วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2568

ความฝันของคุณพ่อบอสโก

 


วันที่ 5 มกราคม 1870 คุณพ่อบอสโกมีความฝันที่ทำนายถึงอนาคตของพระศาสนจักร
 
คุณพ่อบอสโกเป็นผู้สนับสนุนข้อความเชื่อเกี่ยวกับความไม่ผิดพลั้งของพระสันตปาปา ดังนั้นท่านจึงตัดสินใจไปที่โรมเพื่อสนับสนุนข้อความเชื่อนี้ ความคิดและจิตใจของท่านอยู่กับสังคายนาวาติกันที่ 1 ในการพิจารณาเพื่อประกาศข้อความเชื่อความไม่ผิดพลั้งของพระสันตปาปา คุณพ่อบอสโกมีความยินดีที่มีการประกาศข้อความเชื่อนี้และแสดงให้ทุกคนเห็นว่ามีความจำเป็นในข้อความเชื่อนี้เป็นอย่างมาก
 
การบ่อนทำลายของฟรีเมสัน
 
แต่ผู้ไม่มีความเชื่อและกลุ่มฟรีเมสันรู้สึกโกรธเคืองและไม่พอใจเป็นอย่างมาก โดยเห็นว่าพระศาสนจักรก้าวหน้าขึ้นทั้งๆที่ได้รับการเบียดเบียนมากมาย กลุ่มเคลื่อนไหวเหล่านี้ประชุมกันเพื่อต่อต้านคาทอลิกในเนเปิลในชื่อว่า”Free Thought”(ความคิดอิสระ) พวกเข้ามีเป้าหมายที่จะทำสงครามต่อสู้กับพระสันตปาปาและความเป็นพระสันตปาปา(papacy)ในทุกแห่ง ในโบโลเนีย(Bologna),ชายที่ชื่อ Joshua Carducci ได้แต่งเพลงสรรเสริญซาตานในฐานะเครือข่ายโปรแตสแตนท์ซคีมเมติกเซคตาเรียน (Protastant schismatic sectarian),และกลุ่มเมสันนิคโลก(Masonic World) เพื่อต้องการปลุกเร้าให้เกิดการแอนตี้คริสตชน(anti-christian Passion) คนเหล่านี้,ที่อยู่ในห้องประชุมเมสันนิคพยายามใช้ทุกวิถีทางที่จะหว่านความไม่ลงรอยกันระหว่างพระสงฆ์ทุกฐานันดรในพระศาสนจักรและสังคมคาทอลิก และความพยายามของพวกเขาก็มีความก้าวหน้าประสบความสำเร็จ
 
คุณพ่อบอสโกรู้เรื่องเหล่านี้และรู้สึกเศร้าใจมากที่รู้ว่าพระสังฆราชหลายคนประกาศว่าตนเองต่อต้านคำจำกัดความของข้อความเชื่อเรื่องความไม่ผิดพลั้งของพระสันตปาปา คุณพ่อบอสโกได้ร่วมมือกับพระสังฆราชองค์อื่นๆและนักเทววิทยาในการสนับสนุนการประกาศข้อความเชื่อนี้ พวกเขาชี้แนะว่ามันจะเป็นการทำให้ลัทธิ Gallicanism ที่ผิดพลาด,สูญสิ้นไป(ความคิดที่ว่า อำนาจของผู้ปกครองรัฐ/ประเทศ เท่าเทียมกับอำนาจของพระสันตะปาปา ซึ่งเป็นรูปแบบเดียวกับอังกฤษที่กษัตริย์ควบคุมศาสนจักร) ซึ่งความคิดนี้แพร่กระจายไปในฝรั่งเศส และมีความพยายามทำให้พระศาสนจักรฝรั่งเศสเป็นอิสระจากโรมและอยู่ภายใต้อำนาจรัฐบาลฝรั่งเศส อันเป็นความผิดพลาดอย่างมหันต์ในยุคเรเนซองส์
 
กลุ่มของคุณพ่อบอสโกยังหวังอีกว่าการประกาศข้อความเชื่อความไม่ผิดพลั้งของพระสันตะปาปาจะทำให้ลัทธิ bronianism ในเยอรมนีสูญสิ้นไปเช่นกัน เยอรมนี,ที่ซึ่งมีบางคนต้องการทำให้คาทอลิกมีความเป็นสากลโดยการแยกอำนาจออกจากพระสันตปาปาไปยังพระสังฆราชท้องถิ่น เพราะ bronianism เป็นขบวนการที่มีอำนาจมากภายในพระศาสนจักรคาทอลิกในเยอรมนียุคศตวรรษที่ 18 มันพยายามทำให้คาทอลิกกลายเป็นศาสนาของชาติ (nationalized) และกำจัดอำนาจของพระสันตะปาปาในบรรดาพระสังฆราช
 
