วันเสาร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

Beauties of Life


 
เรื่องแปลจาก 美丽日报
 
好公婆遇上好媳婦 , หอกงพั้ว หง่อ "จี่-อ่อ" หอเซ็กหู..(พ่อแม่สามีดี ,ได้พบลูกสะใภ้ที่แสนดี)
 
"งานแต่งคืนนั้น"เป็นภาพที่น่าประทับใจฉันมาก แขกเหรื่อต่างแต่งตัวมาให้เกียรติอย่างคึกคักเต็มที่ "แต่" ที่มุมห้องจัดเลี้ยง มีผู้เฒ่า 2 คน ใส่เสื้อผ้าเก่าที่มีรอยปะชุน แต่ก็ซักมาอย่างสะอาดสะอ้าน
 
"ในใจฉันคิดอยู่ว่า": ในเมื่อเจ้าบ่าวของฉันเป็นลูกกำพร้า ไหนเลยจะมีญาติมาร่วมงานด้วย ? ฉันได้เรียกเขามาถามดู สุดท้ายเขาตอบอึกๆอักๆว่า เป็นญาติห่างๆ มีศักดิ์เป็น "ถั่งเจ็กหั่วถั่งซิ่ม"(อาและอาสะใภ้)......
 
"ตอนพิธียกน้ำชา" ฉันสังเกตุเห็น "ถั่งซิ่ม" เป็นคนพิการตาบอด ส่วน "ถั่งเจ็ก" พิการไม่มีขาขวา ! ! ! "โอ... ตาบอดกับขาด้วน ทำไมถึงเป็นคู่ชีวิตกันได้นะ ?... ฉันพูดกับเจ้าบ่าวว่า ตอน "ถั่งเจ็ก-ถั่งซิ่ม"กลับอย่าลืมให้เงินค่าเดินทางไปหน่อยนะ , เจ้าบ่าวของฉันผงกหัวไม่พูดอะไร แต่ได้ดึงฉันเข้าไปกอดเสียแน่นเลย...
"หลังแต่งงานผ่านมา 1ปี" วันหนึ่ง...สามีบ่นว่าเจ็บกระเพาะ กินข้าวไม่ลง ขอเข้าไปนอนพักในห้องนอน ความจริงฉันรู้ว่า เขาไม่ได้เจ็บกระเพาะแต่อย่างใด
 
เลยถามว่า "คุณ" คุณเป็นอะไรกันแน่ ? "สามีตอบว่า" คิดถึง"ถั่งเจ็ก-ถั่งซิ่ม" และยังคิดถึง "ป๊ากับม้า" ที่ตายไปแล้ว เกรงว่าถ้าพูดถึง "ป๊า-ม้า" บนโต๊ะอาหาร จะทำให้ฉันโกรธ เลยอ้างแบบนี้....
 
"ตาโง่เอ๊ย" ถ้าคิดถึง หลังตรุษจีนเราก็ไปเยี่ยมท่านก็ได้นี่นา ... "สามีบอกว่า" ทางไปหมู่บ้านต้องขึ้นเขา เดินทางยากมากกลัวฉันลำบาก รอให้เขาทำถนนให้ดีก่อนค่อยให้ฉันไปก็ได้ สุดท้าย ฉันได้แต่ "ฝากเงิน" และซื้อของฝากให้สามีนำไปเอง .....
 
