Fr. Dan Daly, S.J.
December 29, 2016
ซีเมออนรีบร้อนไปที่พระวิหาร หลายปีก่อนหน้านี้
พระเป็นเจ้าทรงสัญญากับท่านว่าท่านจะได้เห็นองค์พระผู้ไถ่ก่อนที่ท่านจะตาย ดังนั้นท่านจึงเฝ้าแต่รอคอยที่จะได้พบกับองค์พระผู้ไถ่ของโลก ชาวอิสราแอลก็กำลังรอคอยพระผู้ไถ่เช่นเดียวกัน
เพราะเวลานั้นพวกเขากำลังหมดกำลังใจ แตกแยกกันและสับสน
พวกเขาต้องการใครสักคนที่จะมาช่วยพวกเขาให้รวมตัวเป็นหนึ่งเดียวกันและนำพวกเขาไปสู่หนทางที่ถูกต้อง
ทำให้ชาติอิสราแอลเจริญรุ่งเรืองขึ้นมาใหม่
ซีเมออนหวังที่จะได้พบกับพระผู้ไถ่ในลักษณะของผู้นำที่ฉลาด ทรงอำนาจ เป็นผู้ที่จะทำให้ประชาชนเป็นหนึ่งเดียวกันและใกล้ชิดพระเป็นเจ้ามากยิ่งขึ้น
ซีเมออนต้องการให้พระเป็นเจ้าทรงส่งพระเมสสียาห์ที่มีลักษณะเช่นนี้
ในวันที่อากาศเย็นและสดใสของฤดูหนาววันหนึ่ง
ซีเมออนได้มายังพระวิหารเหมือนปกติ ท่านไปรวมตัวอยู่ในกลุ่มผู้สูงวัยของชนชั้นผู้ปกครองที่มักจะมารวมกันที่จุดหนึ่งเป็นพิเศษใกล้กับประตูทิศตะวันออก
เป็นเวลาหลายปีแล้วที่คนในกลุ่มนี้จะนัดมาพบกันที่เดิมเป็นประจำเพื่อพูดคุยถกเถียงกันในเรื่องปัญหาประเด็นต่างๆและหาทางออกเท่าที่จะทำได้
หลังจากพูดคุยกันพอสมควรแล้ว ซีเมออนก็แยกตัวออกมานั่งพักที่โต๊ะตัวหนึ่งซึ่งอยู่ใต้ร่มเงา
จากจุดนี้ท่านสามารถมองทิวทัศน์ไปได้รอบด้าน ท่านมักจะมองไปที่ฝูงชนซึ่งพากันมายังพระวิหารเสมอ
และพยายามสังเกตคนที่ดูแปลกหน้า ท่านจดจำคนที่มาพระวิหารบ่อยๆได้ดี
เวลาเช้าค่อยๆผ่านพ้นไปจนเกือบถึงเวลากลางวัน
ซีเมออนสังเกตเห็นบุคคลผู้หนึ่ง ท่านคิดว่าเคยเห็นคนนี้มาก่อนในบางโอกาส เขาเป็นชายสวมเสื้อผ้าเนื้อหยาบ
แต่เวลานี้ชายผู้นี้มาพร้อมกับภรรยาและทารกน้อยที่อยู่ในผ้าอ้อม
ขณะที่ซีเมออนจ้องไปที่ทารกน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนของมารดา เสียงดังรบกวนต่างๆที่มาจากพระวิหารก็พลันจางหายไป
ท่านได้ยินเสียงหนึ่งพูดว่า “การรอคอยของเจ้าสิ้นสุดลงแล้ว”
ซีเมออนรู้ทันทีว่าองค์พระผู้ไถ่เสด็จมาแล้ว
การรอคอยของพวกเราสิ้นสุดลงแล้วเช่นเดียวกัน
พระเมสสิยาห์ของเราเสด็จมาแล้ว
เทศกาลพระคริสตสมภพนี้ขอให้เราระลึกถึงซีเมออนและเหตุผลของการรอคอยของท่าน
โลกยังคงต้องการพระผู้ไถ่ที่จะนำความรัก การปรองดองกันและสันติภาพมาให้
และเพื่อแสดงให้เรารู้วิถีทางดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง
ซีเมออนรู้ว่าเราไม่มีความสามารถเพียงพอที่จะพบหนทางไปสู่พระเป็นเจ้าโดยลำพังเราเอง
แต่เรามั่นใจว่าองค์พระผู้ไถ่จะนำเราไปสู่หนทางที่ถูกต้องเที่ยงแท้
ปีแล้วปีเล่าที่ซีเมออนเฝ้าคอยอยู่ในพระวิหารเพื่อให้พระผู้ไถ่เสด็จมา
เพราะท่านรู้ว่าเมื่อพระองค์เสด็จมาแล้ว โลกนี้จะเปลี่ยนแปลงไป
ประชาชนที่อยู่ในพระวิหารในวันนั้นไม่ตระหนักรู้เลยว่า
โลกในวันนั้นแตกต่างไปจากวันธรรมดาทั่วไปก่อนหน้านี้ พวกเขาสาละวนยุ่งอยู่กับธุรกิจการค้าขายหรืองานต่างๆจนไม่สังเกตเห็นสิ่งที่พระเป็นเจ้าทรงกระทำในท่ามกลางพวกเขา
บางครั้งเราเองก็เป็นเช่นนี้ด้วย เรามัวแต่ยุ่งอยู่กับการงานต่างๆ
จนไม่มีเวลาที่จะคิดถึงเรื่องที่เกี่ยวกับพระเป็นเจ้าหรือเรื่องฝ่ายจิตใจ
ดังนั้นโอกาสนี้ให้เราทำเช่นเดียวกับซีเมออนและจงจำไว้ว่า
โลกได้เปลี่ยนไปในวันคริสต์มาสเมื่อสองพันปีที่แล้ว และโลกก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
-------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น