คุณพ่อบอสโกรู้สึกสบายใจขึ้นมากเมื่อรู้ว่าในวันที่ 25 ธ.ค. 1869 พระอัครสังฆราชแห่ง Malene ได้เสนอให้นำคำจำกัดความความไม่ผิดพลั้งของพระสันตปาปาประกาศขึ้นเป็นข้อความเชื่อ ในเวลานั้นข้อเสนอนี้เป็นหัวข้อสำคัญของสภาสังคายนา และในวันที่ 5 ม.ค. 1870 ,คุณพ่อบอสโกมีความฝันและท่านได้เขียนสิ่งที่ท่านเห็นและเสียงของพระเจ้าที่ท่านได้ยิน ท่านเขียนว่า
 
พระเจ้าเท่านั้นที่ทรงฤทธานุภาพ พระองค์ทรงรู้ทุกสิ่งและเห็นทุกสิ่ง พระเจ้าไม่มีอดีตและอนาคต สำหรับพระองค์,ทุกสิ่งเป็นปัจจุบัน ในพระองค์เท่านั้นทรงเปี่ยมด้วยพระเมตตาอันไม่สิ้นสุดและโดยพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์ทรงสามารถเปิดเผยอนาคตให้มนุษยชาติได้รับรู้
 
การเยี่ยมครั้งแรก, พระองค์จะทรงลงโทษความเย่อหยิ่งของฝรั่งเศสด้วยการปล้นสะดมและการทำลายพืชพันธ์,สัตว์และประชาชน
 
การเยี่ยมครั้งที่สอง ฝรั่งเศส,หญิงโสเภณีที่ยิ่งใหญ่แห่งบาบิโลน ที่ซึ่งคนดีต้องถอนหายใจและเรียกหาพี่น้องแห่งยุโรป,จะถูกแย่งเอาศีรษะของเธอไปในความไร้ระเบียบ ปารีส,ปารีส,แทนที่จะสวมใส่เกราะให้ตัวเองด้วยพระนามของพระเจ้า เจ้ากลับล้อมรอบตัวเองด้วยบ้านแห่งความผิดศีลธรรม พวกมันจะถูกทำลายโดยตัวเจ้าเอง เทวรูปแพนธิออน(pantheon)ของเจ้าจะถูกเผาเป็นเถ้าถ่านเพื่อที่มันจะผ่านไปที่ซึ่งความชั่วช้าได้นอนลง ศัตรูของเจ้าจะทำให้เจ้า หวาดหวั่น, หิวโหย,กลัวและกลายเป็นที่น่ารังเกียจของประเทศ แต่วิบัติแก่เจ้าถ้าเจ้ายังจดจำมือของผู้เฆี่ยนตีเจ้าไม่ได้ เราต้องการลงโทษความผิดศีลธรรม,การละทิ้งความเชื่อ,การดูหมิ่นบทบัญญัติของเรา พระเจ้าตรัสดังนี้
 
การมาเยี่ยมครั้งที่สาม เจ้าจะตกอยู่ในมือของชนต่างชาติที่อยู่ห่างไกล ศัตรูของเจ้าจะเห็นปราสาทของเจ้าและเปลวไฟจะเผาบ้านของเจ้าจนกลายเป็นกองซากปรักหักพัง เลือดของผู้กล้าของเจ้าซึ่งจะไม่มีเหลืออีกเลย แต่ดูเถิด,นักรบที่ยิ่งใหญ่จากทางเหนือถือธงไว้ในมือขวามีอักษรนี้จารึกอยู่ พระหัตถ์ที่ไม่อาจต้านทานได้ของพระเจ้า ในเวลานั้น,ชายชราผู้น่าเคารพแห่งโรมจะไปพบกับเขา,ถือคบเพลิงแกว่งไปมา แล้วธงก็ขยายออกและกลายเป็นสีขาวเหมือนหิมะ พระนามของผู้ทรงสามารถทำทุกสิ่งถูกเขียนตรงกลางของธงเป็นอักษรสีทอง นักรบได้ก้มศีรษะเคารพชายชราและจับมือทักทายท่าน ตอนนี้เสียงแห่งสวรรค์ได้พูดกับผู้เลี้ยงแกะแห่งผู้เลี้ยงแกะทั้งหลาย “ท่านอยู่ในที่ประชุมใหญ่พร้อมด้วยผู้ประเมินของท่าน แต่ศัตรูแห่งความดีไม่ได้ยืนนิ่งเฉยๆแม้แต่ชั่วขณะ เขาศึกษาและปฏิบัติศิลปวิชาการทุกอย่างเพื่อต่อสู้กับท่าน เขาจะสร้างความไม่ลงรอยกันในระหว่างผู้ประเมินของท่าน เขาจะสร้างศัตรูขึ้นในท่ามกลางบุตรทั้งหลายของเรา อำนาจแห่งยุคสมัยจะสำรอกไฟออกมา,ถ้าพระวาจาจะติดคอของผู้รักษากฏบัญญัติของเรา พวกเขาจะทำให้ตัวเองเจ็บ ท่านจะต้องรีบถ้าท่านไม่มีชัยชนะเหนือความยากลำบากที่ตัดขาดพวกเขา ถ้าความทุกข์ของท่านยังไม่หยุดแต่ดำเนินอยู่ต่อไปจนกระทั่งหัวของไฮดราแห่งความผิดพลาดถูกตัดออก การโบยตีนี้จะสั่นสะเทือนแผ่นดินและนรก แต่โลกจะถูกช่วยให้รอดและทุกคนที่เป็นคนดีจะชื่นชมยินดี พวกเขาจะมารวมตัวกันรอบๆท่าน เพราะฉะนั้น,แม้จะเหลือผู้ประเมินสองคน แต่ไม่ว่าท่านจะไปที่ไหน,ท่านจะทำงานที่มอบแก่ท่านได้สำเร็จ วันเวลานั้นรวดเร็ว,ปีของท่านเดินหน้าไปสู่ตัวเลขที่กำหนดไว้ แต่พระราชินีผู้ยิ่งใหญ่จะเป็นผู้ช่วยเหลือท่านเสมอ เมื่อเวลาผ่านไปสู่อนาคต พระนางทรงเป็นผลงานชิ้นเอก พระนางทรงเป็นผู้ปกป้องทรงอำนาจของพระศาสนจักร
 
