วันอังคารที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2561

ทำไมคุณพ่อปีโอจึงได้รับรอยแผลศักดิ์สิทธิ์?




บทแปล
เรากำลังเดินทางไปยัง San Giovanni Rotondo เมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในภูมิภาค Puglia ในภาคใต้ของอิตาลี ชื่อของเมืองนี้เชื่อมโยงกับนักบุญร่วมสมัยที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือนักบุญคุณพ่อปีโอ (Saint Padre Pio) ที่นี่เราตรวจสอบคำถามที่ว่าทำไมคุณพ่อปีโอจึงได้รับตราประทับของรอยแผลศักดิ์สิทธิ์และมีความสำคัญอย่างไรสำหรับชีวิตฝ่ายวิญญาณของเราเอง ทุกวันนี้ ซานจีโอวานนี รอตตอนโด มีอาสนวิหารที่สร้างถวายพระรูปแม่พระแห่งพระหรรษทาน เมื่อผู้สมัครบวชหนุ่ม ฟรังเชสโกแห่งจีอันนี ได้รับการบวชและได้รับนามว่า Padre Pio ท่านมาถึงที่นี่เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 1916 เวลานั้นมีเพียงคอนแวนต์เล็กๆตั้งอยู่ใจกลางป่า
“ท่านมาถึงที่นี่และพักอยู่เป็นเวลาหลายปี คอนแวนต์ถูกสร้างขึ้นในปี 1538 และในปี 1646 ก็ถูกถวายอุทิศแด่ แม่พระแห่งพระหรรษทาน” Msg.Anthony Figueiredo
โบสถ์ ซานตามาเรีย เดลลา กราเซีย santa maria della grazia ถูกสร้างขึ้นบนสถานที่ตั้งของโบสถ์เก่าในปี 1956 ทุกวันนี้ โบสถ์เป็นศูนย์กลางของสถานที่และได้รับการซ่อมแซมและถูกใช้วางร่างกายของคุณพ่อปีโอซึ่งนอนอยู่ในโลงแก้ว
“คุณพ่อปีโอได้รับความเจ็บปวดเป็นอย่างมากจากรอยแผลที่สีข้างของท่านซึ่งเกิดขึ้นในวันที่ 5 ส.ค. 1918 อีกหนึ่งเดือนต่อมาท่านก็ได้รับรอยแผลศักดิ์สิทธิ์ที่พระเยซูเจ้าทรงประทานให้ท่านเพื่อเป็นการมีส่วนร่วมในพระมหาทรมานและ การสิ้นพระชนม์ของพระองค์ ท่านจึงได้รับการประทับด้วยรอยแผลเหมือนกับที่พระเยซูคริสตเจ้าทรงได้รับ”
เราเข้าไปในคอนแวนต์และได้พบกับพระสงฆ์นักบวชในสวน คุณพ่อคาร์โล Carlo Maria Labert ได้นำเราเดินไปตามเฉลียงยาว เพื่อแสดงให้เราเห็นส่วนที่เป็นหัวใจของชีวิตฝ่ายจิตของเหล่าพระสงฆ์นักบวช
“นี่เป็นห้องพักที่เคยเป็นของคุณพ่อปีโอ ท่านอาศัยอยู่ที่ห้องนี้เมื่อหนึ่งร้อยสองปีก่อน ตั้งแต่ท่านมาถึงที่นี่เมื่อปี 1916 ท่านมาที่นี่ด้วยปัญหาสุขภาพ เพื่อหาสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสำหรับสุขภาพของท่าน ห้องเล็กๆนี้ถูกมอบให้ท่าน ห้องนี้ถูกรักษาไว้อย่างดี เพราะมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นที่นี่ คุณพ่อปีโออยู่ที่ห้องนี้ในวันที่ 5 ส.ค. 1918 และหนึ่งเดือนก่อนที่ท่านจะได้รับรอยแผลศักดิ์สิทธิ์ ท่านได้ฟังการสารภาพบาปของกลุ่มสามเณรในห้องนี้ในฐานะที่ท่านเป็นผู้แนะนำฝ่ายจิตของพวกเขา และท่านได้บอกพวกเขาเกี่ยวกับจดหมายที่ท่านส่งไปถึงผู้ให้คำแนะนำฝ่ายจิตของท่าน ท่านเล่าว่ามีผู้หนึ่งปรากฏแก่ท่าน และเครื่องมือที่เป็นเหล็กแหลมได้แทงเข้าที่หัวใจของเขา ผู้ที่ปรากฏมานั้นก็คือพระคริสตเจ้า พระธาตุที่เป็นหัวใจของคุณพ่อปีโอเคยเก็บรักษาไว้ที่นี่ เมื่อพระสันตะปาปาเบเนดิกต์เสด็จมาเยี่ยมในวันที่ 21 มิ.ย. 2009 พระองค์ก็ทรงอวยพรสถานที่แห่งนี้
