By - Chuck Missler
ใครที่มีอายุมากที่สุดในพระคัมภีร์?
เมททูเซลาห์ เขามีอายุ 969 ปี
แต่เขาก็ยังตายก่อนบิดาของเขา
บิดาของเขาคือเอน็อค
เมื่อเอน็อคมีอายุ 65 ปี มีบางสิ่งเกิดขึ้น “เขาได้เดินไปกับพระเจ้า”
เป็นเวลาถึง 300ปี และพระเจ้าทรงรับเอน็อคไป
ชื่อ เมททูเซลาห์ มาจากสองคำรวมกันคือ “muth” แปลว่า “ความตาย”
และ “shalach” แปลว่า “นำมา”
หรือ “ส่งไปข้างหน้า”
ดังนั้นชื่อ เมททูเซลาห์ จึงแปลว่า “ความตายของเขาจะนำมาซึ่ง”
น้ำท่วมโลกที่เกิดขึ้นไม่ได้ทำให้มนุษย์ในสมัยนั้นประหลาดใจ เพราะพระเจ้าทรงแจ้งให้มนุษย์ทราบล่วงหน้าถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นก่อนสมัยของโนอาห์เป็นเวลาถึงสี่ชั่วอายุคน
เอน็อคก็ได้รับคำพยากรณ์ด้วย เขาได้รับคำพยากรณ์หลายครั้งเกี่ยวกับ
การพิพากษาลงโทษของพระเจ้า ดังนั้นเขาจึงตั้งชื่อลูกชายว่า
เมททูเซลาห์ “ความตายของเขาจะนำมาซึ่ง”
เป็นเรื่องน่าประหลาดใจมาก
พระคัมภีร์ปฐมกาลเขียนไว้ว่า
เมื่อเมททูเซลาห์อายุ
187 ปี เขามีบุตรชายชื่อ ลาเมค
เมื่อลาเมคมีอายุ 182 ปีเขามีบุตรชายชื่อโนอาห์ เมื่อโนอาห์มีอายุได้ 600
ปีก็เกิดน้ำท่วมโลก
เมื่อคำนวณเวลาทั้งหมดก็จะได้อายุของเมททูเซลาห์ ซึ่งตรงกับเวลาก่อนที่น้ำจะท่วมโลก
ชีวิตของเมททูเซลาห์ได้ถูกทำนายไว้ เป็นคำทำนายแห่งพระเมตตา
ไม่ใช่เป็นเรื่องบังเอิญที่เมททูเซลาห์มีชีวิตที่ยืนยาวที่สุดเช่นนี้ในพระคัมภีร์ เพราะพระประสงค์ของพระเจ้าคือทรงต้องการแสดงให้เห็นว่าพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าแห่งพระเมตตา
พระเมตตาของพระองค์อยู่เหนือความคาดหมายของเรา
แต่พระองค์ก็ทรงกำหนดระยะเวลาแห่งพระเมตตาไว้ด้วยเช่นกัน
พระคัมภีร์ปฐมกาลกล่าวถึงคน
10 คน คือ อาดัม เส็ท เอน็อค
คีนาน มาฮาลาเลล จาเร็ด เอน็อค
เมททูเซลาห์ ลาเมค และ
โนอาห์
ถ้าหากมีความหมายแอบแฝงในชื่อของเมททูเซลาห์ และคนอื่นๆล่ะ?