"ปีที่2"วันสาร์ท"ตงชิว (ไหว้พระจันทร์) พอดีเป็นช่วงเวลาที่ฉัน ออกไปทำงานอยู่ต่างพื้นที่หลายวัน,คิดถึง "ป๊า-ม้า" และสามี เลยคิดจะโทรศัพพ์ไปหาเขา ฉันนอนอยู่บนเตียงที่โรงแรม มองออกไปนอกหน้าต่างห้อง เห็นดวงจันทร์กลมสุกใสในคืนวันไหว้พระจันทร์ พลิกตัวไปๆมาๆ ยังไงก็นอนไม่หลับ "ฉันคิดว่า" สามีก็คงนอนไม่หลับเช่นกัน , ไม่แน่เขาอาจจะกำลัง "ท่องอินเตอร์เนต" อยู่ก็ได้ , ฉันลุกขึ้นมาเปิด "อินเตอร์เนต" สมัครรายชื่อปลอม เป็นชื่อผู้ใช้ใหม่ หวังจะลองแกล้งหยอกสามีดู , เสิร์ชหาดูครู่หนึ่งก็พบว่าสามีใช้งานอยู่พอดี ฉันขอสมัครเป็นเพื่อน และ เขารับทันที....
 
"ฉันถามเขา": ในคืนรวมญาตินี้ ทุกบ้านก็อยู่กันครบหน้า ทำไมคุณมาท่องเนตอยู่ ว่างมากหรือไง ? "เขาตอบว่า" เพราะภรรยาผมออกไปปฏิบัติงานต่างพื้นที่ และคงนอนไม่หลับ เลยคิดจะเสิร์ชเนตติดต่อเขาดู (ฉันแอบปลื้มกับคำตอบนี้อย่างยิ่ง) เลยคิดอยากทดลองใจเขาดู...
 
"ภรรยา"คุณไม่อยู่บ้าน ทำไมคุณไม่หากิ๊กมาอยู่แทนสักคนล่ะ ? เงียบไปเนิ่นนาน เขาค่อยพิมพ์ตอบมาว่า..."หากคุณกำลังหาผู้ชายอยู่ "ขอโทษด้วย" ผมไม่ใช่คนที่คุณกำลังค้นหาครับ , ผ่านไปอีกครู่ใหญ่ "เขาถามฉันว่า" ทำไมคุณก็ว่างท่องเนตอยู่เหมือนผมหรือครับ ?....
 
"ฉันตอบว่า" : ฉันออกมาทำงานต่างถิ่น ตอนนี้คิดถึง "ป๊า-ม้า"ค่า...
 
"เขาตอบ" : ผมก็คิดถึง "ป๊า-ม้า" เหมือนกันครับแต่ท่านอยู่ไกล ผมเป็นลูกไม่อาจเลี้ยงดูท่านได้สะดวก....
 
"ฉันรู้สึกแปลกใจมาก" สามีเคยพูดว่าเป็นลูกกำพร้า ทำไมตอนนี้ถึงพูดแบบนี้อีกนะ ? ... "เขาพูดต่อ" ความจริงคุณกับผมก็ไม่รู้จักกัน ผมอยากเล่านิทานให้คุณฟังสักเรื่อง !
 
"ปีนั้น" พ่อผม....ซึ่งเป็นคนพิการขาด้วน แถมครอบครัวก็ ยากจนมาก ไม่มีผู้หญิงคนไหนยอมแต่งงานด้วย ต่อมาเขาได้ช่วยชีวิตผู้เฒ่าใว้คนหนึ่ง และได้แต่งงานกับลูกสาวตา บอดของเขา ซึ่งก็คือแม่ของผมเอง , ชีวิตครอบครัวผ่านไปด้วยความยากลำบาก แต่ผมกลับไม่เคยอดแม้แต่มื้อเดียว พ่อกับแม่พิการทำนาไม่ได้ จึงได้แต่รับจ้างชาวบ้านแกะเมล็ดข้าวโพด ในแต่ละวันท่านแกะเมล็ดข้าวโพดจนมือพองทั้ง10 นิ้ว วันต่อมายังต้องใช้ผ้าพัน "มือ-นิ้ว" แล้วแกะต่อ...
 
