วันพฤหัสบดีที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2557

แอนตี้ไครส์ (Antichrist)



 
        แอนตี้ไครส์คือการลดทอนคริสตศาสนาให้กลายเป็นการบูชาอุดมการณ์อันสูงสุด
             Knights4Christ 01/12/2013

พระศาสนจักรต้องผ่านการทดสอบขั้นสูงสุด
            ก่อนการเสด็จมาครั้งที่สองของพระคริสตเจ้า พระศาสนจักรต้องผ่านการทดสอบครั้งสุดท้ายที่สั่นสะเทือนความเชื่อของผู้มีความเชื่อจำนวนมาก การเบียดเบียนตลอดระยะเวลาแห่งการเดินทางแสวงบุญบนโลกนี้จะเปิดเผยให้เห็น ความลึกลับของความชั่ว ในรูปแบบของการหลอกลวงทางศาสนาที่ทำให้มนุษย์ดูเหมือนแก้ปัญหาของพวกเขาได้ แต่ต้องแลกด้วยการละทิ้งสัจจะธรรมของศาสนา การหลอกลวงทางศาสนาขั้นสูงสุดก็คือแอนตี้ไครส์ ผู้ปรากฏมาเป็นพระเมสสิยาห์เท็จ นั่นคือมนุษย์ผู้หนึ่งได้ยกตัวเองขึ้นแทนที่พระเป็นเจ้าและพระผู้ไถ่ ผู้มารับเนื้อหนังเป็นมนุษย์ การหลอกลวงของแอนตี้ไครส์ได้เริ่มต้นขึ้นแล้วบนโลกนี้ ทุกครั้งในประวัติศาสตร์ที่มีผู้ที่ให้ความหวังลมๆแล้งๆแก่มนุษย์ พระศาสนจักรปฏิเสธรูปแบบต่างๆของกลุ่มเหล่านี้ที่ปรับตัวให้ดูน่านิยมภายใต้ชื่อว่า ลัทธิสหัสวรรษ
            หมายเหตุ
(อังกฤษ: Millenarianism หรือ Millenarism) ลัทธิสหัสวรรษ คือความเชื่อของกลุ่มหรือขบวนการทางศาสนา สังคม หรือการเมือง ที่เชื่อว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ขึ้นในสังคม และหลังจากนั้นทุกสิ่งทุกอย่างก็จะกลายเป็นสิ่งดี ในคัมภีร์ไบเบิลระบุว่าช่วงเวลาที่สงบสุขจะยาวนานถึง 1,000 ปี จึงเป็นที่มาของชื่อแนวคิดนี้ว่า "ลัทธิสหัสวรรษ" ลัทธิสหัสวรรษในประเทศจีนคือ ลัทธิบัวขาว เกิดในสมัยราชวงศ์หยวน มีแนวคิดว่าโลกปัจจุบันเป็นยุคตกต่ำ ประชาชนเดือดร้อนเป็นทุกข์จากการปกครองกดขี่ของภาครัฐ และภัยพิบัติทางธรรมชาติ และพระเป็นเจ้าคือพระแม่องค์ธรรมจะส่งพระศรีอริยเมตไตรยลงมาเกิดเพื่อฉุดช่วยมวลมนุษย์จากความทุกข์ยาก และสร้างสังคมที่ผาสุก มีคุณธรรม)
            พระศาสนจักรจะเข้าสู่อาณาจักรอันรุ่งเรืองได้โดยผ่านทางปาสกาครั้งสุดท้ายเท่านั้น เมื่อพระศาสนจักรจะติดตามพระเยซูเจ้าองค์พระผู้เป็นเจ้าในความตายและการกลับคืนชีพของพระองค์ อาณาจักรนั้นจะบังเกิดขึ้นจากชัยชนะของพระศาสนจักรซึ่งไม่ใช่ได้มาโดยอาศัยอำนาจวาสนา แต่จะได้มาโดยชัยชนะของพระเป็นเจ้าต่อความชั่วร้ายที่ถูกปลดปล่อยออกมาในครั้งสุดท้าย อันจะทำให้องค์เจ้าบ่าวเสด็จลงมาจากสวรรค์ ชัยชนะของพระเป็นเจ้าที่มีต่อการกบฏของปีศาจและความชั่วร้ายจะเกิดขึ้นในรูปแบบของการพิพากษาครั้งสุดท้าย ภายหลังจากความวุ่นวายต่างๆในโลกนี้ผ่านพ้นไปแล้ว

VATICAN CITY, FEB. 28, 2007 (Zenit.org).
         - แอนตี้ไครส์คือการลดทอนคริสตศาสนาให้กลายเป็นการบูชาอุดมการณ์อันสูงสุด แทนที่การเคารพนับถือองค์พระผู้ไถ่พระคาร์ดินัลผู้ทำการฟื้นฟูจิตใจได้กล่าว โดยมีพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 รับฟังอยู่ด้วย