มีปัญหาในเรื่องนี้
มีหลายคนที่พยายามหาความหมายที่อยู่ในชื่อเหล่านี้ ถ้าลองหาความสอดคล้องกับชื่อที่คล้ายกันดูก็จะรู้ว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับชื่อเหล่านี้เลย
ตัวอย่างเช่น ถ้ามีคนที่ชื่อ ชาร์ล และลองหาความสอดคล้องกับ พระเจ้าชาร์ลเลอมาญ
ก็จะพบว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกันแต่อย่างใด
ในภาษาฮีบรู
คำทุกคำในภาษาฮีบรูจะมีโครงสร้างมาจากคำรากศัพท์สองถึงสามคำ และแต่ละคำรากศัทพ์จะมีความหมายอยู่ในตัวมันเอง ตัวอักษรในภาษาฮีบรูมี 22 ตัวอักษร ตัวอักษรเหล่านี้อาจโยงไปถึงสมัยบาบิโลน
แต่จะแตกต่างกันไปเล็กน้อย
แต่ละตัวอักษรมีรูปแบบจากรูปภาพบางสิ่งบางอย่าง และเราสามารถแปลความหมายได้ถึง 80
เปอร์เซ็นต์ของตัวอักษรในภาษาฮีบรู
อย่างเช่น
คำว่า “Aleph” ซึ่งเป็นตัวอักษรแรก มีความหมายว่า “ที่หนึ่ง
หรือ “ผู้นำ” ตัวอักษรมีรูปร่างคล้ายหัววัวที่มีเขายาว ซึ่งให้ความหมายว่า
“แข็งแกร่ง” หรือ “ผู้นำ”
“Bet” มีรูปร่างเป็นเส้นบางๆที่มีเต็นท์อยู่ข้างบน คำนี้ต่อมากลายเป็นตัวอักษร
“b” ของภาษาอังกฤษ
Bet จึงมีรูปร่างคล้ายบ้านและในภาษาฮิบรู bet
หมายถึงบ้าน คำสองคำแรกนี้คือ Aleph และ Bet จึงหมายถึง “ผู้นำ” และ “บ้าน” เมื่อคำทั้งสองมารวมกันกลายเป็น “Ab” (อับบา) ซึ่งแปลว่า “พ่อ” การรวมคำทั้งสองนี้เวลาพูดจะมีลมหายใจระหว่างคำว่า
Aleph และ Bet คือเสียง H จึงทำให้ความหมายของ Abba
ลึกซึ้งขึ้นไปอีก คือหมายถึงจิตวิญญาณของความเป็นพ่อ
คำว่า
“Ahab” แปลว่า “love” ความรัก
ออกเสียงคล้ายกับสองคำแรกมารวมกัน
ความรักคือสิ่งที่จำเป็นและมีอยู่ในความเป็นพ่อ นี่คือวิธีการรวมคำในภาษาฮีบรู
ถ้าเราเข้าใจเราก็สามารถสร้างคำได้
ดังนั้นคำในภาษาฮีบรูจึงมาจากการรวมกันของรากศัพท์
และเราจะหาความหมายจำเพาะในชื่อเหล่านั้น
ในปฐ.
5:1-3 กล่าวว่า
“นี่เป็นเชื้อสายของอาดัม
ในเวลาที่พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ให้เหมือนกับภาพลักษณ์ของพระองค์ พระเจ้าทรงสร้างชายและหญิง และทรงเรียกเขาว่า อาดัม (หมายเหตุ – อาดัมในที่นี้
ไม่ใช่หมายถึงบุคคลใดบุคคลหนึ่ง แต่เป็นการรวมกันของสองบุคคล พวกเขาเป็นเนื้อเดียวกัน) เมื่ออาดัมมีอายุได้ 130 ปี
เขาให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่งที่คล้ายกับเขา และให้ชื่อบุตรนั้นว่า Seth
เส็ท
อาดัม
(เป็นทั้งชายและหญิง) มีภาพลักษณ์เหมือนพระเจ้า พระเจ้าทรงสร้างพวกเขาโดยตรง
พวกเขาเป็นบุตรของพระเจ้า “bene elohim” เส็ทไม่ใช่บุตรของพระเจ้า
เขาเป็นบุตรของอาดัม และเราทุกคนก็เป็นบุตรของอาดัมด้วย เราไม่ใช่บุตรของพระเจ้าโดยตรงเหมือนอาดัม เว้นแต่เราจะได้บังเกิดใหม่เสียก่อน
ในยอห์น
1:11-12 กล่าวถึงพระเยซูเจ้าว่า “พระองค์เสด็จมาสู่บ้านเมืองของพระองค์
แต่ประชากรของพระองค์ไม่ยอมรับพระองค์
ผู้ที่ยอมรับพระองค์คือผู้ที่เชื่อในพระนามของพระองค์
พระองค์ประทานอำนาจให้ผู้นั้นกลายเป็นบุตรของพระเจ้า” พระวาจานี้หาใช่เป็นเพียงวาจาฝ่ายจิตเท่านั้น
แต่เป็นวาจาที่ให้ความแน่ชัดในคำอธิบายถึงการเกิดใหม่ฝ่ายจิต เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ
นั่นคือพวกเราได้รับการสร้างขึ้นมาใหม่โดยพระเจ้าผ่านทางพระเยซูเจ้า
มาดูในพระคัมภีร์ต่อไป
“เขาตั้งชื่อบุตรนั้นว่า
เส็ท” เส็ทมีความหมายว่าอะไร?