"เพื่อให้ผมได้เรียนหนังสือ" ที่บ้านเลี้ยงแม่ไก่ใว้ 3 ตัว , 2ตัวออกไข่ใว้ขายอีก 1 ตัวเก็บไข่ให้ผมกิน แม่บอกว่ากินไข่แล้วฉลาด แต่แม่ไม่ยอมกินไข่เลย ไก่ไข่ได้เท่าไหร่ แม่จะเก็บใว้ให้ผมกินคนเดียว ,
 
คนในหมู่บ้านไม่เคยเรียกชื่อผมเลย ล้วนเรียกผมว่าไอ้ลูก "บ้านบอดด้วน" กันทั้งนั้น หากพ่อได้ยินคำนี้จากใคร ก็จะไปชวนทะเลาะกับเขาทุกครั้ง ส่วนแม่มองไม่เห็น แต่จะหาก้อน "อิฐ-หิน" ขว้างใส่คนพูดมั่วไปหมด : "พวกแกฟังให้ดีนะ ! ถึงแม่จะ "บอด"พ่อจะ"ด้วน" แต่ลูกก็สมบูรณ์ครบทุกอย่าง ทีหลังห้ามพวกแกเรียกแบบนี้อีกนะ วันหลังลูกๆพวกแกจะไม่มีทางเทียบลูกข้าได้หรอก จะบอกให้ ......
 
"จริงอย่างแม่ว่า" ต่อมาผมสามารถสอบได้คะแนนเป็นที่ 1 ของนักเรียนทั้งอำเภอ , ทำให้"พ่อ-แม่" ได้หน้าขึ้นมาครั้งใหญ่ , ผู้นำระดับตำบล (กำนัน) ได้ช่วยกันเรี่ยไรเงินบริจาคส่งเสียให้ผมเข้าไปเรียนในเมือง วันที่ส่งผมไปเรียนนั้น เป็นครั้งแรกในชีวิตของพ่อ ที่มีโอกาศลงจากเขา ตอนอยู่บนรถ ผมร้องไห้หนัก พ่อมือหนึ่งถือไม้เท้า มือหนึ่งเช็ดน้ำตาให้ผมแล้วพูดว่า "ลูกพ่อ" เข้าเมืองแล้วตั้งอกตั้งใจเรียนนะ เรียนจบหางานทำในเมือง แล้วหาเมียในเมืองสักคน หากมีใครถามถึงพ่อแม่ ให้บอกเขาว่าเป็นลูกกำพร้า ไม่งั้นคนจะดูถูกเจ้า เจ้าจะหาเมียยาก หากทำให้เจ้าหาเมียไม่ได้ วันหลังพ่อตายแล้ว คงไม่มีหน้าไปพบบรรพบุรุษอีก , ผมร้องไห้และรับปาก แล้วจะให้ผมลืม "พ่อ-แม่"ได้อย่างไร "แต่" พ่อบอกว่า : ลูกลืมตอนที่เข้าโรงเรียนครั้งแรกแล้วหรือ ? แค่เพื่อนๆรู้ว่าลูกมีพ่อแม่พิการ ก็มีแต่คนดูถูกดูแคลน แม้แต่คุณครูก็ไม่ค่อยชอบหน้าลูกสักเท่าไหร่ , หากวันหลังหาเมียได้ ก็ให้บอกว่า "พ่อ-แม่" เป็น "ถั่งเจ็ก-ถั่งซิ่ม" ก็แล้วกัน...
 
หลังเรียนจบ ผมหางานทำได้ที่ในเมือง ผมได้คบหากับเพื่อนผู้หญิงคนแรก แต่พอพาเธอไปที่บ้าน "พ่อ-แม่" แม้แต่ข้าวมื้อเดียวก็ไม่ยอมกิน แล้วเธอก็เดินหนีจากผมไป เธอดูถูก "พ่อ-แม่" ผมว่าพิการแถมยากจน ขืนแต่งไปความพิการอาจเป็นกรรมพันธุ์ติดต่อถึงลูกก็ได้ ผมโกรธจนไล่เธอไปให้ไกลแสนไกล
 
ต่อมาผมพบกับคนรักครั้งที่ 2 ก็คือภรรยาคนปัจจุบันของผม ผมรักเธอมาก แม้ตอนผมหลับ ในฝันยังกลัวว่าจะสูญเสียเธอไป....
 
