วันเสาร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2561

วาจาให้แรงบันดาลใจ

By Michael H Brown
หลายปีที่แล้ว ผมไปแสวงบุญที่ไอร์แลนด์กับคุณพ่อ มิคาเอล สแกนแลน จากมหาวิทยาลัยฟรังซิสกัน (Father Michael Scanlan of Franciscan University)

ผมถามท่านซึ่งเป็นพระสงฆ์ที่ศรัทธาในพระแม่มารีย์มากว่า ในความเห็นของท่าน ท่านคิดว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ท่านตอบว่า พวกเราจะเข้าใกล้จุดสุดยอดของสถานการณ์ ผมคิดว่านั่นเป็นคำตอบโดยรวมของสถานการณ์ของโลกในปัจจุบันนี้  เพราะเราได้รับรู้ข่าวสารหลายอย่าง เช่น การก่อการร้ายของมุสลิมหัวรุนแรง สงครามในซีเรีย อิรัก และในที่ต่างๆ การข่มขู่ของเกาหลีเหนือด้วยการยิงขีปนาวุธระยะไกล การโจมตีซีเรียของสหรัฐและพันธมิตร ฯลฯ

หลายปีก่อนหน้านี้คือในวันที่ 13 ม.ค. 1980 พระสงฆ์ท่านนี้ได้ส่งเมล์มาให้ผม ซึ่งเป็นเรื่องราวของอนาคต ท่านเขียนตามที่ท่านรู้สึกว่าได้รับการดลใจจากเบื้องบน ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่มีค่าคู่ควรที่จะอ่าน และผมได้ลงไว้ข้างล่างนี้แล้ว

“พระเจ้าตรัสว่า จงฟังคำของเรา ช่วงเวลาที่เราให้ไว้สำหรับพระหรรษทานและพระพรจะถูกแทนที่ด้วยช่วงเวลาแห่งพระยุติธรรมและการชำระล้างให้สะอาดบริสุทธิ์”

“สิ่งที่ไม่สัมฤทธิผลด้วยการประทานพระหรรษทานและพระพรจากเรา  เราจะได้รับความสำเร็จด้วยพระยุติธรรมและการชำระล้าง  ประชาชนของเรา พระศาสนจักรของเราจำเป็นต้องได้รับการพิพากษานี้  พวกเขายังคงมีความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวกับจิตวิญญาณของโลกนี้ พวกเขาไม่เพียงแต่ติดเชื้อร้ายของบาป พวกเขายังสอนให้คนทำบาป  ติดใจในบาป โอบกอดบาป....ผู้นำก็ไม่สามารถจัดการกับเรื่องนี้ได้....ความแตกแยก ความสับสน แผ่กระจายไปทั่วทุกระดับชั้น  ซาตานสามารถเข้าไปในที่ที่มันต้องการและแพร่เชื้อร้ายแก่บุคคลที่มันต้องการ  มันมีอิสระที่จะเข้าหาประชาชนของเราทุกคนและเราจะไม่ยอมให้เป็นเช่นนี้”

 “ประชาชนของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ได้รับการอวยพรจากเราในการฟื้นฟูใหม่นี้อยู่ภายใต้จิตวิญญาณของโลกมากยิ่งกว่าอยู่ภายใต้จิตวิญญาณแห่งศีลล้างบาปของเรา  พวกเขากลัวว่าคนอื่นจะคิดถึงพวกเขาอย่างไร กลัวจะล้มเหลวและถูกปฏิเสธในโลกนี้ กลัวว่าจะไม่ได้รับความเคารพนับถือจากเพื่อนบ้าน จากหัวหน้าและจากคนที่อยู่รอบข้าง มากยิ่งกว่ากลัวเราและยิ่งกว่าความสัตย์ซื่อต่อวาจาของเรา  เพราะฉะนั้นสถานการณ์ของพวกเจ้าจึงเปราะบางมาก พละกำลังของเจ้ามีจำกัดมาก เจ้าไม่สามารถรับมือในศูนย์กลางของสมรภูมิและความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้นได้”

 “ดังนั้น เวลาได้มาถึงแล้วสำหรับพวกเจ้า  จะเป็นเวลาแห่งการพิพากษาและการชำระล้าง  บาปจะต้องถูกเรียกว่าบาป  ซาตานจะถูกกระชากหน้ากากของมัน  ความสัตย์ซื่อจะถูกเชิดชูขึ้นตามที่ควรจะเป็น”

“ผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ของเราจะมาพร้อมกันและทุกคนจะได้เห็น  พวกเขาจะมีจำนวนไม่มากมายนัก  มันจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ยากลำบากและในเวลาที่จำเป็น  จะมีการล่มสลาย มีทุกขเวทนาไปทั่วโลก จะมีการชำระล้างและการเบียดเบียนต่อประชาชนของเรา  ท่านต้องยืนหยัดในสิ่งที่ท่านเชื่อ ท่านต้องเลือกระหว่างโลกและตัวเรา ท่านต้องเลือกว่าจะติดตามวาจาใดและเลือกว่าจะนับถือใคร  และในการเลือกนี้ซึ่งไม่ได้รับความสำเร็จในช่วงเวลาแห่งพระหรรษทานและพระพร มันจะได้รับความสำเร็จในช่วงเวลานั้น”


 “สิ่งที่ไม่ได้รับความสำเร็จด้วยศีลล้างบาปและพระพรที่หลั่งลงมาจากพระจิตของเราจะได้รับความสำเร็จในศีลล้างบาปแห่งไฟ”

“ไฟจะเผาผลาญในท่านแต่ละคน ในกลุ่มชน ในองค์กร และในทุกแห่งทั่วโลก เราจะไม่อดทนต่อสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น  เราจะไม่อดทนต่อการกระทำที่ผิดต่อพระพรต่างๆมากมายที่เราประทานให้ ด้วยการไม่สัตย์ซื่อ ด้วยการทำบาป และการแพศยาต่างๆ”

 “เวลานี้แผนการของเราอยู่ท่ามกลางพวกท่านแล้ว สิ่งที่ท่านต้องทำก็คือกลับมาหาเราด้วยการยอมจำนนต่อวาจาของเรา ต่อแผนการของเรา”

“ยอมจำนนในเวลานี้เสีย สิ่งที่ต้องทำก็คือละทิ้งสิ่งที่ท่านเป็นเจ้าของ-สิ่งที่เป็นอดีต สิ่งที่ต้องทำก็คือพิจารณาดูตัวเองและผู้อื่นในแสงสว่างแห่งวาระนี้ซึ่งเป็นวาระแห่งการพิพากษาและการชำระล้าง ท่านต้องพิจารณาผู้อื่นและทำดีต่อผู้อื่นเพื่อช่วยเหลือพวกเขาให้ยืนหยัดอย่างมั่นคงและกลายเป็นหนึ่งในบรรดาผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ของเรา”

 “เพราะจะมีผู้ที่บาดเจ็บและเสียชีวิต มันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่มันเป็นสิ่งจำเป็น  เป็นสิ่งจำเป็นที่ประชาชนของเราต้องเป็นคนของเราอย่างแท้จริง พระศาสนจักรของเราต้องเป็นพระศาสนจักรของเราอย่างแท้จริง แล้วพระจิตของเราจะนำความบริสุทธิ์แห่งชีวิต ความสัตย์ซื่อต่อพระวรสารอย่างแท้จริงมายังโลกนี้”

–MHB
******************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น