Adomah แปลว่า “มนุษย์” อาดัมจึงมีความหมายว่า “มนุษย์”
เมื่ออาดัมอายุได้
100 ปี เขาให้กำเนิดบุตรชายชื่อ เส็ท และยังให้กำเนิดบุตรชายหญิงอีกมากมาย อาดัมมีอายุได้ 930 ปีจึงเสียชีวิต เส็ทมีอายุได้ 150 ปีจึงได้ให้กำเนิด Enos
(Enosh)
Seth แปลว่า “appoint” “ประทาน/แต่งตั้ง/ได้รับ”
ซึ่งเป็นชื่อที่เอวาตั้งให้โดยเอวาอธิบายไว้ใน ปฐ. 4:25 “เอวา พูดว่า
เพราะพระเจ้าทรงประทานพงศ์พันธ์อีกคนหนึ่งให้แก่ฉันแทนที่อาเบลที่ถูกกาอินฆ่าตาย”
และเส็ทมีอายุต่อไปอีก
807 ปีหลังจากให้กำเนิด Enos
เขายังให้กำเนิดบุตรชายหญิงอีกมากมาย เส็ทมีอายุรวมทั้งหมด 912 ปีจึงเสียชีวิต
ในปฐมกาลมีการพูดซ้ำหลายครั้งว่า เขาจึงเสียชีวิต เขาจึงเสียชีวิต เขาจึงเสียชีวิต
บางคนจึงบอกว่าพระคัมภีร์ปฐมกาลเป็นหนังสือแห่งความตาย แต่ไม่ใช่หรอก
พวกเขายังไม่ได้ศึกษาให้ดีในการแปลความหมายเหล่านั้น ชื่อ Seth Enosh ยังไม่ได้ถูกแปล พวกเขาพูดทับศัพท์แต่ไม่ได้แปลความหมายของชื่อเหล่านั้น และเราจะมาแปลความหมายของชื่อกัน
Enosh หมายความว่า “mortal” , “frail”
“sin” “miserable” (บาป อ่อนแอ เลวทราม) มาจากรากศัพท์ว่า “anash” ซึ่งใช้กับ บาดแผล หรือ ความโศกเศร้า หรือ ความเจ็บป่วย หรือ ความชั่วร้าย
ที่ไม่สามารถรักษาให้หายได้
ให้เราใช้คำว่า “mortal” บาป ในชื่อของ Enosh
ใน
ปฐ. 5:9-11เขียนว่า ”เมื่อ Enos มีอายุ
90 ปี เขาให้กำเนิดบุตรชายชื่อ Cainan ไคนาน” การแปลในตอนนี้ไม่ค่อยดีนักเพราะคำว่า Cainan เป็นภาษาอารามาอิก
ภาษาฮีบรูต้องเขียนว่า Kenan
“และ
Enos มีชีวิตต่อไปอีก 115 ปีหลังจากให้กำเนิด Cainan
(Kenan) เขาให้กำเนิดบุตรชายหญิงมากมาย Enos มีอายุรวมทั้งสิ้น
905 ปีจึงเสียชีวิต”
Kenan หมายความว่า “sorrow” “dirge” หรือ “elegy” ( ความเศร้าเสียใจ บทสวดฝังศพ
เพลงไว้อาลัย) เป็นชื่อที่น่าเศร้า ดังนั้นเราคงจินตนาการได้ว่า
ในการให้กำเนิดบุตรนี้คงมีเรื่องที่น่าเศร้าเกิดขึ้น
เมื่อ
Cainan (Kenan) มีอายุได้ 70 ปี เขาให้กำเนิดบุตรชื่อ
มาฮาลาเลล Mahalalel Cainan มีชีวิตต่อไปอี
840 ปีหลังจากให้กำเนิด Mahalalel เขาให้กำเนิดบุตรชายหญิงมากมาย Cainan มีอายุรวมทั้งสิ้น
910 ปี จึงเสียชีวิต”
Mahalalel แปลว่า “blessed” “praise”
