วันอังคารที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2557

เทเรซากับนักโทษประหาร

           
  
บทความนี้มาจาก First Things เขียนโดย William Dionio Jr
เขาเป็นอาชญากรที่โด่งดังที่สุดในยุคนั้น  เป็นคนที่โหดเหี้ยมน่าเกลียดน่าชังที่สุด -- เขาคือ  อองรี  ปรานซินี  รูปร่างสูง  เคร่งขรึม – เขาใช้ชีวิตเป็นหัวขโมยเป็นเวลานานและเหยื่อก็มักเป็นผู้หญิงชาวฝรั่งเศส  พฤติกรรมเหล่านี้ได้ทำลายชีวิตของเขา
 เช้าของวันที่ 17 มี.ค. 1887  ร่างของมารี  เรเนาท์  (Marie Regnault) สตรีผู้มีชื่อเสียงในสังคมฝรั่งเศส  พร้อมด้วยหญิงรับใช้ของเธอ  แอนเนต  กรีเมอเรต( Annette Gremeret)  และ มารี ลูกสาวของหญิงรับใช้  พบเป็นศพอยู่ในอพาร์ตเมนท์แห่งหนึ่ง  หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ บรรยายว่า  เป็นภาพที่น่าสยดสยองที่สุด
มารี  เรเนาท์....เสียชีวิตอยู่บนพื้นในห้องพักของเธอ  ลำคอถูกตัดและร่างกายถูกเชือดเฉือนอย่างโหดเหี้ยมนอนอยู่ใกล้ประตูที่นำไปสู่ห้องรับแขก  ที่ซึ่งพบร่างของแอนเนตนอนเสียชีวิต  โดยมีลำคอที่ถูกตัดเช่นเดียวกัน  ส่วนมารีลูกสาวของแอนเนตนอนเสียชีวิตอยู่บนเตียงในห้องของมารดาที่อยู่อีกห้องหนึ่ง....ศีรษะถูกตัดจนเกือบหลุดจากร่างด้วยใบมีดของฆาตกร  สันนิษฐานว่าแอนเนตคงจะพยายามหนี...แต่ถูกฆาตกรทำร้ายจนล้มลง   เด็กหญิงได้มาเห็นเหตุการณ์เข้าจึงถูกฆ่าปิดปากอย่างโหดร้ายอีกคนหนึ่ง
            เหตุจูงใจในการกระทำนี้คือการขโมยเครื่องเพชรราคาแพง.... หลายวันต่อมา ปรานซีนีถูกจับ  แต่เขาปฏิเสธข้อกล่าวหาและยืนยันความบริสุทธิ์  แต่มีข้อพิรุธหลายอย่างในตัวของเขา  อีกทั้งยังมีหลักฐานมัดตัว  ในเดือนกรกฏาคม  คณะลูกขุนใช้เวลาสองชั่วโมงในการพิพากษาไต่สวนคดีของฆาตกรสามศพ  และในเดือนสิงหาคม ปรานซีนีถูกตัดสินประหารชีวิต
คดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญของปรานซินีคงจะเลือนหายไปในประวัติศาสตร์  ถ้าหากไม่เป็นเพราะเด็กหญิงชาวฝรั่งเศสผู้หนึ่ง  เทเรซา  มาร์ติน -- ซึ่งต่อมาก็เป็นที่รู้จักกันในนาม  นักบุญ เทเรซา แห่งลีซีเออร์  นักปราชญ์ของพระศาสนจักร – ขณะนั้นเธออายุเพียง 14 ปี  เธอรู้สึกมีแรงบันดาลใจให้กระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง  ตามที่เธอบันทึกไว้ในหนังสืออัตชีวิตของเธอ “ประวัติของวิญญาณดวงหนึ่ง”  เธอได้สวดภาวนาอย่างร้อนรนเพื่อความรอดของฆาตกรผู้นี้:
“สถานการณ์ทุกอย่างทำให้เชื่อว่าเขาต้องตายโดยไม่สำนึกผิด  ดิฉันมีความปรารถนาอย่างที่สุดที่จะช่วยเขาไม่ให้ตกนรก  เพื่อการนี้ดิฉันทำทุกวิธีเท่าที่จะนึกได้  แต่รู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถทำอะไรได้เลย  ดิฉันเสนอวิงวอนแด่พระเป็นเจ้าซึ่งพระเมตตาอันไม่สิ้นสุดของพระเยซูคริสตเจ้า  องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา”
ขณะที่เวลาประหารของปรานซินีใกล้เข้ามา  เทเรซาเพิ่มการสวดภาวนามากขึ้น  จนถึงวันรุ่งขึ้นอันเป็นเวลาที่ปรานซินีถูกนำตัวไปอยู่เบื้องหน้ากิโลติน เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม  เทเราซาอ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์ที่รายงานอย่างละเอียดว่า  ขณะที่ศีรษะของปรานซีนีถูกวางไว้บนเครื่องประหาร “เขาได้หันกลับมาถือไม้กางเขนที่พระสงฆ์ยื่นออกมาให้เขา  และจูบที่รอยบาดแผลของพระเยซูเจ้าสามครั้ง!  แล้ววิญญาณของเขาก็จากไปรับการพิพากษาขององค์พระผู้ทรงพระทัยเมตตา  ผู้ตรัสว่าในสวรรค์มีความยินดีที่เห็นคนบาปคนหนึ่งกลับใจยิ่งกว่าเห็นคนเก้าสิบเก้าคนที่ไม่ต้องการความช่วยเหลือแล้ว!
เทเราซาเชื่อมั่นว่าคำภาวนาของเธอได้ช่วยปรานซินีจากการถูกสาปแช่งชั่วนิรันดร์  เขากลายเป็น “บุตรคนแรก” ของเธอ(“mon premier enfant”)  และเหตุการณ์นี้ทำให้เธอมีความมั่นใจที่จะบวชเป็น”คาร์เมไลท์”  เพื่อสวดภาวนาวอนขอสำหรับคนที่สิ้นหวังและต้องการความรักของพระเป็นเจ้า
พระเป็นเจ้าทรงพอพระทัยคำภาวนาของเราที่อุทิศแก่คนที่เราไม่รู้จักและไม่เกี่ยวข้องกับเราเลย  เพราะแสดงให้เห็นว่าเรามีความรักต่อเพื่อนมนุษย์อย่างแท้จริง
และการพิพากษาของพระเป็นเจ้าไม่เหมือนกับการพิพากษาของมนุษย์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น