วันศุกร์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2560

ผักไฮโดรโปนิก กับ มะเร็งที่ลำไส้


เนื่องจากใส่ปุ๋ยน้ำที่เร่งให้ใบเขียวและเร่งการเจริญเติบโตมาก
คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าผักไฮโครโปนิค ปลอดภัยจากยาฆ่าแมลง
เป็น organic แต่แท้จริงแล้วมีปุ๋ยเคมีเร่งใบ สูงมาก

 คุณสาลี อ่องสมหวัง แห่งมูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค โพสเรื่องนี้ในเฟสบุ๊ค เลยขอแชร์ลิงค์มาให้อ่านกัน. เป็นข้อมูลไว้พิจารณา

 
มก.เผยงานวิจัยพบการสะสมไนเตรตใน ผักไฮโดรโปนิก โดยเฉพาะผักคะน้ามีค่าสูง เกินมาตรฐาน เตือนผู้บริโภคระวังภัยเงียบที่แฝงในผักอาจก่อโรคมะเร็งโดยไม่รู้ตัว แนะผู้ปลูกผักอย่าใส่ปุ๋ยมากเกินความจำเป็น

น.ส.พัชราภรณ์ ภู่ไพบูลย์ นักวิจัยจากฝ่ายเครื่องมือและวิจัยทางวิทยาศาสตร์ สถาบันวิจัยและพัฒนาแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เปิดเผยว่า ตนและคณะวิจัยประกอบด้วย น.ส.วาสนา บัวงาม และนางศิริวัลย์ สร้อยกล่อม ร่วมกันศึกษาการสะสมไนเตรตในพืชผักที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เนื่องจากมี น้อยคนที่จะทราบว่าในพืชผักยังมีธาตุอาหารชนิดหนึ่งที่จำเป็นต่อการเจริญ เติบโต คือ ไนโตรเจน ซึ่งพืชจะนำไนโตรเจนไปใช้ในรูปของไนเตรต และหากมีไนโตรเจนมาก เกินความต้องการของพืชอาจทำให้เกิดการสะสมไนเตรตในดินและพืชมากขึ้น เมื่อรับประทานเข้าไปอาจจะทำให้ไนเตรตไปรวมตัวกับสารเหนี่ยวนำที่ทำให้เกิด มะเร็ง ดังนั้นผู้บริโภคผักที่มีปริมาณไนเตรตสะสมอยู่สูงจึงมีแนวโน้มที่จะเป็นโรค มะเร็ง เช่น มะเร็งลำไส้ นับเป็นภัยเงียบต่อสุขภาพผู้บริโภคโดยตรง
น.ส.พัชราภรณ์ระบุว่า ผลการศึกษาการสะสมไนเตรตในผักคะน้า ผักกาดหอม และผักบุ้ง ที่จำหน่ายทั้งในตลาดสดและศูนย์การค้า โดยแบ่งผักออกเป็นประเภทผักไฮโดรโปนิก ผักอินทรีย์ ผักปลอดสารพิษ และผักที่ปลูกโดยใช้ปุ๋ยเคมี นำมาวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์พบว่า ผักที่ปลูกในน้ำยาไฮโดรโปนิกมีแนวโน้มการสะสมไนเตรตสูงสุด เพราะวิธีปลูกผักแบบไฮโดรโปนิกมีการเติมน้ำยาให้พืชเจริญเติบโตมากเกินความ จำเป็นหรือมากเกินความต้องการตามธรรมชาติของผัก โดย ผักคะน้าไฮโดรโปนิก มีค่า เฉลี่ยของไนเตรตสูงที่สุด 4,529 มิลลิกรัมต่อ 1 กิโลกรัมน้ำหนักสด
รองลงมาคือ ผักบุ้ง มีปริมาณไนเตรต 3,978 มิลลิกรัม และผักกาดหอม มีปริมาณไนเตรต 1,729 มิลลิกรัม โดยค่ามาตรฐานที่สหภาพยุโรปกำหนดไว้ในผักรับประทานใบให้มีค่าไนเตรตไม่เกิน 2,500 มิลลิกรัมต่อ 1 กิโลกรัม จะเห็นว่าผักคะน้าและผักบุ้งไฮโดรโปนิกมีปริมาณไนเตรตเกินมาตรฐาน ส่วนในประเทศไทยยังไม่มีข้อกำหนดมาตรฐานค่าไนเตรตในพืชผัก ดังนั้นจึงขอให้เกษตรกรและผู้ปลูกผักไฮโดรโปนิกควรลดปริมาณการใส่น้ำยาหรือ เติมน้ำเปล่าให้มากขึ้น  ส่วนการปลูกผักแบบอื่นๆ ก็ไม่ควรใส่ปุ๋ยมากเกินไป

             " ผลการศึกษาดังกล่าว เราได้นำเสนอบนเวทีการวิชาการประจำปีของมหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ และยังได้ศึกษาเพิ่มเติมเพื่อหาแนวทางในการลดไนเตรตในพืชผักก่อนการบริโภค โดยนำผักคะน้าและผักบุ้งไปต้มน้ำเดือดหรือทำการนึ่งเป็นเวลา 10 นาที ซึ่งสามารถช่วยลดค่าไนเตรตในผักบุ้งและผักคะน้าลดลง 47%" น.ส.พัชราภรณ์เผย

             นอกจากนี้ การแช่ผักคะน้าและผักบุ้งในน้ำ 1 วัน การแช่ในด่างทับทิม และการแช่ในน้ำเกลือ ก็มีแนวโน้มที่จะช่วยทำให้ค่าไนเตรต-ไนโตรเจนลดลงด้วยเช่นกัน จึงขอแนะนำให้ผู้บริโภคควรทำความสะอาดพืชผัก ผลไม้ทุกชนิด ทั้งประเภทพืชที่ปลูกแบบปลอดสารเคมี ปลูกแบบชีวอินทรีย์ ปลูกแบบไม่ใช้ดิน ก่อนนำมารับประทาน ก็จะเป็นการลดความเสี่ยงของภัยเงียบจากพิษสะสมที่เกิดจากไนเตรตในพืชได้

ที่มา: ไทยโพสต์  2 ธันวาคม 2553

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น