และมีต่อท้ายด้วย El ซึ่งเป็นชื่อของพระเจ้า ดังนั้นจึงมีความหมายว่า “The Blessed
God” พระเจ้าผู้ทรงอวยพร หรือ พระเจ้าผู้รับการสรรเสริญ
ชื่อนี้จึงเป็นชื่อที่ยิ่งใหญ่มากเพราะมีชื่อของพระเจ้าติดอยู่ด้วย
เมื่อ
Mahalalel มีอายุได้ 65 ปี เขาให้กำเนิดบุตรชายชื่อ Jared จาเร็ด Mahalalel มีอายุต่อไปอีก 830
ปีหลังจากให้กำเนิดจาเร็ด เขามีบุตรชายหญิงมากมาย Mahalalel
มีอายุรวมทั้งสิ้น 895 ปี จึงเสียชีวิต
Jared
(Yared) มาจากคำกริยา yaradh
แปลว่า “shall come down” (จะลงมา) ถ้าเราไปดูพระคัมภีร์ ปฐมกาล 6
เราจะรู้ว่ามีบางสิ่งที่ประหลาดตกลงมาบนโลก (เทวดาตกสวรรค์)
และมันอาจคาดคะเนได้ว่ามีบางสิ่งเริ่มเกิดขึ้นในเวลาที่เด็กคลอดออกมา
ทำให้เขาได้ชื่อว่า จาเร็ด “จะลงมา” แต่นี่เป็นเพียงการคาดเดา
เราไม่รู้ว่าจริงๆเป็นอย่างไร
เมื่อจาเร็ดมีอายุได้
162 ปีเขาให้กำเนิดบุตรชื่อ Enoch (เอน็อค)
จาเร็ดมีอายุต่อไปอีก 800 ปีหลังจากให้กำเนิด Enoch
เขามีบุตรชายหญิงมากมาย จาเร็ดมีอายุรวมทั้งสิ้น 962 ปี จึงเสียชีวิต
Enoch มีความหมายว่า “commencement” หรือ “Teaching”
(การเริ่มต้น การสั่งสอน) มีเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจมาก นั่นคือคำพยากรณ์ที่เก่าแก่ที่สุดในพระคัมภีร์ถูกกล่าวโดย
อัยกาเอน็อค และเราอาจหาพบคำพยากรณ์ของเอน็อคได้ในพระคัมภีร์โตราห์(Torah) หรือไม่ก็ในหนังสือ ยูดา (Jude) ยูดาเป็นลูกพี่ลูกน้องของพระเยซูเจ้า
และท่านเขียนจดหมายซึ่งมีกล่าวใน ยูดา 14,15:
“และเอน็อคผู้เป็นอัยกาคนที่เจ็ดนับจากอาดัม
ได้พยากรณ์ถึงคนเหล่านี้ไว้ว่า มองดูเถิด องค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จมาพร้อมด้วยผู้ศักดิ์สิทธิ์นับหมื่น
เพื่อพิพากษามนุษย์ทั้งมวล และกล่าวโทษคนอธรรม
เพราะกิจการอธรรมทั้งหลายที่เขากระทำและเพราะถ้อยคำหยาบคายที่คนบาปไม่นับถือพระเจ้ากล่าวร้ายต่อพระองค์”
นี่เป็นคำพยากรณ์ถึงการเสด็จมาครั้งที่สองของพระเยซูคริสต์ที่แจ้งไว้ก่อนที่จะเกิดน้ำท่วมโลก
นี่จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่บ่งบอกถึงเรื่องสำคัญ 4 เรื่อง นั้นคือ
-
เรารู้ว่าพระเยซูเจ้าจะเสด็จมาอย่างแน่นอน ในคำพยากรณ์นี้ใช้คำที่เป็นอดีตซึ่งเป็นวิธีที่พระคัมภีร์มักใช้อยู่บ่อยๆ
