คุณยังไม่เคยได้ยินเรื่องของนักบุญ
ลิดวินา แห่งสชิแดมหรือ? ( St.
Lidwina of Schiedam )
ไม่เป็นไร
เธอไม่ใช่นักบุญที่ชื่อเสียงนักในพระศาสนจักร แต่รู้ไหม
เธอได้เห็นนิมิตของไฟชำระ
นักบุญลิดวินา
เป็นชาวดัทชผู้ได้รับญาณนิมิตของศตวรรษที่ 15 ในตอนวัยรุ่น เธอหกล้มขณะที่เล่นสเก็ตน้ำแข็งทำให้กระดูซี่โครงหักและรักษาไม่หาย
เธออุทิศชีวิตทั้งหมดในการสวดภาวนาและทำพลีกรรมอดอาหาร และนั่นทำให้เธอเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะหญิงที่ศักดิ์สิทธิ์
มีผู้ชายหลายคนที่เป็นคนบาปได้กลับใจเพราะการสวดภาวนาของลิดวินาและการให้คำแนะนำแก่พวกเขาในเวลาที่พวกเขาใกล้ตาย ครั้งหนึ่งลิดวินาถามอารักขเทวดาของเธอว่ามีอะไรเกิดกับพวกเขาในชีวิตหน้าบ้าง?
และเธอได้รับพระพรให้เห็นนิมิตของไฟชำระซึ่งได้อธิบายไว้ข้างล่างนี้
อย่างไรก็ตาม
เรื่องนี้เป็นการเผยแสดงเป็นการส่วนบุคคลเท่านั้น นิมิตของเธอไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในความเชื่อของพระศาสนจักรคาทอลิกแต่ก็ไม่ได้มีข้อห้ามที่จะเชื่อ
สิ่งนี้ช่วยส่งเสริมความเชื่อของเราต่อคำสอนของพระศาสนจักรให้มากยิ่งขึ้น
จากหนังสือที่เขียนไว้เกี่ยวกับภาพนิมิตของ
น.ลิดวินา
อารักขเทวดาของเธอพูดว่า “เขาอยู่ที่นั่น และเขาได้รับความทุกข์ทรมานเป็นอย่างมาก เธอจะเต็มใจรับทนความเจ็บปวดสักเล็กน้อยเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดของเขาได้ไหม?” “ได้ค่ะ” ลิดวินาตอบ “ฉันพร้อมที่จะรับทนความทรมานทุกอย่างเพื่อช่วยเขา” ในทันทีอารักขเทวดานำเธอไปยังสถานที่สำหรับทรมานอันน่ากลัว
“
“ที่นี่คือ นรก หรือค่ะท่านพี่?” นักบุญลิดวินาถามอารักขเทวดาของเธอขณะที่อยู่ทางเข้าสถานที่อันน่ากลัว
“ไม่ใช่หรอก น้อง”
อารักขเทวดาตอบ “แต่นี่เป็นบางส่วนของไฟชำระซึ่งมีอาณาเขตติดต่อกับนรก”
“มองไปรอบๆทุกๆด้าน ลิดวินาเห็นสิ่งที่คล้ายกับคุกใหญ่โตมันมีขนาดกว้างใหญ่ไพศาลล้อมรอบด้วยกำแพงสูงเสียดฟ้าที่มีสีดำ กำแพงทำด้วยหินขนาดยักษ์มหึมา ทำให้เธอถึงกับตกใจหวั่นกลัวยิ่งนัก”
เมื่อเข้าไปใกล้มากยิ่งขึ้น เธอได้ยินเสียงที่สับสนวุ่นวาย เสียงโอดครวญ
เสียงร้องไห้ด้วยความโกรธ
เสียงโซ่ เสียงเครื่องมือทรมาน เสียงโบยตีอย่างดุเดือดที่นักโทษต้องรับจากการถูกกล่าวโทษของเหยื่อผู้รับเคราะห์จากการกระทำของนักโทษเหล่านั้น เสียงเหล่านี้ดังมากเหมือนกับเอาความดังของเสียงต่างๆจากทั้งโลกมารวมกัน เสียงที่มาจากความโกลาหลวุ่นวายหรือจากสงคราม ไม่มีอะไรที่จะดังมากยิ่งไปกว่านี้อีกแล้ว”
“อะไรน่ะ
สถานที่นั้นมันน่ากลัวมากหรือค่ะ?” ลิดวินาถามอารักขเทวดา “เธอต้องการให้เราแสดงให้เธอเห็นไหมล่ะ?” “ไม่ค่ะ ฉันขอร้อง” ลิดวินาพูดด้วยความหวาดหวั่น “เสียงเหล่านั้นมันน่ากลัวจนฉันไม่อาจทนได้ แล้วฉันจะทนดูภาพที่น่ากลัวได้อย่างไร?”
