วันอาทิตย์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

อัศจรรย์ของการเคารพศีลมหาสนิท


By Bárbara Bustamante

Juarez, Mexico, Jan 26, 2017 / 02:59 am CNA/EWTN News).- เมืองจัวอาเรส Juarez ตั้งอยู่ที่รัฐชิฮัวฮัว Chihuahua ทางตอนเหนือของเม็กซิโก ถูกขึ้นทะเบียนว่าเป็นเมืองที่อันตรายที่สุดในโลกเมื่อปี 2008 ถึง 2010 อันเนื่องมาจากความรุนแรงของขบวนการขนยาเสพติดสองกลุ่มที่ต่อสู้กันเพราะต้องการมีอำนาจเหนือกว่า  เมืองนี้มีประชากรอยู่ 1.3 ล้านคน

อย่างไรก็ดี สถิติอาชญากรรมที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในเมืองนี้เริ่มลดน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ  นั่นคือในปี 2010 เกิดอาชญากรรม 3,766 ครั้ง ได้ลดลงเหลือ 256 ครั้งในปี 2015

การลดลงของอาชญากรรมนี้ ส่วนหนึ่งต้องถือว่าเกิดจากความก้าวหน้าในการปรับปรุงการทำงานของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น  แต่สำหรับ คุณพ่อ แพทริกโก ฮิลเลแมน Fr. Patrico Hileman – พระสงฆ์ผู้ก่อตั้ง โบสถ์น้อยแห่งการเคารพศีลมหาสนิทเป็นนิจกาล Perpetual Adoration Chapel ในลาตินอเมริกา  ท่านทราบว่ามีเหตุผลที่ลึกกว่าในเรื่องดังกล่าว  นั่นคือเกิดจากพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิท

คุณพ่อแพทริกโกกล่าวว่า “เมื่อทางโบสถ์ทำพิธีเคารพศีลมหาสนิททั้งกลางวันและกลางคืน สถานการณ์ในเมืองก็เปลี่ยนแปลงไป” ท่านได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุเรดิโอมาเรีย อาร์เจนตินา Radio María Argentina ว่า  ในปี 2013 ทางมิชชันนารีได้เริ่มเปิดโบสถ์น้อยแห่งการเคารพศีลมหาสนิทเป็นครั้งแรกในเมืองจัวอาเรส  ในตอนนั้น “มีคน 40 คนต่อวันที่ต้องเสียชีวิตเพราะแก๊งค้ายาสองกลุ่มต่อสู้กันในเมืองเพื่อขนย้ายยาเข้าไปในสหรัฐอเมริกา”

แก๊งค้ายาในจัวอาเรสและสินาเลา มีนาย โจอาควิน “เอลชาโป” กัสแมน โลอีรา Joaquín “el Chapo” Guzmán Loera เป็นอดีตหัวหน้า  ปัจจุบันนี้เขาถูกจับตัวและส่งไปให้สหรัฐในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน

คุณพ่อแพทริกโกเล่าว่า “ทางสังฆมณฑลระบุว่า  สงครามกลางเมืองไม่จบสิ้นลงเพราะมีทหารที่คอยสนับสนุนแก๊งค้ายากลุ่มหนึ่ง และตำรวจสนับสนุนแก๊งค้ายาอีกกลุ่มหนึ่ง  พวกเขาต่อสู้กันและฆ่าประชาชน  เผาบ้านเรือนเพื่อให้ประชาชนหนีไปจากเมือง  การต่อสู้เกิดขึ้นทั่วทั้งเมือง”

มีบางคนในสังฆมณฑลซึ่ง”สิ้นหวัง”ในสถานการณ์ที่เลวร้ายนี้ได้ขอให้ทางมิชชันนารีเปิดโบสถ์น้อยแห่งการเคารพศีลมหาสนิทขึ้น  เพราะพวกเขามั่นใจว่า “มีเพียงพระเยซูเจ้าเท่านั้นที่สามารถช่วยเหลือพวกเราได้  พระองค์สามารถปกป้องคุ้มครองพวกเรา”