หลังจากคุณพ่อปีโอเสียชีวิตแล้ว ได้มีการค้นพบเสื้อผ้าหลายตั้งที่มีรอยเลือดที่เป็นหลักฐานว่าคุณพ่อปีโอมีรอยแผลอย่างถาวรและท่านมีความเจ็บปวดทรมานจากรอยแผลเหล่านี้ ในระหว่างการประกอบพิธีมิสซาท่านก็มีความเจ็บปวดทรมานจากรอยแผลของมงกุฏหนามบนศีรษะ เหตุการณ์นี้ปรากฏในวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ในเทศกาลมหาพรต และเป็นสิ่งพิสูจน์ถึงสิ่งที่พระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2 ตรัสว่าคุณพ่อปีโอมีรอยแผลที่ทำให้เจ็บปวดทรมานมาก เจ็บปวดที่สุด
คุณพ่อปีโอมีความเจ็บปวดทางด้านร่างกาย และบางทีความเจ็บปวดทรมานทางฝ่ายจิตใจของท่านนั้นยิ่งใหญ่กว่า เพราะในระหว่างที่ท่านมีชีวิตอยู่นั้น ท่านถูกกล่าวหามากมายทุกชนิด เป็นการต่อต้านท่าน สเตฟาโน แคมปาเนลลา (Stefan Campanella) ผู้เขียนหนังสือหลายเล่มเกี่ยวกับนักบุญคุณพ่อปีโอได้ให้รายละเอียดแก่เราเกี่ยวกับช่วงเวลาที่ยากลำบากของคุณพ่อ
“เรามาอยู่ภายในโบสถ์น้อยของคอนแวนต์ที่ซึ่งคุณพ่อปีโอประกอบพิธีมิสซาอย่างสันโดษ ตั้งแต่ มิ.ย. 1931จนถึง มิ.ย. 1933 เพราะทางสันตะสำนักได้สั่งห้ามท่านในการทำกิจการทุกอย่างของพระสงฆ์ยกเว้นการประกอบพิธีมิสซาเป็นการส่วนตัวเท่านั้น
สเตฟาโนบอกว่าข้อกล่าวหาที่ร้ายแรงที่สุดมาจากพระสงฆ์ท้องถิ่นที่อิจฉาท่านและได้รายงานไปที่วาติกันว่า คุณพ่อปีโอเป็นนักบวชที่โลภและชั่วร้าย ซึ่งส่งผลที่ไม่ดีต่อประชาชน ทางวาติกันจึงใช้มาตรการรุนแรงสั่งห้ามคุณพ่อปีโอไม่ให้ทำกิจการสาธารณะทุกอย่าง และคุณพ่อปีโอก็ไม่ได้โต้ตอบความอยุติธรรมนี้ ท่านทำเพียงจูบมือของผู้แทนพระศาสนจักรด้วยความนบนอบเชื่อฟัง ท่านเลือกที่จะนบนอบเชื่อฟังพระศาสนจักรในทุกเรื่อง หลังจากนั้นสองปี คุณพ่อปีโอก็ได้รับอนุญาติให้กลับมาทำการอภิบาลประชาชนในฐานะพระสงฆ์ได้เหมือนเดิม
ภายใต้การเฝ้ามองของแม่พระแห่งพระหรรษทาน ที่นี่คุณพ่อปีโอได้ประกอบพิธีมิสซาประจำวันและฟังสารภาพบาปภายในโบสถ์น้อยนี้ อันเป็นสถานที่ให้พลังทางจิตใจของท่านและเป็นที่มาของอัศจรรย์และพระหรรษทานทุกอย่าง ทุกวันนี้มีผู้มาแสวงบุญอยู่ตลอดเวลาเพื่อมารับศีลศักดิ์สิทธิ์และสำนึกผิดกลับใจ ณ.ที่ฟังสารภาพบาปของคุณพ่อปีโอ
ทางด้านหลังของโบสถ์บนบริเวณประกอบพิธีมิสซามีไม้กางเขนขนาดใหญ่ ที่ตรงนี้คุณพ่อปีโอได้สวดภาวนาอย่างลึกซึ้งและได้รับรอยแผลศักดิ์สิทธิ์ในปี 1918 และรอยแผลนี้ยังปรากฏอยู่นานมากกว่า 50 ปี จนท่านเสียชีวิต
