ประสบการณ์ใกล้ตาย

 

 

 

...................................................................................................................

“เรารู้ว่า เมื่อกระโจมที่เราอาศัยอยู่ในโลกนี้ถูกเก็บไปแล้ว เรายังมีบ้านซึ่งพระเจ้าทรงสร้างไว้สำหรับเรา เป็นบ้านที่ไม่ได้สร้างด้วยมือมนุษย์ แต่เป็นบ้านถาวรนิรันดรอยู่ในสวรรค์” เราจะมีร่างกายใหม่อันน่ามหัศจรรย์ในสวรรค์ ซึ่งเป็นบ้านเที่ยงแท้ของเราตลอดไปชั่วนิรันดร เป็นบ้านที่ไม่ได้สร้างด้วยมือมนุษย์ แต่เป็นบ้านที่พระเจ้าทรงสร้างไว้เพื่อเรา”

2 โครินธ์ 5:1

...................................................................................................................
 

ที่เมืองลิสตรา เปาโลได้เทศน์สอนและทำสิ่งอัศจรรย์ ทำให้ประชาชนกลับใจมาเชื่อในพระเยซูเจ้ามากมาย แต่ก็ทำให้ชาวยิวรู้สึกไม่พอใจ พวกเขาเอาหินขว้างใส่เปาโล ทำให้เปาโลบาดเจ็บ ขณะที่บาดเจ็บ เปาโลถูกนำขึ้นไปสู่สวรรค์ นักบุญเปาโลได้เล่าเรื่องการไปสู่สวรรค์ว่า
 

“ข้าพเจ้ารู้จักมนุษย์คนหนึ่งผู้เลื่อมใสในพระคริสตเจ้า (หมายถึงตัวท่านเอง) เมื่อสิบสี่ปีมาแล้ว เขาถูกดึงตัวขึ้นสวรรค์ชั้นที่สาม แต่จะไปในร่างกายหรือนอกร่างกาย ข้าพเจ้าไม่อาจรู้ได้ พระเจ้าทรงทราบ ข้าพเจ้ารู้จักมนุษย์ผู้นี้ จะอยู่ในร่างกายหรือนอกร่างกาย ข้าพเจ้าไม่อาจรู้ได้ พระเจ้าทรงทราบ เขาถูกดึงขึ้นสู่สวรรค์และได้ยินวาจาซึ่งอธิบายเป็นภาษามนุษย์ไม่ได้ และไม่มีมนุษย์คนใดพูดได้ สำหรับคนเช่นนี้ ข้าพเจ้าโอ้อวดได้ แต่สำหรับข้าพเจ้านั้น ข้าพเจ้าจะไม่โอ้อวดสิ่งใด นอกจากความอ่อนแอของข้าพเจ้า”

2 โครินธ์ 12 :2-5

...................................................................................................................
 

นักวิทยาศาสตร์ที่มีประสบการณ์ใกล้ตาย
 

Joyce Hawkes นักวิทยาศาสตร์ด้านเซลส์วิทยา เธอเป็นศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัย เธอประสบอุบัติเหตุที่ได้เปลี่ยนชีวิตของเธอตลอดไป เธอถูกกระทบกระแทกจากหน้าต่างที่ตกลงมา และเธอได้รับประสบการณ์ที่ประหลาด “ฉันคิดว่าส่วนหนึ่งของตัวฉัน ซึ่งเป็นจิตวิญญาณของฉัน ได้ออกจากร่างกายและไปสู่สถานที่แห่งหนึ่งที่เป็นจริง” เธอรู้สึกประหลาดใจในประสบการณ์นี้มาก
 

“มันไม่ใช่ส่วนหนึ่งของกระบวนทัศน์ที่ฉันรับรู้ได้ในฐานะนักวิทยาศาสตร์ มันเป็นความประหลาดใจอันยิ่งใหญ่สำหรับฉัน การที่ฉันรับรู้บางสิ่งที่แตกต่างไปจากร่างกาย การรับรู้สิ่งซึ่งแตกต่างจากร่างกายเป็นอย่างมาก การอยู่ในสถานที่น่ามหัศจรรย์ ซึ่งไม่เจ็บปวด มีสันติและมีความสุข”
 

“ฉันคิดว่า สิ่งที่ฉันได้เรียนรู้ก็คือความตายนั้นไม่มีอยู่จริง มีความเปลี่ยนแปลงในสถานะทางด้านฟิสิกส์ไปสู่รูปแบบที่เป็นจิต และไม่มีสิ่งใดที่ต้องกลัวเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนี้” เธอกล่าว
 

