระเบียงที่มีที่นั่งอยู่ตัวหนึ่ง  มันเหมือนกับบัลลังก์ของกษัตริย์ที่ทำด้วยทองคำและมีอัญมณีประดับมากมาย  ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นและสียงนั้นบอกว่า ดิฉันต้องก้มตัวลงคำนับ  ฉันมีความรู้สึกรุนแรงว่าจำเป็นต้องก้มตัวลงคำนับ   ฉันจึงก้มตัวลง  ถึงแม้ว่าฉันจะไม่มีร่างกายก็ตาม  แต่ฉันก็รู้สึกว่ากำลังก้มตัวลงกับพื้น  และนี่คือสิ่งที่ฉันได้ยิน –

“เธอยังไม่ได้ปฏิบัติภารกิจที่ต้องทำให้สำเร็จสมบูรณ์ในชีวิตนี้ของเธอ  เธอต้องกลับไป”

            ฉันพูดด้วยความประหลาดใจว่า “ฉันยังปฏิบัติไม่เสร็จสมบูรณ์หรือ?”

“เธอยังไม่ได้ทำให้สมบูรณ์ครบถ้วนตามจุดมุ่งหมายของสิ่งที่เธอได้รับในการส่งเธอไปยังโลก”

ฉันคิดถึงสิ่งที่กำลังเกิดกับฉัน ฉันอยู่ที่ไหน?  ทั้งหมดนี่หมายถึงอะไร?

แล้วทันใดนั้นฉันก็เห็นภาพทั้งหมดนี้ ราวกับว่าฉันอยู่ในโรงภาพยนตร์และมีฉากใหญ่มากอยู่เบื้องหน้าฉัน

ฉันเห็นเรื่องราวในชีวิตของฉัน  มันผ่านไปเร็วมากแต่มันจะช้าลงในระหว่างบางตอน  เพื่อแสดงว่าฉันยังไม่ได้ทำสิ่งนั้นให้สำเร็จสมบูรณ์  ในเรื่องนี้..เรื่องนี้...และเรื่องนี้

แล้วทุกอย่างก็จบลง

ฉันพบตัวเองมาอยู่ในร่างกายของฉันและฉันคิดกับตัวเองว่า “สิ่งต่างๆเหล่านั้นหมายถึงอะไร? ฉันกลับมาอยู่ในร่างกายของตัวเองอีกครั้งได้อย่างไร?”

หลังจากประสบการณ์เหล่านี้  ฉันก็เริ่มประติดประต่อเรื่องราวทั้งหมด  ฉันคิดกับตัวเองว่า ถ้าฉันต้องทำอะไรบางอย่างในชีวิต  พระเจ้า! ฉันจะนั่งอยู่ในเก้าอี้วีลแชร์ตลอดเวลาได้อย่างไร  มันเป็นไปไม่ได้  แล้วฉันก็เพ่งมองไปที่กางเขนที่อยู่ข้างบนประตูห้องที่ฉันเข้ามา ฉันคิดว่าฉันได้ร้องขอความช่วยเหลือ  ฉันหวังว่าพระนางมารีย์จะทรงช่วยฉัน

ในเวลานั้นเอง แสงสว่างสีขาวเจิดจ้าก็ส่องออกมาจากตรงกลางของกางเขน  มีลำแสงรังสีใหญ่สี่ลำและมีรูปร่างหนึ่งออกมาจากลำแสงนั่น  รูปร่างของพระนางมารีย์ก็ปรากฏขึ้น พระนางดูเยาว์วัยมาก  ดูเหมือนอยู่ในวัยแรกรุ่นทีเดียว  พระนางมีผ้าคลุมผมอยู่บนศีรษะเหมือนภาพที่วาด  ฉันเห็นพระนางทรงอยู่ที่ด้านข้างบริเวณปลายเตียงของฉัน  ฉันพูดกับพระนางว่า

“พระแม่มารีย์ ลูกขอวิงวอนต่อพระแม่  ลูกได้รับการเปิดเผยให้รู้ว่าจุดมุ่งหมายของลูกบนโลกนี้ยังไม่สำเร็จสมบูรณ์”

“ถ้าลูกต้องทำให้เสร็จสมบูรณ์ ลูกไม่สามารถเป็นคนพิการและต้องนั่งอยู่ในรถวีลแชร์ตลอดเวลาได้”

“โปรดช่วยลูกด้วย ถ้าสิ่งนี้เป็นไปได้”

แม่พระตรัสตอบว่า “ได้สิ  มันเป็นไปได้”

แล้วแม่พระก็หายไป แสงสว่างนั้นก็หวนกลับคืนเข้าไปในกางเขน

หลังจากประสบการณ์เหล่านี้ที่เกิดกับฉัน....ฉันมีความปรารถนาแรงกล้าที่จะดำเนินชีวิตตามแบบอย่างของแม่พระ  เพื่อที่จะทำบางอย่างให้สำเร็จ