มิชชันนารีใช้เวลาเพียงสามวันในการก่อตั้งโบสถ์น้อยแห่งการเคารพศีลมหาสนิทในเมืองจัวอาเรส

คุณพ่อแพทริกโกเล่าว่า  วันหนึ่งขณะที่ทหารเข้ายึดเมือง  มีสุภาพสตรีผู้หนึ่งเดินทางมาที่โบสถ์น้อยเพื่อมาเคารพศีลมหาสนิทในเวลา 3.00 น.ตอนเช้า  ทหาร 6 คนได้มาประกบเธอและถามเธอว่ากำลังจะไปที่ไหน

สุภาพสตรีผู้นั้นบอกทหารว่าเธอกำลังจะไปที่ “โบสถ์น้อย”  ทหารถามเธอว่าสถานที่นั้นอยู่ที่ไหน เพราะในเวลานั้นอาคารทุกแห่งจะปิดหมด สุภาพสตรีจึงเสนอให้ทหารไปกับเธอด้วยเพื่อให้เห็นด้วยตาของพวกเขาเอง

เมื่อทหารเข้าไปในโบสถ์น้อย ก็พบว่า “มีผู้หญิงหกคนกำลังเคารพศีลมหาสนิทอยู่ในเวลา 3.00 น.”

ในตอนนั้นเอง สุภาพสตรีก็พูดกับทหารว่า “พวกคุณจะปกป้องพวกเราได้ไหม? พวกเรากำลังสวดภาวนาให้พวกคุณ 24 ชั่วโมงต่อวัน”

หนึ่งในทหารนั้นทรุดลงกับพื้นทั้งที่ยังถืออาวุธอยู่ “เขาร้องไห้ต่อหน้าศีลมหาสนิท  และวันต่อมาในเวลา 3.00 น. เวลาเช้า พวกผู้หญิงก็เห็นทหารแต่งตัวในชุดชาวบ้านธรรมดามาเคารพศีลมหาสนิทด้วย  พวกเขาร้องไห้มากมาย”

สองเดือนต่อมาหลังจากเปิดโบสถ์น้อย พระสงฆ์ของสังฆมณฑล “ได้เรียกเราไปพบและพูดกับเราว่า : คุณพ่อ – ตั้งแต่โบสถ์น้อยเปิดขึ้นมา ไม่มีคนตายเลยในจัวอาเรส นี่ก็สองเดือนแล้วและไม่มีคนตายเลย”

คุณพ่อแพทริกโกกล่าวว่า “เราได้เปิดโบสถ์น้อยขึ้นสิบแห่งต่อปี”

และดูเหมือนว่ายังไม่เพียงพอ “ในตอนนั้นพวกเขากำลังจะปิดสามเณราลัยเพราะมีสามเณรเพียงแค่ 8 คนเท่านั้น  แต่เวลานี้จำนวนสามเณรเพิ่มขึ้นเป็น 88 คน พระสังฆราชบอกผมว่าสามเณรเหล่านี้ได้เข้าร่วมการเคารพศีลมหาสนิทในชั่วโมงศักดิ์สิทธิ์ด้วย”

คุณพ่อแพทริกโกกล่าวว่า “นั่นคือสิ่งที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำให้กับสังฆมณฑล” เมื่อประชาชนมีความเข้าใจว่า “เราจะพบความปลอดภัยได้ในพระคริสต์เท่านั้น”

คุณพ่อยังให้ข้อสังเกตอีกว่า “อัศจรรย์ยิ่งใหญ่เกิดขึ้นในชั่วโมงแรกของเวลาเช้าตรู่”

เวลาเช้าตรู่ “เป็นเวลาที่คุณรู้สึกถึงสันติภาพมากที่สุด  คุณจะได้ยินเสียงของพระเป็นเจ้าดีขึ้น จิตใจของคุณ หัวใจของคุณสงบมากขึ้น คุณจะอยู่กับพระเป็นเจ้าเพียงลำพัง เมื่อคุณใจกว้างต่อพระเยซูเจ้า  พระองค์ก็ใจกว้างต่อคุณมากกว่านับพันเท่า” คุณพ่อแพทริกโกกล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น