แม้แต่ในพระวิวรณ์ที่ 19 ก็ใช้ประโยคที่เป็นอดีต (past tense) ซึ่งหมายความว่าเป็นเรื่องอดีต จึงไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ ตัวอย่างเช่น เมื่อพระเยซูเจ้าตรัสกับฟิลิป
พระองค์ตรัสว่า "เมื่อพระองค์ถูกยกขึ้น พระองค์ดึงดูดทุกคนเข้ามาหาพระองค์"
-
เรารู้ว่าใครที่จะมาพร้อมกับพระเยซูเจ้า นั่นคือบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์นับไม่ถ้วน
และท่านเหล่านี้คือใคร? ในเซคาริยาห์ 14: 5 และพระวิวรณ์ 19:14
และดาเนียล 7:10 และแม้แต่โมเสสก็กล่าวถึงในหนังสือเฉลยธรรมบัญญัติ
33 ว่า ผู้คนนับไม่ถ้วนเหล่านี้คือเหล่าทูตสวรรค์ของพระเจ้า ในกิจการอัครสาวก 7:53 และกาลาเทีย 3:19
พระวรสารมัทธิว 25:31 กล่าวถึงการเสด็จมาของพระคริสตเจ้าพร้อมด้วยเหล่าทูตสวรรค์ของพระองค์
และยังมีกล่าวในจดหมาย โคโลเชี่ยน 3:4 และ
1เทสซาโลเนี่ยน 3:13
-
เรารู้ว่าจุดประสงค์ของการเสด็จมาของพระองค์คืออะไร ในคำพยากรณ์แรกและสุดท้ายของพระคัมภีร์ไบเบิลพุ่งเป้าไปที่การเสด็จมาครั้งที่สองของพระเยซูเจ้า พระองค์เสด็จมาเพื่อพิพากษามนุษย์ทั้งมวลตาม
ฮีบรู 9:26 และอื่นๆ
-
เรารู้ถึงผลลัพท์ของการเสด็จมาครั้งที่สองของพระเยซูเจ้า นั่นคือผู้ที่ไม่นับถือพระเจ้าจะถูกกล่าวโทษสำหรับกิจการและคำพูดอธรรมทั้งหลายของพวกเขา
หนังสือแห่งชีวิตจะถูกเปิดออกและการพิพากษาครั้งสุดท้ายก็เริ่มต้น
มีคนสามกลุ่มที่เผชิญหน้ากับน้ำท่วมโลกในสมัยของโนอาห์
คนที่รอดพ้นจากเหตุการณ์น้ำท่วมโลก
แน่นอนคือคนที่ไม่อยู่ในระยะเวลานั้น ดังนั้นเอน็อคมีชีวิตอยู่ก่อน
หรือ หลัง หรือ ระหว่างเวลาน้ำท่วมล่ะ? คำตอบก็คือ
เอน็อคไม่ได้อยู่หลังและระหว่างน้ำท่วม เขามีชีวิตอยู่ก่อนน้ำท่วม
สิ่งที่เป็นข้อผิดพลาดในการตีความหมายของข้อความเกี่ยวกับเอน็อคก็คือ
-
เอน็อคถูกตีความว่า
เป็นยุคสมัยที่อยู่ระหว่างอาดัมและอับราฮัม
-
ประกาศกเอลียาห์ถูกตีความว่า
เป็นยุคสมัยที่อยู่ระหว่างอํบราฮัมและพระคริสต์
การตีความทั้งสองอย่างข้างต้นนี้ไม่ถูกต้อง (หมายเหตุ - พระเจ้าทรงรับเอน็อคและเอลียาห์ไปทั้งคู่ และมีความเชื่อว่าทั้งสองจะกลับมาในวันใกล้การพิพากษาโลกเพื่อสั่งสอนมนุษย์ให้หันมาหาพระเจ้า ก่อนที่พระองค์จะพิพากษาโลก พระธรรมวิวรณ์เรียกทั้งสองท่านว่า พยานทั้งสอง)