สิ่งที่น่าสนใจอย่างหนึ่งก็คือ ฉันไม่ได้เห็นภาพอื่นๆของชีวิตฉันเลย  ในตอนที่ฉันเป็นเด็ก  ฉันถูกเลี้ยงดูอย่างตามใจมากเกินไป  จนทำให้ฉันมีความประพฤติที่ไม่ดี  ฉันควรถูกตำหนิที่ได้ละเมิดบทบัญญัติของพระเป็นเจ้า  ฉันพยายามแก้ไขความผิดเหล่านั้น  และฉันพยายามดำเนินชีวิตในความเชื่อมากขึ้นในเวลานี้  ฉันพยายามปฏิบัติภารกิจให้เสร็จสมบูรณ์ตั้งแต่เวลานั้นเป็นต้นมา  ตอนนี้ฉันดำเนินชีวิตในฐานะคาทอลิกที่ขยันขันแข็ง

----------------------------

พระเป็นเจ้าทรงมีจุดประสงค์สำหรับเราแต่ละคน

ในพระวรสารมัทธิว 4:12-23 พระเยซูเจ้าทรงเรียกอัครสาวกรุ่นแรกคือ เปโตร แอนดรู ยากอบ และยอห์น การเรียกของพระเยซูเจ้านี้ทำให้ชีวิตทั้งหมดของพวกเขาเปลี่ยนแปลงไป  และจุดมุ่งหมายในชีวิตของพวกเขาก็ชัดเจนขึ้น
 
ทุกชีวิตบนโลกนี้เกิดมาโดยมีจุดมุ่งหมาย  ทุกคนได้รับการเรียกในชีวิตของเรา  พระเจ้าทรงเรียกคุณทุกคน เช่นเดียวกับที่ทรงเรียก เปโตร แอนดรู ยากอบและยอห์น  แต่ละคนจึงต้องพยายามค้นให้พบถึงจุดมุ่งหมายในชีวิตหรือเราต้องพยายามฟังเสียงเรียกของพระเจ้า
 
ระยะเวลาส่วนใหญ่ของชีวิตจะเป็นการชี้ถึงจุดมุ่งหมายในชีวิต  เราต้องอยู่ในที่ที่เราควรอยู่และเราจะทำให้จุดมุ่งหมายของชีวิตในการเกิดมานั้นสมบูรณ์ครบถ้วน ซึ่งทำให้เราแน่ใจว่าเราได้อยู่ในที่ที่พระเจ้าทรงประสงค์ให้เราอยู่ และเราได้ทำในสิ่งที่พระเจ้าทรงประสงค์ให้เราทำ
 
            แต่บางคนอาจรู้สึกว่าชีวิตของเขานั้นมีความยากลำบาก  เหมือนแสวงหาสิ่งของในความมืด  เขาไม่สบายใจกับสิ่งแวดล้อมหรือสถานการณ์ต่างๆ นั่นเป็นระยะเวลาที่ต้องฟังเสียงเล็กๆ  เหตุใดเขาจึงรู้สึกไม่สบายใจล่ะ? เขารู้สึกขัดแย้งในจิตใจในตัวเอง กับอุปนิสัยของตน กับการกระทำของตน หรือไม่?
 
เมื่อเราอยู่ในสถานการณ์เหล่านั้น เราจำเป็นต้องฟังความรู้สึกและอารมณ์ของตัวเอง  เพราะวิธีนี้จะสามารถช่วยเหลือให้พ้นจากความรวนเรไม่มั่นใจตัวเอง และช่วยนำทางเราให้ทำตามจุดมุ่งหมายที่พระเป็นเจ้าทรงประทานให้สำหรับชีวิตบนโลกนี้ของเราอย่างสมบูรณ์ครบถ้วน
 
พระเจ้าทรงเรียกทุกคนและทรงมีจุดมุ่งหมายสำหรับเราแต่ละคน  และพระองค์ทรงแจ้งให้เราทราบโดยผ่านทางพระคัมภีร์ จากการเทศน์ในพิธีมิสซาของพระสงฆ์ และจากแบบอย่างที่ดีของผู้อื่นที่อยู่รอบข้างเรา  ถ้าหากเรารู้จักพิจารณาไตร่ตรองชีวิตด้วยสิ่งต่างๆดังกล่าวนี้  เราก็จะดำเนินชีวิตสอดคล้องกับจุดมุ่งหมายที่พระเจ้าทรงสร้างเรามาให้เราอยู่ในโลก และให้เราได้พบกับพระองค์ในวาระสุดท้ายของชีวิต เมื่อถึงเวลานั้นพระองค์จะตรัสกับเราว่า “เชิญมาเถิด ผู้ได้รับพระพร เชิญมารับอาณาจักรสวรรค์ที่ได้เตรียมไว้ให้ท่านแล้ว ตั้งแต่เริ่มแรก”
----------------------------------------

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น