“ไปตามเส้นทางอันน่าพิศวงนี้ เธอเห็นเทวดาองค์หนึ่งกำลังนั่งด้วยความโศกเศร้าอยู่บนชายขอบของบ่อ “ผู้นั้นคือใครค่ะท่านอารักขเทวดา?”
เธอถามผู้นำทางของเธอ เทวดาตอบว่า “ท่านคืออารักขเทวดาของคนบาปผู้หนึ่งที่เธอกำลังสนใจอยากพบอย่างไรล่ะ วิญญาณของเขาอยู่ในบ่อนี้ เป็นไฟชำระระดับพิเศษ” เมื่อได้ยินคำพูดนี้ลิดวินาหันไปมองอารักขเทวดาของเธอ
และเธอรู้สึกอยากเห็นวิญญาณซึ่งเป็นที่รักของเธอ เธอปรารถนาที่จะปลดปล่อยเขาจากบ่ออันน่ากลัวนี้”
อารักขเทวดาของเธอรู้และเข้าใจ จึงได้เปิดฝ่าบ่อออกมา ทันใดมีเปลวไฟใหญ่พุ่งขึ้นมาพร้อมด้วยเสียงร้องดังด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัสตามมาด้วย “เธอจำเสียงนี้ได้ไหม?” อารักขเทวดาพูด “อนิจจา
ใช่แล้ว” ลิดวินาตอบ “เธอต้องการเห็นวิญญาณนี้ไหม?” เขาถาม ลิดวินาตอบรับอย่างมั่นใจ อารักขเทวดาเรียกชื่อของวิญญาณ
แล้วทันใดนั้นลิดวินาก็เห็นวิญญาณปรากฏขึ้นมาอยู่เหนือปากบ่อ วิญญาณลุกร้อนอยู่ในไฟ คล้ายกับเหล็กที่ถูกเผาจนแดง วิญญาณพูดกับลิดวินาด้วยเสียงอันน่ากลัว “โอ ลิดวินา
ผู้รับใช้ของพระเจ้า ใครเล่าจะช่วยให้ฉันได้เห็นพระพักตร์ขององค์พระผู้สูงสุดได้บ้าง?”
“ภาพของวิญญาณดวงนี้ วิญญาณที่ถูกทรมานอย่างแสนสาหัสที่สุดในไฟ ทำให้ลิดวินาถึงกับช็อคและสายลวดที่เธอพันไว้รอบตัวของเธอขาดเป็นสองท่อน ลิดวินาไม่อาจทนดูได้อีกต่อไป เธอตื่นขึ้นมาจากญาณนิมิตนี้ในทันที
มีบางคนมาพบเธอและรู้สึกได้ถึงความกลัวของลิดวินา เขาถามถึงสาเหตุ “อนิจจา” ลิดวินาตอบ “คุกแห่งไฟชำระช่างน่ากลัวนี่กระไร ความปรารถนาที่จะช่วยพวกเขาให้หลุดพ้นจึงทำให้ฉันยอมลงไปที่นั่น
แต่เมื่อได้เห็นแล้ว ฉันไม่ปรารถนาที่จะไปสถานที่อันน่ากลัวนั้นอีกเลย”
“ต่อมาในวันเดียวกัน
เทวดาองค์ที่เธอเห็นนั่งที่ขอบบ่อได้ปรากฏแก่ลิดวินาด้วยสีหน้าที่เบิกบาน ท่านบอกลิดวินาว่า
วิญญาณในความอารักขาของท่านได้ออกจากบ่อแล้วและไปสู่ไฟชำระระดับปกติ การรับรู้เรื่องนี้มิได้หยุดยั้งลิดวินา เธอยังคงสวดภาวนาเพื่อวิญญาณน่าสงสารนี้ต่อไป ทั้งยังได้ทำพลีกรรมเพื่อเขาด้วย
ในที่สุดเธอก็ได้เห็นประตูสวรรค์เปิดออกต้อนรับเขา” (จากหนังสือ Purgatory,
by Fr. F. X. Schouppe, SJ, 16–19)
ขอให้ช่วยกันสวดภาวนาเพื่อวิญญาณในไฟชำระด้วยเถิด
-----------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น