หลายปีที่แล้ว ผมไปแสวงบุญที่ไอร์แลนด์กับคุณพ่อ มิคาเอล
สแกนแลน จากมหาวิทยาลัยฟรังซิสกัน (Father Michael
Scanlan of Franciscan University)
ผมถามท่านซึ่งเป็นพระสงฆ์ที่ศรัทธาในพระแม่มารีย์มากว่า
ในความเห็นของท่าน ท่านคิดว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ท่านตอบว่า พวกเราจะเข้าใกล้จุดสุดยอดของสถานการณ์
ผมคิดว่านั่นเป็นคำตอบโดยรวมของสถานการณ์ของโลกในปัจจุบันนี้ เพราะเราได้รับรู้ข่าวสารหลายอย่าง เช่น
การก่อการร้ายของมุสลิมหัวรุนแรง สงครามในซีเรีย อิรัก และในที่ต่างๆ
การข่มขู่ของเกาหลีเหนือด้วยการยิงขีปนาวุธระยะไกล การโจมตีซีเรียของสหรัฐและพันธมิตร
ฯลฯ
หลายปีก่อนหน้านี้คือในวันที่
13 ม.ค. 1980 พระสงฆ์ท่านนี้ได้ส่งเมล์มาให้ผม ซึ่งเป็นเรื่องราวของอนาคต ท่านเขียนตามที่ท่านรู้สึกว่าได้รับการดลใจจากเบื้องบน
ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่มีค่าคู่ควรที่จะอ่าน และผมได้ลงไว้ข้างล่างนี้แล้ว
“พระเจ้าตรัสว่า ‘จงฟังคำของเรา’ ช่วงเวลาที่เราให้ไว้สำหรับพระหรรษทานและพระพรจะถูกแทนที่ด้วยช่วงเวลาแห่งพระยุติธรรมและการชำระล้างให้สะอาดบริสุทธิ์”
“สิ่งที่ไม่สัมฤทธิผลด้วยการประทานพระหรรษทานและพระพรจากเรา
เราจะได้รับความสำเร็จด้วยพระยุติธรรมและการชำระล้าง ประชาชนของเรา พระศาสนจักรของเราจำเป็นต้องได้รับการพิพากษานี้
พวกเขายังคงมีความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวกับจิตวิญญาณของโลกนี้
พวกเขาไม่เพียงแต่ติดเชื้อร้ายของบาป พวกเขายังสอนให้คนทำบาป ติดใจในบาป โอบกอดบาป....ผู้นำก็ไม่สามารถจัดการกับเรื่องนี้ได้....ความแตกแยก
ความสับสน แผ่กระจายไปทั่วทุกระดับชั้น
ซาตานสามารถเข้าไปในที่ที่มันต้องการและแพร่เชื้อร้ายแก่บุคคลที่มันต้องการ
มันมีอิสระที่จะเข้าหาประชาชนของเราทุกคนและเราจะไม่ยอมให้เป็นเช่นนี้”
“ประชาชนของเรา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ได้รับการอวยพรจากเราในการฟื้นฟูใหม่นี้อยู่ภายใต้จิตวิญญาณของโลกมากยิ่งกว่าอยู่ภายใต้จิตวิญญาณแห่งศีลล้างบาปของเรา พวกเขากลัวว่าคนอื่นจะคิดถึงพวกเขาอย่างไร
กลัวจะล้มเหลวและถูกปฏิเสธในโลกนี้
กลัวว่าจะไม่ได้รับความเคารพนับถือจากเพื่อนบ้าน จากหัวหน้าและจากคนที่อยู่รอบข้าง
มากยิ่งกว่ากลัวเราและยิ่งกว่าความสัตย์ซื่อต่อวาจาของเรา เพราะฉะนั้นสถานการณ์ของพวกเจ้าจึงเปราะบางมาก
พละกำลังของเจ้ามีจำกัดมาก เจ้าไม่สามารถรับมือในศูนย์กลางของสมรภูมิและความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้นได้”
“ดังนั้น
เวลาได้มาถึงแล้วสำหรับพวกเจ้า จะเป็นเวลาแห่งการพิพากษาและการชำระล้าง บาปจะต้องถูกเรียกว่าบาป ซาตานจะถูกกระชากหน้ากากของมัน ความสัตย์ซื่อจะถูกเชิดชูขึ้นตามที่ควรจะเป็น”
“ผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ของเราจะมาพร้อมกันและทุกคนจะได้เห็น พวกเขาจะมีจำนวนไม่มากมายนัก มันจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ยากลำบากและในเวลาที่จำเป็น จะมีการล่มสลาย มีทุกขเวทนาไปทั่วโลก จะมีการชำระล้างและการเบียดเบียนต่อประชาชนของเรา ท่านต้องยืนหยัดในสิ่งที่ท่านเชื่อ
ท่านต้องเลือกระหว่างโลกและตัวเรา
ท่านต้องเลือกว่าจะติดตามวาจาใดและเลือกว่าจะนับถือใคร
และในการเลือกนี้ซึ่งไม่ได้รับความสำเร็จในช่วงเวลาแห่งพระหรรษทานและพระพร
มันจะได้รับความสำเร็จในช่วงเวลานั้น”
“สิ่งที่ไม่ได้รับความสำเร็จด้วยศีลล้างบาปและพระพรที่หลั่งลงมาจากพระจิตของเราจะได้รับความสำเร็จในศีลล้างบาปแห่งไฟ”
“ไฟจะเผาผลาญในท่านแต่ละคน ในกลุ่มชน
ในองค์กร และในทุกแห่งทั่วโลก เราจะไม่อดทนต่อสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น เราจะไม่อดทนต่อการกระทำที่ผิดต่อพระพรต่างๆมากมายที่เราประทานให้
ด้วยการไม่สัตย์ซื่อ ด้วยการทำบาป และการแพศยาต่างๆ”
“เวลานี้แผนการของเราอยู่ท่ามกลางพวกท่านแล้ว
สิ่งที่ท่านต้องทำก็คือกลับมาหาเราด้วยการยอมจำนนต่อวาจาของเรา ต่อแผนการของเรา”
“ยอมจำนนในเวลานี้เสีย
สิ่งที่ต้องทำก็คือละทิ้งสิ่งที่ท่านเป็นเจ้าของ-สิ่งที่เป็นอดีต
สิ่งที่ต้องทำก็คือพิจารณาดูตัวเองและผู้อื่นในแสงสว่างแห่งวาระนี้ซึ่งเป็นวาระแห่งการพิพากษาและการชำระล้าง
ท่านต้องพิจารณาผู้อื่นและทำดีต่อผู้อื่นเพื่อช่วยเหลือพวกเขาให้ยืนหยัดอย่างมั่นคงและกลายเป็นหนึ่งในบรรดาผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ของเรา”
“เพราะจะมีผู้ที่บาดเจ็บและเสียชีวิต
มันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่มันเป็นสิ่งจำเป็น
เป็นสิ่งจำเป็นที่ประชาชนของเราต้องเป็นคนของเราอย่างแท้จริง
พระศาสนจักรของเราต้องเป็นพระศาสนจักรของเราอย่างแท้จริง
แล้วพระจิตของเราจะนำความบริสุทธิ์แห่งชีวิต
ความสัตย์ซื่อต่อพระวรสารอย่างแท้จริงมายังโลกนี้”
–MHB
******************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น