วันอาทิตย์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

หัวเราะอย่างมีความสุข


พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า “เราบอกสิ่งเหล่านี้แก่ท่าน เพื่อความยินดีของเราอยู่ในท่าน และความยินดีของท่านจะเต็มเปี่ยม” (ยอห์น 15:11)

Blaise Pascal นักปรัชญาชาวฝรั่งเศสครั้งหนึ่งเคยพูดว่า "ไม่มีใครมีความสุขเท่ากับคริสตชนที่แท้จริง" คำพูดนี้บ่งบอกถึงความเข้าใจอย่างลึกซึ้งจากประสบการณ์ของปาสกาลเอง  และมีกี่คนในพวกเราซึ่งเป็นคริสตชนที่เป็นแบบเดียวกับที่ปาสกาลพูดไว้บ้าง–เป็นผู้ที่มีความสุข
********************

ความชื่นชมยินดีของ น.โดมินิก

            ในบทภาวนาของ น.โดมินิก ท่านได้วอนขอต่อพระเจ้าให้ทรงประทาน “ความชื่นชมยินดี” แก่ตัวท่านเองและเพื่อนร่วมคณะของท่าน  บทภาวนานี้ไม่ใช่เป็นเพียงการวอนขอจากหัวใจเท่านั้น ท่านอธิบายว่า “บทภาวนาวอนขอความชื่นชมยินดีนี้เป็นการนำมหาบุญลาภมาสู่ภาคปฏิบัติ” ความชื่นชมยินดีหรืออีกนัยหนึ่งก็คือ ความสุข “เป็นพื้นฐานของความเชื่อและความหวังซึ่งบังเกิดขึ้นแม้แต่เมื่ออยู่ในความยากจนที่สุด ในความทุกข์ระทมขมขื่น  ในการถูกเบียดเบียน ในความหิวกระหายต่อความยุติธรรม ในความเมตตากรุณา”  แม้แต่เมื่ออยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ บรรดาเพื่อนพี่น้องของน.โดมินิกก็ยังคิดว่า “พวกเขาได้รับพระพร”  น.โดมินิกเป็นนักบุญไม่ใช่แต่เพียงเพราะการเทศนาประกาศพระวรสารของท่านเท่านั้น แต่เพราะแบบอย่างของท่านด้วย  และด้วยความชื่นชมยินดีนี้ “ใบหน้าของท่านจึงเปล่งปลั่งอยู่เสมอ” และด้วย“จิตใจที่ร่าเริง”ของท่าน ท่านจึงได้ชนะใจประชาชน ท่านสามารถเข้าถึงจิตใจของประชาชนทุกคนได้โดยไม่ยากในทันทีที่พวกเขาเห็นท่าน

แต่ก็มีบางสิ่งที่ดูคล้ายกับเป็นความสุข แต่มันเป็นเพียงความสนุกสนานเท่านั้น อย่างเช่น ความตลกโปกฮา การล้อเล่น เป็นต้น สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงการเล่นกับอารมณ์ของคนเท่านั้น และบางครั้งอาจเกินเลยกลายเป็นการเยาะเย้ยไปก็ได้ อย่างไรก็ตาม การหัวเราะไม่ใช่สิ่งเลวร้าย การหัวเราะสามารถเป็นสิ่งส่งเสริมให้จิตใจเป็นอิสระได้ สำหรับ “ผู้ที่มีจิตใจบริสุทธิ์” เขาสามารถหัวเราะได้ด้วยจิตใจอิสระและทำให้ผู้อื่นมีจิตใจอิสระไปด้วย

ผมไม่เห็นด้วยกับข้อเขียนของบางคนซึ่งผมอ่านพบในบทความหนึ่ง เขากล่าวว่า “นักบวชผู้อยู่ในอารามไม่ควรหัวเราะ แต่ควรอยู่ในอาการสำรวม นักบวชที่หัวเราะและแสดงออกทางใบหน้า ทำให้จิตใจตนเองวอกแวก และทำให้ผู้อื่นวอกแวกไปด้วย เขาทำลายความสงบเงียบของหมู่คณะ” ในความเห็นของผม การหัวเราะซึ่งเกิดมาจากความชื่นชมยินดีแห่งพระวรสารของพระเยซูเจ้านั้นเป็นความชื่นชมยินดีที่มาจากพระเจ้าและย่อมไม่มีพิษภัยใดๆ

ครั้งหนึ่งเมื่ออยู่ในโบสถ์ Church of St. Sixtus นักบวชในคณะโดมินิกันทั้งชายและหญิงจำนวนมากได้หัวเราะเสียงดังขึ้นพร้อมๆกัน เป็นเสียงหัวเราะที่บ่งบอกถึงความสุขความยินดีที่บริสุทธิ์

คงไม่มีใครมีความเข้าใจในเรื่องนี้ได้ดีกว่า แมคทิลแห่งแมกเดเบิรก์ Mechtild of Magdeburg เธอเป็นนักเทศน์โดมินิกันในยุคกลางของยุโรป ในตอนแรกเธอพิจารณาว่า “การหัวเราะ” นั้นไม่ใช่เป็นเพียงสิ่งที่แสดงถึงความเหลาะแหละเท่านั้น แต่นับว่าเป็นสิ่งที่ผิดเลยทีเดียว ต่อมาเธอก็ต้องเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ในเรื่องนี้ เมื่อเธอได้รับนิมิตหนึ่งในวันฉลองของนักบุญโดมินิก  พระเยซูเจ้าทรงประจักษ์แก่เธอและตรัสกับเธอในบางสิ่งที่เกี่ยวกับการหัวเราะซึ่งเธอไม่เคยลืมเลย พระองค์ตรัสว่า “เมื่อไรก็ตามที่นักบวชโดมินิกันหัวเราะ พวกเขาทำสิ่งนั้นด้วยความยินดีอย่างแท้จริงของพระจิตเจ้า”
 

********************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น