คำถามบางข้อเกี่ยวกับภาวะใกล้ตายที่นักวิทยาศาสตร์ไม่สามารถอธิบายได้
 

คนจำนวนมากที่มีประสบการณ์ใกล้ตายหลังจากที่หัวใจของเขาหยุดเต้น หรือเขาหยุดหายใจ และ 10 นาทีหลังสัญญาณคลื่นไฟฟ้า EEG (มาตรวัดคลื่นไฟฟ้าในสมอง) ดับไปอย่างสมบูรณ์ ในวาระเช่นนี้ นักวิทยาศาสตร์จะตอบได้อย่างไรว่า  ประสบการณ์ใกล้ตายเป็นการทำงานของจิตใต้สำนึก? นอกจากนี้ยังมีบางคนที่ตาบอดตั้งแต่เกิดซึ่งจากรายงานประสบการณ์ใกล้ตายของพวกเขากล่าวว่า   พวกเขาได้เห็นภาพบางอย่างหลังจากที่ตายไปแล้ว   นักวิทยาศาสตร์ยังไม่ได้ศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง   ประสบการณ์เหล่านี้ไม่ใช่ภาพหลอนหรือเกิดจากจิตใต้สำนึก   คนที่มีประสบการณ์เหล่านี้บอกว่า    สิ่งที่พวกเขาเห็นไม่เหมือนกับความฝัน  แต่เป็นสิ่งที่เป็นจริง  และหลังจากมีประสบการณ์นี้แล้ว ชีวิตของพวกเขาได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง
 

คนที่ฆ่าตัวตายบางคนที่กลับฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้อธิบายถึงสถานที่เหมือนกับคุกหรือถ้ำใต้ดิน เขารู้สึกว่าจะต้องอยู่ที่นั่นเป็นเวลานานมาก เขาตระหนักรู้ว่านี่เป็นการลงโทษสำหรับการที่เขาได้ทำผิดและเขาต้องทนทุกข์ทรมาน

*****************************

ดร. เคนเน็ท ริง ได้เขียนบทความลงในนิตยสาร Journal of Near-Death Studies (Summer, 1993) เป็นเรื่องของคนที่มีประสบการณ์ใกล้ตาย near-death experience (NDE) ซึ่งให้หลักฐานที่สนับสนุนสมมุติฐานเกี่ยวกับชีวิตหลังความตาย    คนที่มีประสบการณ์ NDE นี้จะพบตัวเองอยู่นอกร่างกายในทันทีที่เสียชีวิต  และเขาได้เห็นเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในที่ห่างไกล บางครั้งอาจไกลถึงร้อยหรือพันไมล์เลยทีเดียว   ซึ่งในเวลาต่อมาได้มีการพิสูจน์จากบุคคลที่สามว่ามีความถูกต้อง    ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า "veridical perception" (การรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง) เป็นเรื่องที่ไม่สามารถอธิบายได้ทางวิทยาศาสตร์การแพทย์    สติสัมปชัญญะ(หรือจิต)ที่ยังสามารถรับรู้เหตุการณ์ต่างๆได้แม้ว่าจะอยู่ภายนอกร่างกายและแม้ว่าจะตายไปแล้ว   จึงควรที่จะหาหลักฐานที่แสดงถึงเรื่องนี้ภายใต้การทดลองในห้องทดลอง   ซึ่งมันจะกลายเป็นการค้นพบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดทางวิทยาศาสตน์เลยทีเดียว    การวิจัยในเรื่องนี้ได้ถูกจัดทำขึ้นแล้ว   เช่น โครงการวิจัยชื่อ AWARE โดยทางโรงพยาบาลจะพยายามตรวจหาผู้ป่วยโรคหัวใจที่มีสภาวะของ NDE   ผู้ป่วยที่แสดงอาการว่าเห็นภาพหลายอย่างจะถูกนำไปไว้ใกล้ๆเพดานห้อง    เพื่อให้เหมือนกับลักษณะที่มีการรับรู้ในลักษณะแบบนี้ของ NDE    มีประวัติของการเกิดปรากฏการณ์การรับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงภายนอกร่างกายจำนวนมาก  ภายใต้การควบคุมอย่างเข้มงวด  การวิจัยนี้ได้ให้ผลลัพท์ที่น่าพอใจ   ในบทความนี้คุณจะพบว่ามีหลักฐานที่น่าประหลาดใจที่สนับสนุนสมมุติฐานเกี่ยวกับชีวิตหลังความตาย

*********************************