เสียงแห่งสวรรค์พูดต่อไป แต่เจ้าอิตาลี,ดินแดนที่ได้รับพระพร ใครที่ผลักเจ้าไปสู่ความรกร้าง ไม่ใช่ศัตรูของเจ้า,แต่เป็นเพื่อนของเจ้า เจ้าไม่ได้ยินหรือว่า ลูกๆของเจ้าร้องขอขนมปังแห่งความเชื่อ และไม่มีใครหักขนมปังให้พวกเขา เราจะทำอะไร, เราจะเฆี่ยนตีนายชุมพาบาลและฝูงแกะจะกระจัดกระจายไป เพื่อที่ผู้ที่นั่งบนเก้าอี้ของโมเสสจะแสวงหาผู้อภิบาลที่ดี แล้วฝูงแกะจะฟังเขาและได้รับการเลี้ยงดู แต่มือของเราจะอยู่เหนือฝูงแกะและนายชุมพาบาล ความอดหยาก,โรคระบาด,และสงครามจะเป็นสาเหตุทำให้มารดาร้องคร่ำครวญเพราะเลือดของบุตรชายทั้งหลายและสามีที่เสียชีวติในดินแดนของศัตรู และสำหรับเจ้า,โรม,โรมที่อกตัญญู,โรมที่อ่อนแอ เจ้ามาถึงจุดที่แสวงหาแต่คำเยินยอในความฟุ้งเฟ้อในอิสระภาพของเจ้า โดยลืมไปว่าสง่าราศีของเจ้าอยู่ที่กอลโกธา ตอนนี้,ชายชราผู้น่าเคารพแห่งโรมได้แก่ลงและอ่อนแอ,ปกป้องตัวเองไม่ได้ แต่วาจาของเขาทำให้ทั้งโลกสั่นสะเทือน เสียงแห่งสวรรค์พูดว่า โรม,เราจะมาหาเจ้าสี่ครั้ง
 
ครั้งแรก,เราจะเฆี่ยนตีแผ่นดินของเจ้าและผู้ที่อยู่อาศัย
 
ครั้งที่สอง,เราจะส่งการฆ่าและการทำลายล้างมาสู่กำแพงของเจ้า แต่เจ้ายังไม่เปิดตาของเจ้า
 
ในครั้งที่สาม,เราหักล้างการป้องกันและผู้ป้องกัน เราจะให้สายฝนแห่งความหวาดกลัวน่าสยดสยองและความรกร้างด้วยคำสั่งของบิดา ผู้เฉลียวฉลาดของเราจะหลบหนี แต่กฏบัญญัติของเรายังคงถูกเหยียบย่ำ
 