พระคาร์ดินัล จิอาโคโม บิฟฟิ (Cardinal Giacomo Biffi) ผู้เป็นอัครสังฆราชเกษียณของโบโลญญ่า ได้บรรยายเพื่อการไตร่ตรองพิจารณาเรื่องนี้ในวันอังคารที่ 28 ก.พ. 2007 โดยอ้างอิงถึงผลงานของนักปรัชญาชาวรัสเซีย Vladimir Sergeyevich Solovyov.
            พระคาร์ดินัล กล่าวแก่ผู้ฟังโดยอ้างถึงผลงานของโซโลยอฟชื่อ “Three Dialogues on War, Progress and the End of History" ว่า แอนตี้ไครส์ปรากฏตนเองเป็นผู้รักความสงบ นักนิเวศวิทยา และนักเคลื่อนไหวเพื่อสันติภาพ

เขาจะจัดการประชุมสภาโลกและหาวิธีแก้ปัญหาของคริสตชนทั้งหมด อนุญาติให้แต่ละคนประกอบพิธีมิสซาตามแบบของแอนตี้ไครส์ โดยยกเว้นให้กับคาทอลิกกลุ่มเล็กๆบางกลุ่ม หรือกลุ่มออร์โธดอกซ์ และโปรแตสแตนท์
             โซโลฟยอฟ ยังเขียนในผลงานอีกว่า วันนั้นจะมาถึงในพระศาสนจักร เมื่อเขาจะลดความหมายของการไถ่กู้ให้เป็นเพียงคุณค่าในระดับหนึ่งเท่านั้น

ไม่มีกางเขน
            ในผลงานของเขาเรื่อง ตำนานของแอนตี้ไครส์ โซโลฟยอฟมองเห็นล่วงหน้าว่าจะมีกลุ่มคริสตชน คาทอลิก ออร์โธดอกซ์ และโปรแตสแตนท์ กลุ่มเล็กๆ ที่จะต่อต้านและกล่าวแก่แอนตี้ไครส์ว่า ท่านให้ทุกสิ่งกับพวกเรา ยกเว้นสิ่งเดียวคือ พระเยซูคริสตเจ้า


           ข้อความจากจดหมายของนักบุญเปาโล ถึง ชาวเธสะโลนิกา
            เธสะโลนิกา ฉบับที่ 2 ข้อ 2
            มนุษย์ผู้ชั่วร้าย

พี่น้องที่รักทั้งหลาย เรื่องการเสด็จมาครั้งที่สองของพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา และเรื่องการชุมนุมของเราเพื่อพบกับพระองค์นั้น เราวอนขอท่านอย่ารีบด่วนหวั่นไหวหรือตกใจ ไม่ว่าเพราะคำพยากรณ์ที่อ้างว่ามาจากพระจิตเจ้าหรือเพราะคำพูด หรือจดหมายที่อ้างว่ามาจากเรา ประหนึ่งว่าวันขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงแล้ว อย่าให้ใครหลอกลวงท่านโดยวิธีใดเลย เพราะวันนั้นจะยังมาไม่ถึง จนกว่าจะเกิดการกบฏและมนุษย์ชั่วร้ายจะปรากฏตัวมารับความพินาศ มนุษย์ชั่วร้ายผู้นี้จะยกย่องตนเองขึ้นเหนือพระเป็นเจ้า หรือ สิ่งที่มนุษย์กราบนมัสการ เพิ่อที่มันจะได้นั่งในพระวิหารของพระเจ้าและประกาศว่ามันคือพระเจ้า
             ท่านจำได้หรือไม่ว่า ข้าพเจ้าเคยบอกเรื่องเหล่านี้ให้ฟังแล้วเมื่ออยู่กับท่าน และบัดนี้ท่านก็รู้ว่าอะไรที่ขัดขวางมนุษย์ชั่วร้ายนี้ไว้ เพื่อที่มันจะปรากฏตัวตามเวลาที่กำหนด เพราะอำนาจลึกลับของความชั่วร้ายได้ทำงานของมันอยู่แล้วอย่างซ่อนเร้น แต่ผู้ที่ขัดขวางมันไว้จะขัดขวางมันจนกว่าจะถูกขจัดออกไป แล้วนั้นมนุษย์ชั่วร้ายก็จะเปิดเผยตนออกมา และพระเยซูเจ้า องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราจะทำลายมันด้วยลมจากพระโอษฐ์ของพระองค์ และจะทรงบดขยี้มันให้สูญสิ้นไปด้วยการเสด็จมาอันรุ่งเรืองของพระองค์ การมาของมนุษย์ชั่วร้ายจะเกิดขึ้นด้วยฤทธิ์อำนาจของซาตาน ที่แสดงออกเป็นการอัศจรรย์ มันจะแสดงฤทธิ์ทุกประการด้วย เครื่องหมายและปาฏิหารย์ที่หลอกลวง มนุษย์ชั่วร้ายนี้จะใช้เล่ห์เหลี่ยมชั่วช้าทุกอย่างทำร้ายผู้ที่จะต้องพินาศไป พวกเขาพินาศเพราะพวกเขาปฏิเสธไม่ยอมรับความรักและความจริงอันจะทำให้พวกเขารอดพ้น ด้วยเหตุนี้พระเป็นเจ้าจึงทรงส่งความหลงผิดที่ทรงพลังมาหลอกลวงพวกเขา เพื่อว่าพวกเขาจะได้เชื่อในความเท็จ ดังนั้นทุกคนที่ไม่ยอมเชื่อความจริงแต่พึงพอใจความชั่วร้ายจะถูกตัดสินลงโทษ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น