วันเสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

พระเป็นเจ้าทรงกำหนดคู่อุปถัมภ์ไว้


             เมื่อเหตุการณ์ที่นำความเศร้าเสียใจมาสู่ชีวิต ความทรงจำที่น่าเศร้าทำให้จิตใจของเราหดหู่  ให้เราคิดถึงพระวาจาที่เขียนไว้ว่า “เพราะฉะนั้น ถ้าผู้ใดอยู่ในพระคริสตเจ้า  ผู้นั้นก็เป็นสิ่งสร้างใหม่ สภาพเก่าๆผ่านพ้นไป  สภาพใหม่เกิดขึ้นแล้ว”  2 โครินธ์ 5:17

            อย่ายึดถือความเศร้าเสียใจหรือครุ่นคิดแต่เรื่องน่าเศร้านั้น พระเยซูเจ้าตรัสว่า “จงให้คนตายฝังคนตายเองเถิด” (ลูกา 9:60) จงยึดถือในพระคริสต์แล้วความยินดีก็จะกลับคืนมา

มาเรีย เอสเปแรนซา เป็นชาวเวเนซูเอลา เป็นสตรีที่ได้รับพระพรพิเศษจากพระเป็นเจ้า เธอได้รับรอยแผลศักดิ์สิทธิ์ ได้เห็นและได้รับสาส์นจากแม่พระ เธอเสียชีวิตแล้วในปี 2004 มีเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับชีวิตของเธอ

จีโอ เป็นสามีของมาเรีย ทั้งสองรักกันและใกล้ชิดกันมาก พวกเขาอยู่ด้วยกันเสมอ  ทั้งสองมีลูก 7 คน  ทั้งคู่รักและให้ความเคารพต่อกันและกัน  และทั้งสองใช้ชีวิตเหมือนกับเพิ่งแต่งงานกันใหม่ๆ  ที่สำคัญก็คือทั้งสองมีความศรัทธาต่อพระเป็นเจ้าเป็นอย่างยิ่ง

เมื่อมาเรียเสียชีวิตในปี 2004 ในวัย 75 ปีนั้น  จีโอเศร้าเสียใจเป็นอันมาก  แต่ในไม่ช้าเขาก็กลับมายิ้มได้เหมือนเดิม และดำเนินชีวิตต่อไปอีก 13 ปีด้วยจิตใจที่เป็นปกติสุข

ชีวิตคู่ของทั้งสองเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากทีเดียว

วันหนึ่งขณะที่มาเรียอายุ 20 ปี เธอได้เห็นนิมิตภาพของชายผู้หนึ่งกำลังโบกธงชาติที่มีแถบสีขาว แดง และเขียว  เป็นสัญญาณที่บอกให้เธอรู้ว่าสามีในอนาคตของเธอจะเป็นชาวอีตาลี  ถึงแม้ว่าในเวลานั้น มาเรียต้องการจะบวชเป็นซิสเตอร์  และเธอกำลังอาศัยอยู่ในสถาบันแห่งหนึ่งในกรุงโรมซึ่งดำเนินงานโดยคณะบุตรีแห่งดวงพระทัยศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้าและแม่พระ Daughters of the Hearts of Jesus and Mary  ต่อมานักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเยซู (กุหลาบน้อย) ได้ปรากฏแก่มาเรียและบอกให้เธอรู้ถึงกระแสเรียกของเธอในการเป็นภรรยาและมารดา  นอกจากนี้นักบุญยอห์น บอสโกก็ปรากฏแก่มาเรียด้วย ท่านบอกเธอว่าเธอจะได้พบกับผู้ที่จะเป็นสามีในอนาคตของเธอในวันที่ 1 พฤศจิกายน 1995

            วันที่ 12 ต.ค.1995  อันเป็นวันฉลองพระนางพรหมจารีย์แห่งเสาหลัก (เป็นวันฉลองใหญ่ของแม่พระในอเมริกาใต้) มาเรียได้รับประสบการณ์พิเศษกับพระนางมารีย์ ในเวลาต่อมาเธอได้กลับไปที่กรุงโรมและที่ด้านหน้าของโบสถ์ดวงพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้านั้นเอง  มาเรียก็ได้พบกับ จีโอ เบียนชินี Geo Bianchini Gianni ในวันที่ 1 พ.ย. ตรงตามที่เธอได้รับการบอกให้รู้ล่วงหน้า

            มีพลังบางอย่างที่ต้านทานไม่ได้ทำให้จีโอเดินตามมาเรียไป  ถึงแม้ในเวลานั้นมาเรียกำลังพักอาศัยอยู่กับซิสเตอร์ในอาราม (สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ในหนังสือ The Bridge To Heaven  หรือ Maria Esperanza and the Grace of Betania)

            วันที่ 13 ต.ค. 1996 เป็นวันฉลองอัศจรรย์ดวงอาทิตย์ที่ฟาติมา  แม่พระทรงตรัสกับมาเรียว่า เธอจะแต่งงานในวันที่ 8 ธันวาคม 1996 ตรงกับวันฉลองแม่พระปฏิสนธินิรมลทิน




รูปภาพการแต่งงานของมาเรียและจีโอในวันที่ 8 ธันวาคม 1996ที่โบสถ์น้อยของอาสนวิหารนักบุญเปโตร  ไม่เคยมีใครจัดงานแต่งงานในช่วงเวลานั้นมาก่อนเลย  มองซิเยอร์จูลีโอ รอซซี พระสงฆ์เจ้าอาวาสของโบสถ์ได้สังเกตุเห็นแสงรัศมีเรืองรองรอบๆตัวของมาเรีย และได้กลิ่นหอมของกุหลาบด้วย  ท่านได้ไปพบกับพระสันตะปาปาปีโอที่ 12 พระองค์ทรงรู้จักมาเรียและทรงเป็นผู้อนุมัติให้ประกอบพิธีแต่งงานประวัติศาสตร์ในโบสถ์น้อยแห่งนี้

วันที่  8 ธันวาคม ยังเป็นวันเกิดของจีโอด้วย

ลูกคนแรกของทั้งสอง เป็นลูกสาวมีชื่อว่า มาเรีย อิมมาคูลาดา Maria Immaculada

มาเรียเสียชีวิตในปี 2004 จีโอเสียชีวิตเมื่อเดือนที่ผ่านมานี้เอง ( 3 ม.ค. 2017) เขาเป็นโยเซฟที่แท้จริง  เขาเป็นคนที่พูดน้อย แต่แกร่งกล้า มีความถ่อมตนและใจศรัทธา

บัดนี้ทั้งสองได้ไปพบกันและเป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้งในสวรรค์ และได้เฝ้าเบื้องพระพักตร์พระเยซูเจ้า
-----------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น