ดังนั้นเราจะมาเยี่ยมเป็นครั้งที่สี่ วิบัติแก่เจ้าถ้าเจ้ายังคงทำให้กฎบัญญัติของเราไร้ความหมาย จะมีความหลอกลวงในระหว่างนักปราชญ์ และเลือดของเจ้าและเลือดบรรดาลูกๆของเจ้าจะชะล้างรอยเปื้อนที่เจ้ากระทำต่อพระบัญญัติของพระเจ้า สงคราม,โรคระบาด,และความอดหยาก จะแพร่ไปในที่ซึ่งความเย่อหยิ่งและความอาฆาตพยาบาทของมนุษยชาติจะถูกเฆี่ยนตี ปราสาทราชวังอันยิ่งใหญ่ของเจ้าอยู่ที่ไหน มันกลายเป็นขยะแห่งจัตุรัสและท้องถนน แล้วพวกเจ้า,โอ พระสงฆ์ ทำไมเจ้าไม่วิ่งและร้องไห้ระหว่างห้องโถงและพระแท่น,สวดภาวนาวอนขอให้การระบาดนี้สิ้นสุดลง ทำไมท่านไม่ใช้เกราะแห่งความเชื่อและขึ้นไปบนหลังคาบ้าน,ท้องถนน,จัตุรัสและทุกที่แม้แต่ที่ซึ่งไม่อาจเข้าไปถึงได้, เพื่อนำเมล็ดพันธิ์แห่งพระวาจาของเราไปประกาศ เจ้าไม่รู้เลยว่าดาบสองคมที่น่ากลัวได้ฟาดฟันศัตรูของเราและสลายพระพิโรธของพระเจ้าต่อมนุษย์
 
สิ่งเหล่านี้จะต้องมาถึงโดยไม่รีรอ อันหนึ่งมาหลังจากอันหนึ่ง
 
สิ่งต่างๆเกิดขึ้นอย่างช้าๆ แต่พระราชินีแห่งสวรรค์ทรงปรากฏและอำนาจของพระเจ้าอยู่ในมือของพระนาง พระนางทำให้ศัตรูกระจัดกระจายเหมือนฝุ่น พระนางทรงคลุมชายชราผู้น่าเคารพแห่งโรมด้วยเสื้อคลุมของพระนาง เขาสวมเสื้อผ้าโบราณ พายุเฮอริเคนที่รุนแรงจะมาอีกครั้ง ความชั่วช้าจะสิ้นสุด บาปจะหมดไปและก่อนพระจันทร์วันเพ็ญสองครั้งในเดือนแห่งดอกไม้ผ่านไป,รุ้งกินน้ำแห่งสันติภาพจะปรากฏบนโลก
 
ผู้อภิบาลยิ่งใหญ่จะเห็นเจ้าสาวของพระราชาของเขาสวมชุดงานรื่นเริง โลกทั้งมวลจะเห็นเปลวไฟส่องแสงปรากฏเบื้องบนในวันพระจิตเสด็จลงมา (Pentecost) และจะไม่เห็นอีกเลยจนกว่าจะถึงวันสุดท้าย
 
จบเสียงของพระเจ้า
 
คุณพ่อบอสโกได้ทำสำเนาเรื่องนี้และนำไปที่โรม และท่านได้อธิบายแก่ผู้ที่ถามท่าน จะมีสงครามระหว่างฝรั่งเศสและปรัสเซียเกิดขึ้น
 
คุณพ่อบอสโกยังส่งสำเนาไปยังพระสังฆราชในโรม
 
และในปี 1872 ,สำนักพิมพ์ journal Le chival ta katolika ได้ลงคำทำนายนี้คำต่อคำของพยานที่เป็นเจ้าหน้าที่ เราคิดถึงคำทำนายที่ตีพิมพ์และไม่เป็นที่รู้จักในสาธารณะซึ่งบางคนจากตอนเหนืออิตาลีสื่อสารไปยังชาวโรมในวันที่ 12 ก.พ. 1870 เราไม่รู้ว่ามันมาจากใคร แต่เราสามารถยืนยันได้ว่าเราได้รับก่อนปารีสถูกบอมบ์โดยกองกำลังพันธมิตรปรัสเซียและถูกเผาโดยคอมมิวนิสต์และเราประหลาดใจที่เห็นว่ามันทำนายถึงการตกต่ำลงของโรมด้วย
 
ตามคำพูดของคุณพ่อบอสโก เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นราวปี 1874 เมื่อความชั่วช้าไม่ได้เกิดขึ้นเพื่อต่อต้านพระประสงค์แห่งสวรรค์
 
เมื่อถามถึงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ไม่เกิดขึ้นตามความฝัน คุณพ่อบอสโกบอกว่า เหตุการณ์เหล่านี้อาจจะไม่เกิดขึ้นอีก เพราะพระเมตตาของพระเจ้า พระองค์ทรงอยากจะชี้แนะถึงหนทางที่มนุษยชาติควรจะเดิน ในกรณีนี้ทำให้ความยากลำบากบางอย่างถูกยกเลิกไปและไม่เกิดขึ้นอีก
 
************************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น