เมื่อเข้าไปในห้องซาคริสตี เราได้พบกับคุณพ่อ Martineau กำลังจัดสิ่งของสำหรับพิธีมิสซา ท่านเป็นพระสงฆ์องค์สุดท้ายในจีโอวันนี รอตตอนโดที่อยู่ร่วมสมัยกับคุณพ่อปีโอ
"การที่ Larmia prima ฝังศพบุตรชาย เป็นเหตุการณ์ที่ประทับใจผมเป็นครั้งแรกเมื่อผมได้พบกับคุณพ่อปีโอ เพราะท่านบอกผมถึงเรื่องของคุณปู่และคุณย่าของผมและหลานๆของท่าน คุณพ่อปีโอช่างมีความเมตตาเป็นอย่างยิ่ง และยังได้พูดตลกทำให้พวกเราหัวเราะด้วย"
คุณพ่อ Martineau เล่าว่าในระหว่างการฟังสารภาพบาป คุณพ่อปีโอได้แบกบาปไว้บนบ่าของท่านเอง นั่นเป็นช่วงเวลาที่ท่านเป็นหนึ่งเดียวกับพระมหาทรมานของพระคริสตเจ้าซึ่งทำให้พวกเราได้รับความรอด
“ผมได้เห็นรอยแผลของคุณพ่อปีโอ ที่ผมได้เห็นก็เพราะผมเป็นผู้ช่วยท่านในการประกอบพิธีมิสซา  มันเป็นสิทธิพิเศษ และก่อนที่คุณพ่อปีโอจะไป ท่านยืนอยู่ตรงนี้สวมชุดพิธีก่อนที่จะเดินไปที่พระแท่น และท่านได้ถอดถุงมือออก เพื่อประกอบพิธีโดยไม่สวมถุงมือ เมื่อคุณพ่อปีโอกลับมาที่ห้องซาคริสตี ท่านยอมถอดถุงมือออกเพื่อให้ผู้คนจูบมือของท่านได้ มันเป็นสิทธิพิเศษจริงๆ”
“เช้าวันหนึ่งหลังจากที่ผมประกอบพิธีมิสซาเสร็จแล้ว ผมได้ไปที่ห้องซาคริสตี และก่อนที่คุณพ่อปีโอจะสวมถุงมือ ท่านได้ยืนมือของท่านมาให้ผมจูบ และผมก็จูบอย่างนุ่มนวล สิ่งที่ผมได้เห็นก็คือในรอยแผลนั้นมีสะเก็ดเลือดใหญ่ และเมื่อสะเก็ดนี้แตกออกเลือดก็ไหลออกมาตามที่เห็นในวีดีโอ”
พระเยซูเจ้าทรงเลือกคุณพ่อปีโอให้เป็นมรณะสักขีที่มีชีวิต เพื่อเห็นแก่พระศาสนจักร สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องหมายทำให้ผู้อื่นเชื่อในผู้ที่พระองค์ทรงเลือก ทำให้เชื่อในผู้ฟังสารภาพบาปของพระองค์ เชื่อในผู้ที่พระองค์ทำให้เขาสามารถอ่านจิตใจคนได้ ดังนั้นผู้คนจึงหลั่งไหลมาหาคุณพ่อปีโอ ก็เพราะรอยแผลศักดิ์สิทธิ์ พระเจ้าทรงใช้สิ่งนี้แต่เมื่อประชาชนมาอยู่เบื้องหน้าพระองค์ พระองค์ก็ประทานพระวาจาทรงชีวิตแก่พวกเขา นำทางพวกเขาให้พ้นจากวิถีทางของบาป ให้พ้นจากสถานการณ์ที่ยากลำบาก เพื่อที่พวกเขาจะได้พบกับการกลับฟื้นคืนชีพ เป็นเรื่องที่น่าสนใจที่คุณพ่อปีโอได้รับรอยแผลเป็นเวลานานมากกว่า 50 ปี แต่เมื่อท่านเสียชีวิตแล้ว ทันใดรอยแผลเหล่านั้นก็หายไป สิ่งนี้เป็นภารกิจที่พระเจ้าทรงมอบแก่คุณพ่อปีโอขณะที่ยังมีชีวิต เพื่อนำวิญญาณของผู้อื่นมาสู่พระคริสตเจ้า นี่ไม่ใช่เพื่อตัวคุณพ่อปีโอเอง ไม่ใช่เพื่อทำให้เกิดความประทับใจ แต่เพื่อนำวิญญาณมาหาพระเยซูเจ้าเท่านั้น”
*************** 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น