เป็นนักเขียน และนักประวัติศาสตร์ในยุคเรืองปัญญาของฝรั่งเศส เขาเป็นผู้โจมตีการจัดตั้งศาสนจักรคาทอลิกในฝรั่งเศส และยังสนับสนุนเสรีภาพทางศาสนา เสรีภาพในการพูด และยังผลักดันให้มีการแบ่งแยกศาสนจักรออกจากรัฐ
ซีเวียรุส (Severus)จักรพรรคิโรมัน - ( 208 – 235)
“เราได้ครอบครองทุกสิ่งแล้ว แต่ทุกสิ่งที่ได้มานั้นล้วนเป็นความว่างเปล่า”
“เราได้ครอบครองทุกสิ่งแล้ว แต่ทุกสิ่งที่ได้มานั้นล้วนเป็นความว่างเปล่า”
โทมัส เพน (Thomas pain) –
“ข้าพเจ้าจะให้โลก ถ้าหากข้าพเจ้าได้มันมา....ยุคสมัยแห่งเหตุผลไม่เคยมีอยู่..โอ พระเจ้าโปรดช่วยข้าพเจ้าด้วย เพราะข้าพเจ้ากำลังอยู่ขอบเหวนรกแต่เพียงลำพัง. ”
เริ่มมีชื่อเสียงไม่ดีเมื่อเขียนหนังสือ ยุคสมัยของเหตุผล (The Age of Reason), ซึ่งเกี่ยวกับการเชื่อถือในพระเจ้า และโจมตีคำสอนของชาวคริสต์ และในหนังสือ ความยุติธรรมของเกษตรกร (Agrarian Justice), เขาก็เริ่มแนะนำแนวคิดที่คล้ายกับสังคมนิยม
“ข้าพเจ้าจะให้โลก ถ้าหากข้าพเจ้าได้มันมา....ยุคสมัยแห่งเหตุผลไม่เคยมีอยู่..โอ พระเจ้าโปรดช่วยข้าพเจ้าด้วย เพราะข้าพเจ้ากำลังอยู่ขอบเหวนรกแต่เพียงลำพัง. ”
เริ่มมีชื่อเสียงไม่ดีเมื่อเขียนหนังสือ ยุคสมัยของเหตุผล (The Age of Reason), ซึ่งเกี่ยวกับการเชื่อถือในพระเจ้า และโจมตีคำสอนของชาวคริสต์ และในหนังสือ ความยุติธรรมของเกษตรกร (Agrarian Justice), เขาก็เริ่มแนะนำแนวคิดที่คล้ายกับสังคมนิยม
โทมัส คาร์ลเล –
“ข้าพเจ้าไม่มีความหวังใดๆ เป็นคนแก่ที่กำลังเพ่งมองวาระสุดท้ายอันว่างเปล่า”
“ข้าพเจ้าไม่มีความหวังใดๆ เป็นคนแก่ที่กำลังเพ่งมองวาระสุดท้ายอันว่างเปล่า”
อัลดามองต์ ผู้สงสัย –
“หลักการของข้าพเจ้าได้ก่อพิษภัยแก่มิตรสหายของข้าพเจ้า.
ความสุรุ่ยสุร่ายของข้าพเจ้าทำให้ลูกของข้าพเจ้ากลายเป็นยาจก
ความโหดเหี้ยมของข้าพเจ้าได้ฆ่าภรรยาของข้าพเจ้า....
“หลักการของข้าพเจ้าได้ก่อพิษภัยแก่มิตรสหายของข้าพเจ้า.
ความสุรุ่ยสุร่ายของข้าพเจ้าทำให้ลูกของข้าพเจ้ากลายเป็นยาจก
ความโหดเหี้ยมของข้าพเจ้าได้ฆ่าภรรยาของข้าพเจ้า....
และนรกกำลังรอข้าพเจ้าอยู่เบื้องหน้าละหรือ?
”
เซอร์โทมัส สก๊อต อัครมหาเสนาบดีแห่งอังกฤษ –
“จนถึงช่วงเวลานี้ ข้าพเจ้ายังคงคิดว่าไม่มีพระเป็นเจ้าหรือนรก....แต่บัดนี้ข้าพเจ้ารับรู้และรู้สึกได้ว่า
มีทั้งสองอย่าง และข้าพเจ้าได้ถูกพิพากษาให้ไปสู่ความหายนะโดยการพิพากษาอันทรงยุติธรรมขององค์พระผู้ทรงสรรพานุภาพ”
พระเยซูเจ้าตรัสว่า
เอ็ดวาร์ด
กิบบอน นักประพันธ์ –
“ทุกอย่างดูมืดมนและเต็มไปด้วยความสงสัย”
“ทุกอย่างดูมืดมนและเต็มไปด้วยความสงสัย”
คุณแน่ใจหรือว่าอีกด้านหนึ่งนั้นไม่มีอะไรเลย?
มีหลายคนคิดว่าหลังความตายนั้นไม่มีอะไรอีกต่อไป
มีหลายคนคิดว่าหลังความตายนั้นไม่มีอะไรอีกต่อไป
วอร์แตร์กล่าวแก่หมอที่อยู่ข้างเตียงที่เขาเสียชีวิตว่า – “ผมหาได้กลืนกินอะไรไม่นอกจากควันเท่านั้น....ผมหลงระเริงไปกับควันกำยานที่ทำให้หัวของผมหมุนติ้ว”
มาซารีน พระคาร์ดินัลชาวฝรั่งเศส – “โอ วิญญาณที่น่าสงสารของฉัน เจ้าจะเป็นอะไรต่อไป? เจ้าจะไปที่ไหน?
โทมัส ฮอบบีส์ นักการเมือง
นักปรัชญาและผู้ที่ไม่เชื่อพระเจ้า – “ข้าพเจ้ากำลังหวาดกลัวว่าตนเองจะต้องไปสู่ความมืดมิด”
เซอร์ ฟรานซิส นิวพอร์ต กล่าวแก่คนที่อยู่ข้างเตียงที่ท่านกำลังจะเสียชีวิต
– “ฉันรู้ตัวว่า ฉันได้สูญเสียชั่วนิรันดรแล้ว โอ, ไฟนั่น
โอ ความเจ็บปวดแสนสาหัสจนทนไม่ได้ของนรก”
มีชีวิตนิรันดรและมีความหวังด้วยเช่นกัน
กษัตริย์ดาวิดกล่าวว่า –
“ถึงแม้ข้าพเจ้าจะเดินผ่านหุบเขาในเงามรณา แต่พระองค์ทรงอยู่กับข้าพเจ้า”
“ถึงแม้ข้าพเจ้าจะเดินผ่านหุบเขาในเงามรณา แต่พระองค์ทรงอยู่กับข้าพเจ้า”
นักบุญเปาโลอัครสาวกกล่าวว่า –
“โอ ความตาย เหล็กในของเจ้าอยู่ที่ไหนกัน?”
“โอ ความตาย เหล็กในของเจ้าอยู่ที่ไหนกัน?”
“ข้าพเจ้าวิ่งมาถึงเส้นชัยแล้ว เหลืออยู่ก็แต่เพียงมงกุฏแห่งชัยชนะ"
พระเยซูเจ้าตรัสว่า
“เราคือการกลับคืนชีพและเป็นชีวิต.ผู้ที่เชื่อในเรา
ถึงแม้จะตายไปแล้ว
แต่ก็จะกลับมีชีวิตขึ้นมาใหม่..”
แต่ก็จะกลับมีชีวิตขึ้นมาใหม่..”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น