“เพื่อนรักทั้งหลาย
ขออย่าให้ความชั่วร้ายใดๆมาทำร้ายท่านทั้งหลายได้เลย
อย่ากลัวสิ่งใดไม่ว่าจะเป็นโลกหรืออนาคต
พระเจ้าทรงให้ท่านมีชีวิตอยู่ในเวลานี้ของประวัติศาสตร์
ก็เพื่อที่โดยอาศัยความเชื่อของท่าน พระนามของพระองค์จะยังคงดังก้องไปทั่วโลกตลอดไป”
(พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่
16)
ต่อไปนี้เป็นคำทำนายที่สำคัญของนักบุญสามองค์ซึ่งเกิดที่โปแลนด์
คำทำนายแรกมาจากนักบุญพระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2
ขณะที่พระองค์ยังคงเป็นพระคาร์ดินัลอยู่และได้ไปเยี่ยมสหรัฐอเมริกาในปี 1979 คำทำนายที่สองมาจากนักบุญแมกซิมิเลียน กอลเบ
พระสงฆ์คณะฟรังซิสกันผู้เสียชีวิตในค่ายกักกันเอาชวิชระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2
ท่านยอมรับความตายแทนชายผู้หนึ่งที่มีภรรยาและลูก
คำทำนายที่สามมาจากนักบุญโฟสตินา โคลวัสกา ผู้เขียนบันทึกพระเมตตาในจิตวิญญาณของดิฉัน
คำทำนายแรก
“เรากำลังยืนเผชิญหน้ากับประวัติศาสตร์ยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษยชาติ
ข้าพเจ้าไม่คิดว่าสังคมของชาวอเมริกันหรือชุมชนคริสตชนทั่วโลกจะตระหนักในเรื่องนี้มากนัก
เรากำลังเผชิญหน้าอยู่ระหว่างพระศาสนจักรกับแอนตี้พระศาสนจักร ระหว่างพระวรสารกับแอนตี้พระวรสาร”
“เราต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการทดสอบที่ยิ่งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตที่ไม่ไกลนัก การทดสอบที่เราต้องเตรียมพร้อมแม้จะต้องแลกด้วยชีวิต
และต้องยอมอุทิศตนเองทั้งครบแด่พระคริสต์และเพื่อพระคริสต์ โดยอาศัยการสวดภาวนาของพวกท่านและของข้าพเจ้า
เป็นไปได้ที่จะทำให้ความทุกข์เวทนานั้นเบาลง แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะยกเลิกมัน....หลายครั้งแล้วที่การฟื้นฟูพระศาสนจักรนำไปสู่การหลั่งเลือด
มันก็จะไม่แตกต่างเช่นกันสำหรับยุคสมัยนี้”
คำทำนายที่สอง
“ยุคสมัยใหม่จะถูกซาตานควบคุมและจะถูกควบคุมมากยิ่งขึ้นในอนาคต ความขัดแย้งกับนรกนี้ไม่สามารถจัดการได้ด้วยมนุษย์ถึงแม้จะเป็นบุคคลเฉลียวฉลาดเพียงใดก็ตาม มีแต่ดวงหทัยนิรมลซึ่งมาจากพระเจ้าเท่านั้นที่สามารถมีชัยชนะเหนือซาตานได้ อย่างไรก็ตาม
พระมารดาของพระเจ้าผู้ทรงได้รับมอบหมายจากสวรรค์ทรงต้องการความร่วมมือจากพวกเรา
พระนางทรงแสวงหาวิญญาณที่จะอุทิศตนเองทั้งครบแด่พระนาง พวกเขาจะกลายเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพที่อยู่ในพระหัตถ์ของพระนางเพื่อใช้ต่อสู้กับซาตานและขยายอาณาจักรของพระเจ้าบนโลก”
คำทำนายที่สาม
“พระเยซูเจ้าทรงทอดพระเนตรมาที่ดิฉันและตรัสว่า
‘วิญญาณจำนวนมากพินาศไปทั้งๆที่เราได้รับความทรมานอย่างขมขื่น เรากำลังมอบความหวังครั้งสุดท้ายสำหรับความรอดให้แก่พวกเขา นั่นคือการฉลองพระเมตตาของเรา ถ้าพวกเขาไม่เคารพเทิดทูนพระเมตตาของเรา พวกเขาจะพินาศไปชั่วนิรันดร ผู้จดบันทึกแห่งพระเมตตาของเรา จงบันทึกลงไป
จงบอกวิญญาณทั้งหลายเกี่ยวกับพระเมตตาอันยิ่งใหญ่นี้ของเรา เพราะวันเวลาที่น่ากลัว วันเวลาแห่งพระยุติธรรมของเรา อยู่ใกล้แล้ว”
(บันทึกหน้า 965)
หมายเหตุ – พวกเราควรตระหนักให้มากขึ้นว่าขณะนี้มีพลังอำนาจที่แข็งแกร่งอย่างหนึ่งที่อยู่ในสังคมของเราที่ถูกควบคุมโดยปีศาจ
สิ่งที่บ่งชึ้ในเรื่องนี้ก็คือความหลงผิดที่แผ่กระจายไปทั่วโลกซึ่งเรามองเห็นประจักษ์แก่ตา
พระวรสารลูกาบทที่ 19 กล่าวว่า พระเยซูเจ้าทรงร่ำไห้ต่อกรุงเยรูซาเล็มและทรงทำนายว่ากรุงเยรูซาเล็มจะถูกทำลาย
และคำทำนายนี้ได้เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 70
เพราะชาวเยรูซาเล็มไม่ยอมรับข่าวดีของพระเจ้าในเวลาที่พระองค์เสด็จมาเยี่ยม
สิ่งเลวร้ายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคสมัยนี้ตกอยู่กับบรรดาเด็กและเยาวชนที่โตแล้วจำนวนมากมายมหาศาลทั่วโลก พวกเขาสูญเสียความเชื่อไปหมดสิ้น และภัยพิบัติต่างๆ
การลงทัณฑ์จากสวรรค์จะมาถึงอย่างรวดเร็วสืบเนื่องจากการสูญเสียความเชื่อนี้
และในทันทีทันใดเราก็จะพบว่ากำลังอาศัยอยู่ในสังคมที่จมปลักในโคลนตมของบาปและการประพฤติผิดศีลธรรม
(นักบูญเปาโลได้พูดถึงเหตุการณ์นี้ในจดหมายถึงชาวโรม 1:24-32) นักบุญทั้งสามท่านได้กล่าวว่า
การถวายตนแด่ดวงหทัยนิรมลของพระนางพรหมจารีย์มารีย์จะมีประโยชน์อย่างใหญ่หลวงที่ช่วยคงความเชื่อของเราต่อพระคริสตเจ้า
การประจักษ์ของแม่พระที่ฟาติมาเป็นเรื่องสำคัญสำหรับยุคสมัยของเราและสำหรับพระศาสนจักรที่กำลังถูกทดสอบอย่างหนักในปัจจุบันนี้
********
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น