เมื่อเอน็อคมีอายุ
65 ปี เขาได้ให้กำเนิด Methuselah (เมททูเซลาห์)
และหลังจากให้กำเนิดเมททูเซลาห์ เอน็อคได้เดินไปกับพระเจ้า 300 ปี
เอน็อคมีอายุรวมทั้งสิ้น 365 ปี และพระเจ้านำเขาไป
ใน
ฮีบรู 11:5 กล่าวว่า “เพราะความเชื่อ
พระเจ้าทรงรับตัวเอน็อคไปโดยเขาไม่ต้องประสบความตาย
ไม่มีใครพบเขาเพราะพระเจ้าทรงรับเขาไปแล้ว ก่อนที่เขาจะถูกยกไปก็มีคำยกย่องว่าเขาเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้า”
(หมายเหตุ - การที่พระเจ้ารับนุษย์ไป เรียกว่า Rapture)
โอ
ถ้าหากเราเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้าโดยอาศัยการสวดภาวนาและการประกอบกิจการดีแล้ว เราก็สามารถเดินไปกับพระเจ้าได้เช่นเดียวกับเอน็อคซึ่งเดินไปกับพระเจ้าถึง
300ปี เขาจึงเป็นผู้ที่พระเจ้าทรงพอพระทัย พระเจ้ายังทรงให้เอน็อคกล่าวคำพยากรณ์ถึงการเสด็จมาของพระคริสต์
เราทุกคนจึงควรได้รับแรงบันดาลใจให้เดินไปกับพระเจ้าเพื่อทำให้พระองค์ทรงพอพระทัยในตัวเรา
และพระองค์อาจรับเราไปกับพระองค์เมื่อเวลาของเรามาถึง
นั่นจะเป็นเรื่องที่น่าสนใจและน่าตื่นเต้นมิใช่หรือ
Methuselah มีรากศัพท์มาจาก muth มีความหมายว่า “death” ความตาย รวมกับคำว่า “shalach” มีความหมายว่า “to bring” “to send forth” นำมาซึ่ง เมื่อรวมทั้งสองคำจึงแปลได้ว่า
“His death shall bring” – ความตายของเขาจะนำมาซึ่ง
เมื่อเมททูเซลาห์มีอายุ
187 ปี เขาให้กำเนิดบุตรชื่อ Lamech (ลาเม็ค)
และเมททูเซลาห์มีชีวิตต่อไปอีก 782 ปี เขามีบุตรชายหญิงมากมาย
เมททูเซลาห์มีอายุรวมทั้งสิ้น 969 ปี จึงเสียชีวิต
เราอาจสังเกตว่า อายุของมนุษย์ค่อยลดลงไปเรื่อยๆ
ซึ่งอาจเกิดจากสาเหตุบางอย่างในกรรมพันธุ์
เราอาจเคยเห็นในภาพยนตร์สารคดี National
Geographic หรือหนังสือตำราทางวิทยาศาสตร์ที่บอกว่า
มนุษย์มีวิวัฒนาการมาจากลิงไม่มีหาง
แต่เราผู้ที่ศึกษาพระคัมภีร์ปฏิเสธในเรื่อง ทฤษฏีวิวัฒนาการ เรามั่นใจในการเนรมิตสร้างมนุษย์ของพระเจ้า
มาดูต่อไปในเรื่องระยะเวลาของน้ำท่วมโลก
โดยดูตั้งแต่สมัยของเมททูเซลาห์เสียชีวิต ดังในรูป
Lamech รากศัพท์ของชื่อนี้
