วันอังคารที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2560

สาส์นแม่พระจากซานนิโคลัส


 

การประจักษ์ที่ซานนิโคลัส ในอาร์เจนตินา และพระสังฆราช Bishop Hector Sabatino Cardelli ของสังฆมณฑลได้ให้การรับรองว่าเป็นสิ่งเหนือธรรมชาติ ( รับรองเมื่อ 22 พ.ค. 2016)  และพระสังฆราชอีกองค์คือ Mario Luis Bautista Maulion ได้รับรองสาส์นมาหลายปีก่อนหน้านี้  ยังได้มีการประกอบพิธีมิสซาเพื่อระลึกถึงการประจักษ์ขึ้นอีกด้วย  แต่นี่เป็นการอนุญาตอย่างไม่เป็นทางการและเป็นการชั่วคราวเท่านั้น  

ในสาส์นที่เกี่ยวกับโลกนั้น  แม่พระตรัสว่า

“ดวงพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้าจะทรงอำนวยพระพรแก่ลูกมากมาย” ตามสัญญาของพระองค์ “และกำลังรอให้มันสำเร็จลุล่วง” แม่พระทรงอ้างถึงพระคัมภีร์ เอมอส 5: 9-15 “ในช่วงเวลาเหล่านี้มนุษยชาติกำลังถูกแขวนอยู่บนเส้นด้าย  ถ้าหากเส้นด้ายขาดลง หลายคนจะเป็นผู้ที่ไปไม่ถึงความรอดพ้น  เพราะเหตุนี้แม่จึงขอให้ลูกไตร่ตรอง  จงรีบเร่งเถิดเพราะเวลาเริ่มเดินแล้ว  จะไม่มีที่สำหรับคนที่รีรอที่จะมา” 
แม่พระทรงขอให้ช่วยเหลือคนยากจนขัดสน – รวมทั้งคนที่ร่ำรวยด้วย “เพราะพวกเขาสูญเสียความเชื่อไป” พระนางเตือนว่า “พระเยซูเจ้าไม่ต้องการให้ใครตกอยู่ในการประจญของโลก”  แล้วพระนางทรงอ้างถึงพระคัมภีร์ 1 ยอห์น 2-6,17

“แม่ได้อ้างถึงข้อความในพระคัมภีร์ในสาส์นถึงโลกของแม่  เพื่อทำให้ลูกรู้ว่ามันเป็นความจริงน่าเชื่อถือ  ลูกจะได้ไม่สงสัย”

“จงอ่านซ้ำอีกครั้งและลูกจะพบคำตอบที่ลูกยังไม่พบในเวลานี้”

ผู้เห็นแม่พระคือ กลาดิส คิวโรกา เดอ มอตตา Gladys Quiroga de Motta เธอเริ่มเห็นแม่พระวันที่ 25 ก.ย. 1983 และได้รับสาส์นถึง 1,900 สาส์น (ปัจจุบันก็ยังได้รับอยู่)

เป้าหมายในชีวิตที่สำคัญที่สุด – แม่พระทรงเตือนว่า คือการเพิ่มทวีความดีฝ่ายจิตให้มากที่สุด  ไม่ใช่วัตถุสิ่งของ  สิ่งของเหล่านั้นเป็นสิ่งที่ปีศาจใช้แบ่งแยกมนุษย์ให้ออกห่างจากพระเป็นเจ้า  แม่พระทรงย้ำเตือนอย่างหนักแน่นหลายครั้ง

สาส์นนี้ช่างขัดแย้งกับวิถีชีวิตของยุคสมัยใหม่ที่พึ่งพิงเศรษฐกิจ (แสวงหาเงิน)  แม่พระเรียกสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นนี้ว่า “ความผิดพลาดของวิถีการดำเนินชีวิต”

“จงอ่านในพระวรสารเถิด แล้วลูกจะได้เรียนรู้จักพระองค์” พระนางตรัส

“โลกเต็มไปด้วยความผิดพลาดของประชาชนที่ไร้ค่า “

“อย่ายอมให้ตัวลูกถูกลากดึงไปโดยพวกมัน เมื่อไรก็ตามที่ลูกถูกประจญล่อลวง  จงแสวงหาความช่วยเหลือขององค์พระผู้ไถ่  และพระองค์จะนำลูกไปสู่หนทางที่ถูกต้อง”

