วันเสาร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

ตำนานเรื่องนักบวชขายวิญญาณให้ปีศาจ


มีหนังสือเล่มหนึ่งที่มีรูปของปีศาจอยู่ในหนังสือและทำให้เกิดตำนานที่ประหลาดขึ้น  เรื่องราวของตำนานนั้นมีอยู่ว่า -

มีพระสงฆ์นักบวชเบเนดิกตินผู้หนึ่งอาศัยอยู่ในอารามพอดลาซิก monastery of Podlazice เขาได้ทำสิ่งที่ผิดต่อคำสาบาน จึงถูกตัดสินให้ต้องออกจากคณะ  ด้วยความพยายามที่จะหลีกเลี่ยงการลงโทษนี้ เขาจึงสัญญาว่าจะเขียนหนังสือเล่มหนึ่งซึ่งจะรวบรวมความรู้ทั้งหมดของมนุษย์ให้เสร็จภายในคืนเดียว ท่านอธิการของคณะยังคงมีความเมตตาสงสารนักบวชอยู่จึงยอมรับข้อเสนอของเขา แต่เมื่อถึงเวลาใกล้เที่ยงคืน นักบวชผู้นั้นก็ยังทำหนังสือไม่เสร็จ เขาจึงขอความช่วยเหลือจากปีศาจเพื่อทำให้หนังสือเล่มนั้นเสร็จสมบูรณ์โดยแลกกับวิญญาณของเขาเอง  ปีศาจได้มาช่วยทำหนังสือจนเสร็จสมบูรณ์ นักบวชจึงได้เพิ่มรูปภาพของปีศาจลงในหนังสือด้วยเพื่อแสดงความกตัญญูต่อปีศาจ

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เป็นเพียงตำนานเท่านั้น การตรวจทดสอบหนังสือเล่มนี้แสดงให้เห็นว่า การเขียนตัวหนังสือแบบโบราณอย่างเดียวก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยห้าปีโดยไม่หยุดพัก ยังไม่รวมถึงการวาดรูปภาพและส่วนอื่นๆของหนังสือด้วย  หนังสือเล่มนี้ได้ชื่อว่า “คัมภีร์ปีศาจ” “Devil’s Bible” จัดทำขึ้นในศตวรรษที่ 13 และได้ชื่อว่า Codex Gigas (ภาษาลาตินแปลว่า “หนังสือยักษ์” “Giant Book”),

ที่ได้ชื่อว่า Gigas อาจเป็นเพราะขนาดของหนังสือที่ใหญ่มาก (มี 620 หน้า ความยาวของปกจากข้างบนถึงข้างล่าง 3 ฟุต) เป็นหนังสือที่รวบรวมงานต่างๆมาไว้ในหนังสือเล่มเดียว บรรจุเรื่องราวของพระคัมภีร์พระธรรมเก่าและใหม่, Chronica Boemorum of Cosmas of Prague , ผลงานสองเรื่องของนักประวัติศาสตร์ชาวยิว Flavius ​​Josephus , นิรุกติศาสตร์ของน.อิสิดอร์แห่งเซวิล, คำแนะนำเกี่ยวกับการทำพิธีขับไล่ปีศาจ , ตำรับยาของคอนสแตนตินชาวอัฟริกา , กฎของน.เบเนดิก, ปฏิทิน , รายชื่อผู้ให้การสนับสนุนอาราม ,และรายการยืดยาวของ “สิ่งที่หายาก” ได้แก่ภาพสเก็ตทางวิทยาศาสตร์และการเล่นแร่แปรธาตุ


ภาพของปีศาจบนหน้าหนึ่งของหนังสือทำให้เกิดคำร่ำลือว่า ปีศาจได้มาช่วยในการทำหนังสือเล่มนี้

คนที่มีความรู้ในสมัยนั้นมีความสนใจเกี่ยวกับการเล่นแร่แปรธาตุ และพวกเขาก็มักจะมีผลงานด้านปรัชญาของศาสนาควบคู่ไปด้วย มีเพียงเส้นบางๆที่แบ่งแยกระหว่างนักเล่นแร่แปรธาตุและนักปรัชญาเหล่านั้น แต่สมัยนั้นยังไม่มีการสั่งห้ามการเล่นแร่แปรธาตุจากทางศาสนจักร จนกระทั่งถึงปี 1317 พระสันตะปาปายอห์นที่ 22 จึงมีคำสั่งห้าม

หนังสือ Codex Gigas ถือเป็นหนังสือที่ใหญ่ที่สุดในยุคกลางของยุโรป และถือว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์สิ่งหนึ่งของโลก รูปของปีศาจทำให้เกิดตำนานที่ประหลาด การกำเนิดของหนังสือ จนได้ชื่อว่าเป็น “หนังสือปีศาจ” แต่อันที่จริง รูปปีศาจถูกวาดไว้ในหน้าหนึ่งของหนังสือเพราะในหน้าต่อมาจะมีรูปภาพ “นครของพระเจ้า” ประกอบอยู่ ผู้เขียนต้องการแสดงให้เห็นความแตกต่างกันของความดีและความชั่ว สวรรค์และนรก เท่านั้น

ถ้าต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมของเรื่องราวในหนังสือ สามารถหาได้จาก the National Library of Sweden’s digitized version.

*****************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น