แม่พระประจักษ์ที่ยูเครน

วันที่ 12 พฤษภาคม 1914 สองสัปดาห์ก่อนเริ่มสงครามโลกครั้งที่ 1
 

ขณะที่ชาวบ้าน 22 คนกำลังทำงานอยู่ในทุ่งนา, พวกเขาได้เห็นแม่พระประจักษ์มา. แม่พระได้บอกพวกเขาว่า "จะมีสงครามเกิดขึ้น รัสเซียจะกลายเป็นประเทศที่ไม่นับถือพระเจ้า และยูเครนจะต้องประสพความทุกข์ยากอย่างหนักเป็นเวลา 80 ปีจนกว่าสงครามโลกจะผ่านพ้นไป แต่ในที่สุดยูเครนก็จะเป็นอิสระ"
 

73 ปีต่อมา, ในวันที่ 26 เมษายน 1987 ครบรอบหนึ่งปีของการเกิดมหันตภัยระเบิดที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล แม่พระได้ทรงประจักษ์แก่ มารีนา กิสซิน , อายุ 12 ปี ทรงประจักษ์มาเหนือโบสถ์เล็กๆแห่งหนึ่ง ในหมู่บ้านเล็กๆชื่อ รัสชีฟ ( Hrushiv) ซึ่งอยู่ในบริเวณ Lvov region

ครั้งแรกแม่พระทรงประจักษ์แก่ มารีนา ไคซิน Marina Kizyn อายุ 12 ปี เธอเรียกแม่พระว่า แม่ ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น มีเพื่อนบ้านบางคนมาและทุกคนได้เห็นแม่พระด้วย ในไม่ช้าก็มีคนพากันมามากขึ้นเรื่อยๆ จากร้อยเป็นพัน ผู้คนมาจากทุกสารทิศของรัสเซียเพื่อมาดูการประจักษ์ซึ่งมีทุกวันจนถึงวันที่ 15 สิงหาคม 1987 คาดว่ามีคนราว 500,000 คนได้เห็นแม่พระในระหว่างที่มีการประจักษ์นี้ บางวันมีผู้คนราว 45,000 ถึง 70,000 คนมาพร้อมกันในวันเดียว กองทัพทหารรัสเซียและสายลับ KGB ก็ส่งคนมาตรวจสอบแต่ก็ไม่ได้ทำอะไร พวกสายลับ KGB ยังได้เห็นแม่พระด้วย พระสงฆ์ใต้ดินหลายองค์ได้มาและประกอบพิธีมิสซา 10 ครั้งต่อวันที่ด้านหน้าของโบสถ์ แม่พระประทานสาส์นหลายสาส์น

 

ทุกวัน,ประชาชนประมาณ 500 คนจะมาดูและเป็นพยานการประจักษ์ จนถึงวันสุดท้ายคือ 15 สิงหาคม. บางครั้งมีคนมากถึง 50,000 คน. คนเหล่านี้หลายคนได้เห็นแม่พระด้วย. แม่พระตรัสว่า "แม่มาเพื่อขอบใจประชาชนแห่งยูเครน เพราะลูกได้ทนรับความทุกข์ยากเพื่อพระศาสนจักรของพระคริสตเจ้าในระยะเวลา 70 ปีที่ผ่านมานี้ แม่ต้องการปลอบโยนลูกและบอกลูกว่าความทุกข์ยากของลูกนั้นจะสิ้นสุดลงในไม่ช้า. ยูเครนจะได้กลายเป็นประเทศอิสระ" : ยูเครนเป็นประเทศแรกที่ได้ทำพิธีมอบถวายประเทศแด่แม่พระ แม่พระตรัสว่า "ยูเครน, ลูกสาวของแม่, แม่มาหาลูกในห้วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในชีวิตของลูก. ลูกเป็นประเทศแรกที่เลือกแม่ให้เป็นราชินีของลูก" (หมายเหตุ: ยูเครนได้ถวายประเทศแด่แม่พระโดยเจ้าชายยาโรสลาฟผู้ปรีชา "Prince Yaroslav the Wise", บุตรชายของนักบุญวลาดิมีร. เมื่อปี 1037.)
 