“ทุกวันนี้ ดวงพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้าอยู่ข้างๆลูกเพื่อนำทางลูกและเพื่อกำจัดปีศาจที่กำลังโจมตีลูกด้วยความโกรธเกรี้ยวทั้งสิ้นของพวกมัน” แม่พระตรัสในสาส์น พ.ค. 1984

“ศัตรูโจมตีด้วย โทสะรุนแรงในทุกแห่ง...มันรู้ว่ามันทำอะไรไม่ได้เมื่ออยู่ต่อหน้าพระเยซูเจ้า  และนี่ทำให้มันพยายามอย่างหนักมากขึ้นอีก  แต่ลูกได้รับการปกป้อง  จงสรรเสริญพระองค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์สูงสุดเถิด”

กุมภาพันธ์ 1985 กลาดิสเห็นนิมิตว่า เธออยู่บนถนนสายหนึ่งและมี “สัตว์ประหลาดใหญ่โตมุ่งตรงมาที่ฉัน มันน่ากลัวมาก มันเหมือนกับไตโนเสาร์และตัวอื่นๆเหมือนกับคนแต่น่าเกลียดมาก มีหัวและหูที่ใหญ่  พวกมันเข้ามาใกล้ฉัน แต่ปรากฏกำแพงสีน้ำเงินมาขวางระหว่างสัตว์ประหลาดกับฉัน  แล้วฉันก็เห็นแม่พระ”

แม่พระทรงอธิบายว่า “กำแพงนั้นคือเสื้อคลุมของแม่ที่คอยปกป้อง  พระเยซูเจ้าทรงนำแม่มาเป็นดังกำแพง เหมือนผู้พิทักษ์  แม่จะป้องกันลูกเอง ลูกทั้งหลายของแม่”

ในเดือนเมษายน แม่พระตรัสว่า “จงอยู่กับพระเยซูเจ้าและไม่ต้องกลัวการโจมตีใดๆ  ไม่ต้องกลัวสิ่งใด  เพราะไม่มีสิ่งใดที่สามารถเอาชนะพระเป็นเจ้าได้  พระองค์ทรงคุ้มครองผู้ที่พระองค์ทรงรัก  อาแมน อาแมน จงอ่าน 2 ทิโมที 2:19

เมื่อถูกกดขี่หรือใส่ร้าย  แม่พระตรัสแก่กลาดิสว่า “จงร้องหาพระเป็นเจ้า จงเรียกหาพระองค์ตลอดเวลา เพราะพระองค์คือผู้ปกครองจักรวาล  พระองค์เท่านั้น” แม่พระตรัสว่า  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จงระลึกถึงพระจิตเจ้า  ผู้ทรง “เป็นพละกำลังเข้มแข็งเหนือกว่าความเข้มแข็งใดๆทั้งสิ้น” แม่พระทรงแนะนำว่า จงมอบตนเองทั้งสิ้นแด่พระเป็นเจ้าและจงมั่นใจ (แล้วพระนางตรัสให้อ่าน ฮีบรู 3 : 12-15) อย่าถ่อมตนต่อหน้าศัตรู  แต่จงถ่อมตนเบื้องพระพักตร์พระเป็นเจ้า 

กลาดิสยังได้เห็นนิมิตเมืองหลายเมืองที่ถูกทำลาย “ราวกับว่ามีสงครามเกิดขึ้น” แต่ระหว่างที่เห็นนิมิตนี้เธอได้เห็นนกพิราบสีขาวบินและได้ยินแม่พระทรงบอกเธอว่าสิ่งที่เหมือนสงครามนี้มาจาก “ความทะเยอทะยานและอำนาจ” ซึ่งเป็น ”ผลพวง” อีกอย่างหนึ่งของความรักโลก

แม่พระยังทรงเตือนเกี่ยวกับบุคคลดื้อดึงบางคน “แม่ยังคงเห็นความตาบอดของประชาชนที่มีต่อคำเตือนของพระเยซูเจ้า” ในปี 1984 ถึงปีถัดมา แม่พระตรัส “ลูกทั้งหลายของแม่  คนที่ไร้จิตสำนึกได้ตายไปแล้ว ทั้งๆที่ยังมีชีวิตอยู่  เพราะพวกเขาไม่กลัวต่อพระยุติธรรมของพระเป็นเจ้า  หรือไม่กลัวและไม่ปฏิบัติตามพระบัญญัติของพระองค์  พวกเขาต้องการเพิกเฉยต่อความจริงที่ว่าวันของพระเจ้าและการพิพากษาของพระองค์จะมาถึง”

----------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น