ทำให้เราคิดถึงคำในภาษาอังกฤษ คือคำว่า “Lament” หรือ “Lamentation” ซึ่งมีความหมายว่า ความโศกเศร้า การร้องไห้คร่ำครวญ หรือ
ความสิ้นหวัง
เมื่อลาเม็คมีอายุ 182 ปี เขาให้กำเนิดบุตรชื่อ Noah
(โนอาห์) โดยลาเม็คพูดว่า
บุตรนี้จะบรรเทาใจของเราในด้านการงาน และมือที่ชอกช้ำของเรา เพราะแผ่นดินที่พระเจ้าทรงสาปแช่ง
ดังนั้น
ชื่อ Noah โนอาห์ จึงมีความหมายว่า “to bring relief” หรือ “comfort” นำมาซึ่งความบรรเทาใจ การพักผ่อน
เมื่อรวมความหมายของชื่อบรรดาอัยกาในพระคัมภีร์ตามที่กล่าวมาแล้ว
ก็จะได้ว่า
Adam อาดัม Man มนุษย์
Seth เส็ท Appointed ประทาน ได้รับ
Enosh เอนอส Mortal บาป
Kenan คีนาน Sorrow (but) ความเศร้า
Mahalalel มาฮาลาเลล The blessed God พระเจ้าผู้ทรงอวยพร
Jared จาเร็ด Shall
come down จะลงมา
Enoch เอน็อค Teaching การสั่งสอน
Methuselah เมททูเซลาห์ His death
shall bring ความตายของเขาจะนำมาซึ่ง
Lamech ลาเม็ค Despairing ความสิ้นหวัง
Noah โนอาห์ Comfort,Rest ความบรรเทาใจ การพักผ่อน
เมื่อนำความหมายเหล่านี้มาจัดเรียงใหม่ให้ดูดีขึ้นก็จะได้พ้องกับพระวรสาร
Man is
appointed mortal sorrow but the Blessed God shall come down teaching that his
death shall bruise death God’s death shall bring the despairing comfort or rest
มนุษย์ได้ทำบาปที่น่าเศร้า
แต่พระเจ้าจะเสด็จลงมาสั่งสอน
การตายของเขาจะบอบช้ำ การสิ้นพระชนม์ของพระเจ้าจะนำมาซึ่ง ความสิ้นหวัง ความบรรเทาใจ การพักผ่อน
นี่เป็นแผนการแห่งความรอดของพระเจ้า
เมื่ออาดัมได้ทำผิดพลาดโดยขัดคำสั่งของพระเจ้า พระองค์ทรงให้คำพยากรณ์เหล่านี้
เพื่อแสดงให้เห็นว่าในวาระสุดท้ายพระองค์จะทรงได้รับชัยชนะเหนือความตายและนำความรอดพ้นมาสู่มนุษยชาติ
พระเยซูเจ้าตรัสว่า
“ไม่มีความรักใดยิ่งใหญ่เท่ากับผู้ที่ยอมสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหาย” และพระเยซูเจ้าทรงเต็มพระทัยที่ยอมรับความตายบนไม้กางเขนเพื่อเราและมนุษย์ทุกคน
เรื่องราวในพระธรรมใหม่ ถูกซ่อนอยู่ในพระธรรมเก่า
เรื่องราวในพระธรรมเก่า ถูกเปิดเผยในพระธรรมใหม่
********************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น