วันเสาร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2561

อิมมาคูลี อิลบากิซา และคุณพ่อลีออน เปอร์เรียรา

 

Immaculee Ilibagiza and Fr. Leon Perreira on Medjugorje:
 
มิตรที่รัก
 
ฉันต้องการแบ่งปันเรื่องราวบางอย่างที่สวยงามที่ฉันได้ยินมาในเมดจูกอเรจ์ สำหรับคนที่ยังไม่เคยรู้มาก่อน เมดจูกอเรจ์เป็นสถานที่สวยงามที่ซึ่งพระแม่มารีย์ พระมารดาของพระเยซูเจ้า ทรงปรากฏมาตั้งแต่ปี 1981 เป็นสถานที่มีสันติสุข แวดล้อมด้วยภูเขาและเนินเขา อากาศสะอาดบริสุทธิ์ มีสายลมที่อ่อนโยน
 
พระแม่มารีย์ทรงเลือกสถานที่นี้เหมือนที่พระนางทรงทำเสมอ ในราวันดาพระนางทรงเลือกกีเบโฮ เป็นเหมือนสวรรค์จริงๆ เมื่อฉันมาอยู่ที่เมดจูกอเรจ์ ฉันรักทุกสิ่งที่เป็นการสวดภาวนา ทุกๆเวลาเย็น จะมีการสวดภาวนาสามชั่วโมง ภาวนาแรกเป็นการสวดสายประคำ ต่อมาเป็นพิธีมิสซา และต่อมาเป็นการเคารพเทิดทูนไม้กางเขน ในระหว่างวัน จะมีการสนทนาเกี่ยวกับพระเจ้าและส่งเสริมความเชื่อ ทั้งวันจะเป็นการสวดภาวนา
 
เมื่อฉันต้องการสวดภาวนา ฉันได้ไปที่เมดจูกอเรจ์ ฉันพยายามที่จะหาเวลาในการสวดภาวนา ฉันได้สนทนากับบุคคลหลายคน และมีบุคคลหนึ่งที่ฉันสนใจมากคือ คุณพ่อเลออน พระสงฆ์ผู้ได้รับพระพรได้เห็นแม่พระที่เมดจูกอเรจ์ด้วยสายตาของท่านเอง ท่านบรรยายภาพของแม่พระว่า เป็นสตรีอ่อนเยาว์ที่สวยงามสุดจะพรรณนาได้ เมื่อทรงปรากฏมา คุณจะรู้สึกถึงความสุขอันหาที่เปรียบมิได้ คุณรู้สึกถึงความรักอันเต็มเปี่ยม แม่พระทรงสนทนากับคุณพ่อและทรงมอบสาส์นแก่คุณพ่อสำหรับพวกเราทุกคน คุณพ่อพูดว่า แม่พระทรงบอกกับท่านเกี่ยวกับบาปทั้งหมดของท่าน  พระแม่ทรงบอกอย่างปราณีเหมือนเช่นมารดาแนะนำบุตรให้รู้ถึงความผิดพลาดของเขา เพื่อที่เขาจะได้เปลี่ยนแปลงปรับปรุงตัวเอง
 
คุณพ่อบอกว่า “ทุกเวลาแม้เวลาที่สั้นๆซึ่งความรักขาดหายไป ทุกความเห็นที่ไม่มีความเมตตา ทุกความคิดที่ไม่ซื่อสัตย์....ทุกสิ่งนี้จะถูกจดจำนับไว้....” เมื่อคุณพ่อถามแม่พระว่า พระนางเป็นใคร แม่พระทรงบอกว่า “แม่คือแม่ของลูกและมารดาของพระเจ้า แม่ต้องการให้ลูกบอกทุกคนที่ลูกพบว่า แม่คือแม่ของพวกเขาและแม่รักพวกเขา” 
 
คุณพ่อลีออนเล่าว่า  ขณะที่แม่พระตรัส “แม่คือแม่ของพวกเขา” ท่านรู้สึกเหมือนกับว่า แม่พระทรงให้กำเนิดพวกเขาทุกคน และเมื่อแม่พระตรัสว่า “แม่รักพวกเขา” คุณพ่อบรรยายว่า ท่านรู้สึกราวกับหัวใจของท่านเปี่ยมล้นด้วยความรักของพระนาง ท่านได้พูดเกี่ยวกับการที่แม่พระทรงทอดพระเนตรมายังท่าน “พระนางทรงรักเอ็นดูผมอย่างเต็มเปี่ยม พระนางทรงมองมาที่ผมเหมือนกับว่ามีผมอยู่เพียงคนเดียวในจักรวาล และพระนางทรงมองทุกคนในลักษณะนี้ด้วย”
 
พระแม่มารีย์คือภาพสะท้อนของความรักของพระเจ้าซึ่งสนทนาในหัวใจของผมว่า พระแม่ไม่เพียงแต่รักผมมากเท่านั้น แต่พระเจ้าก็ทรงรักผมมากด้วยเช่นกัน
 
ฉันเคยเขียนบรรยายประสบการณ์ในการรอดชีวิตจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในราวันดาเมื่อปี 1994 และฉันได้ให้อภัยต่อผู้ที่ฆ่าคนในครอบครัวของฉัน ในหนังสือชื่อ “รอดชีวิตเพื่อบอกเล่า” “Left To Tell”. เมื่อฉันย้อนนึกถึงความหลัง ฉันสามารถให้อภัยได้ก็เพราะฉันรู้สึกถึงความรักที่ยิ่งใหญ่กว่าความเกลียดชังหรือความเจ็บปวดใดๆ ในระหว่าง 3 เดือนที่ฉันหลบซ่อนตัว ฉันสวดภาวนาทั้งวัน ฉันพูดกับพระเจ้าและพระแม่มารีย์โดยการสวดสายประคำทั้งวัน แม้แต่เมื่อฉันรู้สึกโกรธแค้น ฉันจะวอนขอให้พระเจ้าทรงช่วย ในที่สุดพระหรรษทานของพระองค์ก็พบหนทางเข้าสู่หัวใจของฉันและเปลี่ยนแปลงมัน ฉันรู้สึกถึงความรักอันไม่มีที่สิ้นสุดของพระเจ้าเหนือสิ่งอื่นใดทั้งสิ้น ทุกสิ่งดูเหมือนจะเป็นเพียงสิ่งเล็กน้อยเมื่อเผชิญกับความรู้สึกของความรักเช่นนี้ คุณไม่สามารถรักและเกลียดในเวลาเดียวกันได้ พวกเราทุกคนจำเป็นต้องรู้สึกถึงความรัก จะต้องรับรู้ว่าพวกเราถูกรักอย่างไม่มีเงื่อนไข นั่นคือเหตุผลที่พระแม่มารีย์ทรงปรากฏมาเพื่อแสดงถึงความรักนี้ ถ้าหากพระแม่สามารถรักมากเช่นนั้นได้ แล้วพระเจ้าเล่าจะทรงรักพวกเรามากสักเพียงไร? นี่เป็นเวลาแห่งพระหรรษทานอันยิ่งใหญ่ จงหาประโยชน์จากเวลานี้ จงอ่านสาส์นของแม่พระ และถ้าเป็นไปได้จงไปที่เมดจูกอเรจ์และดูด้วยตัวคุณเอง
 
ขอพระเจ้าอวยพร
อิมมาคูลี

************************************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น