วันอาทิตย์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2560

คุณแม่เทเรซากับกระแสเรียก


แม้แต่คุณแม่เทเรซาก็เกือบจะปฏิเสธกระแสเรียกของพระเป็นเจ้า

“พระเยซูเจ้าทรงรบเร้าท่าน ทรงท้าทายท่าน”

คุณแม่เทเรซาตอบสนองต่อพระประสงค์ของพระเยซูเจ้าเป็นครั้งแรกโดยการทำทีละเล็กทีละน้อย

ในความอ่อนแอของมนุษย์  ทำให้มนุษย์ไม่สามารถทำสิ่งที่เกินกำลังของตัวเองได้  แต่ด้วยพระหรรษทานที่พระเป็นเจ้าทรงประทานให้ก็ทำให้มนุษย์คนหนึ่งเป็นนักบุญได้

หนังสือที่เขียนโดยดาวิด สก๊อตได้กล่าวว่า ความรักทำให้คุณแม่เทเรซาทำสิ่งที่เหนือเหตุผล ชีวิตของคุณแม่เทเรซาแห่งกัลกัตตาไม่ได้ราบเรียบนัก อย่างเช่นเมื่อท่านเป็นนักบวชท่านใช้เวลา 18 ปีอยู่แต่ในคอนแวนต์ลอเร็ตโตในกัลกัตตา “การเปลี่ยนแปลงชีวิตเพื่อรับใช้คนยากจนมาถึงท่านช้ามาก”

สก๊อตได้เขียนเล่าเรื่องชีวิตของคุณแม่เทเรซาหลังจากที่ท่านเสียชีวิตในปี 1997  ตลอดเวลา 50 ปีของคุณแม่เทเรซา ท่านประสบกับสิ่งที่เรียกว่าความมืดมิดของวิญญาณ  ท่านได้รับนิมิตจากพระเยซูเจ้าและแม่พระในปี 1947 ซึ่งนำท่านมาสู่กระแสเรียกครั้งที่สองของท่านคือการรับใช้คนยากจนและคนที่ใกล้เสียชีวิตในอินเดีย คุณแม่เทเรซาได้เผาสมุดบันทึกชีวิตประจำวันของท่านไปแล้ว แต่ก็ยังคงเหลือจดหมายที่ท่านเขียนถึงพระสงฆ์วิญญาณารักษ์ของท่าน  จากจดหมายนี้ทำให้เรารู้ว่ามีช่วงเวลาหนึ่งที่คุณแม่เทเรซาได้ขัดขืนต่อการเรียกร้องของพระเยซูเจ้าซึ่งขอให้คุณแม่เทเรซาเป็น “ซิสเตอร์ธรรมทูตแห่งเมตตาธรรม” ผู้จุดไฟแห่งความรักของพระเยซูเจ้าในท่ามกลางคนยากจน คนเจ็บป่วย คนใกล้เสียชีวิต และบรรดาเด็กน้อยที่อยู่ตามท้องถนน

พระเยซูเจ้าตรัสกับคุณแม่เทเรซาว่า “เธอเป็นคนที่ไร้ความสามารถที่สุด อ่อนแอที่สุดและเป็นคนบาป  แต่เพราะเธอเป็นเช่นนี้  เราจึงต้องการใช้เธอเพื่อพระสิริรุ่งโรจน์ของเรา  เธอจะปฏิเสธเราหรือ?” คุณแม่เทเรซาได้บอกให้ทราบถึงการตอบสนองของท่านต่อพระประสงค์อย่างเร่งด่วนนี้ของพระเยซูเจ้า “ท่านทูลพระเยซูเจ้าให้ทรงเลือกคนอื่น  ท่านรู้สึกกลัวในความยากลำบากและการถูกเยาะเย้ยจากคนอื่น ท่านสัญญากับพระเยซูเจ้าว่า ท่านจะเป็นนางชีที่ดีถ้าหากพระองค์จะทรงยอมให้เธอคงอยู่ในคอนแวนต์ต่อไป  แต่พระเยซูเจ้าทรงคอยรบเร้าคุณแม่เทเรซา และทรงท้าทายท่านอย่างไม่ลดละว่า “เธอจะปฏิเสธที่จะทำสิ่งนี้เพื่อเราเชียวหรือ?”

การเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย คุณแม่เทเรซารู้สึกลำบากใจในการยอมรับคำเชิญของพระเยซูเจ้าเป็นอย่างยิ่ง ท่านไม่สบายใจเลยที่จะรับทำงานนี้  มีคำถามว่า – ถ้าหากคุณแม่เทเรซาตอบปฏิเสธล่ะ? จะเป็นอย่างไร  มีคนมากมายสักเท่าไรที่ปฏิเสธการดลใจของพระจิตเจ้าหรือการดลใจของพระเยซูเจ้าเอง  และนั่นเท่ากับทำให้ความรอดพ้นของเราต้องเสื่อมถอยลงใช่ไหม?

ในปี 1957 ระหว่างช่วงเวลาต้นๆของพระพรที่พระเป็นเจ้าประทานแก่คุณแม่เทเรซาในเวลาที่ท่านเริ่มต้นทำงานในฐานะธรรมทูตแห่งเมตตาธรรมของท่าน  คุณแม่เทเรซาได้เขียนจดหมายถึงพระสงฆ์ผู้แนะนำจิตวิญญาณของท่านว่า “มีคำกล่าวว่าผู้ที่อยู่ในนรกต้องทนทุกข์ทรมานชั่วนิรันดรเพราะพวกเขาสูญเสียพระเป็นเจ้า....ในวิญญาณของลูก ลูกรู้สึกถึงความทุกข์ทรมานเช่นนี้  ความทุกข์ทรมานเพราะการสูญเสีย...รู้สึกว่าพระเป็นเจ้าไม่มีอยู่จริง....ลูกรู้สึกว่าลูกได้ปฏิเสธพระเป็นเจ้า  โปรดสวดภาวนาเพื่อลูกด้วยเพื่อที่ลูกจะไม่กลายเป็นยูดาสต่อพระเยซูเจ้าในความมืดมิดอันเจ็บปวดยิ่งนี้”

คุณแม่เทเรซาขอให้คุณพ่อวิญญาณารักษ์ทำลายจดหมายของท่านไปเสีย  แต่น่ายินดีที่ความต้องการนี้ของคุณแม่เทเรซาไม่เกิดขึ้น  เพราะจากจดหมายของคุณแม่ทำให้เราได้รู้ถึงวีรกรรมของท่าน  และยังรู้ถึงความเป็นมนุษย์ที่อ่อนแอของท่านด้วย
----------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น