ลักษณะการประจักษ์

 

ก่อนที่พระนางจะประจักษ์มา แสงสว่างเจิดจ้าปกคลุมรอบโบสถ์และบริเวณโดยรอบ. แสงนี้ยังสามารถมองเห็นได้ผ่านทางโทรทัศน์. แม่พระประจักษ์มาอยู่ภายในแสงสว่างนี้และลอยอยู่เหนือโบสถ์

 

สาส์น

 

เกี่ยวกับมหันตภัยเชอร์โนบิล, พระนางตรัสว่า "จงอย่าลืมผู้ที่เสียชีวิตในมหันตภัยเชอร์โนบิล. เชอร์โนบิลเป็นการเตือนและเครื่องหมายสำหรับทั้งโลก"
 

"จงให้อภัยศัตรูของลูก. โดยอาศัยลูกและโลหิตของบรรดามรณะสักขี, รัสเซียจะกลับใจ. จงสำนึกผิดกลับใจและรักซึ่งกันและกันเถิด. เวลาที่ได้ถูกทำนายไว้กำลังจะมาถึง- เวลาสิ้นสุดของยุคสมัย. จงมองดูความอ้างว้างที่ห่อหุ้มโลกซิ.....บาป, ความเฉื่อยชา, การฆาตกรรม. จงสวดภาวนาสำหรับรัสเซีย. สงครามและการกดขี่ยังครอบงำจิตใจของคนเป็นจำนวนมาก. รัสเซีย,ซึ่งเหยียดหยามทุกสิ่ง, ยังคงปฏิเสธองค์พระบุตรของแม่. รัสเซียยังคงปฏิเสธความจริงของชีวิตและอยู่ในความมืดต่อไป...ถ้ารัสเซียไม่หันกลับมาสู่คริสตศาสนาแล้วละก็ , สงครามโลกครั้งที่สามจะเกิดขึ้นและทั้งโลกจะเผชิญกับความพินาศ"
 

"จงสอนเด็กๆให้สวดภาวนา สอนพวกเขาให้มีชีวิตอยู่ในความจริงและตัวลูกเองก็ต้องดำรงอยู่ในความจริงด้วย. จงสวดสายประคำ. นั่นเป็นอาวุธใช้ต่อสู้กับซาตาน. เพราะมันกลัวสายประคำมาก. จงสวดสายประคำพร้อมกันในที่ชุมนุมชน"
 

"แม่มาเพื่อปลอบโยนลูกและเพื่อบอกลูกว่าความทุกข์ยากของลูกจะสิ้นสุดลงในไม่ช้า. แม่จะปกป้องลูกไว้เพื่อสิริรุ่งโรจน์และอนาคตของพระอาณาจักรของพระเป็นเจ้าบนโลกนี้ซึ่งจะคงอยู่นานนับพันปี. อาณาจักรแห่งสวรรค์และโลกอยู่ใกล้กันแค่เอื้อม. มันจะมาถึงโดยอาศัยการพลีกรรมและการกลับใจจากบาป."
 

"โลกที่ทารุณโหดร้ายนี้กำลังเฉลิมฉลองกันบนความเสื่อมทรามและความไม่บริสุทธิ์. คำโกหกจำนวนมากถูกป่าวประกาศออกไปเพื่อต่อสู้กับความจริง. ความซื่อบริสุทธิ์กลับถูกประณามเยาะเย้ย. หลายคนได้มาในฐานะพระเมสสิอาห์จอมปลอมและประกาศกเท็จเทียม. จงเฉลียวฉลาดรอบคอบเถิด. จงปกป้องตนเอง"
 

"ความสุขจงมีแก่ผู้ที่ดำรงชีวิตอย่างไร้ตำหนิและผู้ที่ดำเนินชีวิตในความยำเกรงพระเป็นเจ้า"
 

"ลูกของแม่, พวกลูกทุกคนเป็นสุดที่รักของแม่และทำให้หัวใจของแม่ยินดี. แม่ไม่ได้แยกแยะพวกลูกตามเชื้อชาติหรือศาสนา. พวกลูกที่นี่ในยูเครนได้รับความรอบรู้ขององค์พระผู้เป็นเหนึ่งเดียว. นั้นคือพระศาสนจักรอันแท้จริงของอัครสาวก. พวกลูกได้รับการเผยแสดงให้เห็นถึงประตูสู่สวรรค์. ลูกต้องติดตามหนทางนี้ถึงแม้ว่าอาจจะมีความเจ็บปวดก็ตาม"
 

"พระเป็นเจ้านิรันดรกำลังเรียกพวกลูก. นี่เป็นสาเหตุที่แม่ถูกส่งมาหาลูก. ลูกที่อยู่ในยูเครนเป็นประเทศแรกที่ไว้วางใจแม่. ถึงแม้พวกลูกจะถูกเบียดเบียนเป็นเวลายาวนาน,ลูกก็ไม่สูญเสียความเชื่อ, ความหวัง หรือความรัก. แม่สวดภาวนาเพื่อพวกลูกเสมอ, ลูกที่รักของแม่,ไม่ว่าลูกจะอยู่ที่ไหนก็ตาม"

************************