ครอบครัวเธอค่อนข้างรวยมาก พ่อตาเป็นคนมีหน้ามีตาในสังคม หาก "พ่อ-แม่" มาหาผม ผมกลัวจะเป็นการแต้มจุดดำขึ้นมา ? (抹黑"บั๊วะเห็ก" สำนวนจีน แปลว่าเปื้อนสีดำ)...
 
ผมได้แต่แอบกลับไปเยี่ยมท่านตอนฝึกงานนอกสถานที่เท่านั้น แต่ "วันตรุษวันสาร์ท" กลับไม่มีโอกาสไปเยี่ยม ผมคิดถึงพวกท่านมากครับ......
 
ขอบคุณที่ฟังผมระบายความในใจออกมามากมาย ตอนนี้ผมสบายใจขึ้นมากแล้วครับ....
 
"ฟังเรื่องราวของสามีจบ" ฉันอดไม่ได้ที่จะหลั่งน้ำตาออกมา ฉันเข้าใจความจำเป็นของสามี ฉันตั้งใจจะไปเยี่ยม "พ่อ-แม่"สามีสักครั้ง....
 
"ฉันลางาน" แล้วตรงไปที่สถานีรถไฟ.... เส้นทางขึ้นเขาเข้าหมู่บ้าน ช่างเป็นทางที่ขรุขระเดินยากเสียนี่กระไร เดินได้พักหนึ่ง นิ้วเท้าก็เกิดพองเป็นถุงน้ำขึ้นมา ฉันเดินต่อไม่ไหวแล้ว ฉันถอดรองเท้าออกมาบ่งถุงน้ำให้แตก มันเจ็บปวดจนฉันร้องไห้เสียงดังออกมา แต่หลังจากนั้นฉันก็ยังคงเดินหน้าต่อไป ....
 
"ผู้ใหญ่บ้าน" พาฉันไปจนถึงหน้าบ้านพ่อแม่สามี ฉันเห็นพ่อสามีกำลังแกะเมล็ดข้าวโพด ในขณะที่แม่สามีกำลังคุกเข่ากวาดเมล็ดข้าวโพดให้รวมกอง.....
 
"บ้านเก่าๆ" ที่มีฉากหลังเป็นภูเขา มีพ่อเฒ่า-แม่เฒ่านั่งทำงานอยู่หน้าบ้าน มันเหมือนภาพวาดที่สมบูรณ์แบบ โดยมี "พ่อแม่สามี" เป็นคนในภาพนั้น ฉันเดินช้าๆเข้าไปถึงข้างหน้า พ่อสามีเงยหน้าเห็นฉัน "ตกใจ" จนฝักข้าวโพดหลุดจากมือ ท่านถามฉันอย่างระล่ำระลักว่า ทำไมเจ้ามาถึงที่นี่ได้ ?
 
แม่สามีเอามือควานไปรอบข้าง เพื่อหาตำแหน่งที่ฉันยืนอยู่ ฉันโค้งคำนับให้แม่สามี แล้วยื่นมือไปจับที่มือของนาง จากนั้นฉันคุกเข่าลงแล้วพูดว่า "พ่อ-แม่" หนูมารับ "พ่อ-แม่" กลับบ้านแล้ว..
 
พ่อสามีหลั่งน้ำตาแล้วพูดพึมพำว่า : ลูกชายของพ่อ เลี้ยงไม่เสียข้าวสุกเลย ส่วนแม่สามีกอดฉันแน่นและร้องไห้โฮออกมา น้ำตาแม่สามีไหลเปียกเสื้อฉัน เปียก จนเป็นวงใหญ่ , ตอนฉันพาพ่อแม่สามีออกจากหมู่บ้าน ชาวบ้านในหมู่บ้านมีการจุดประทัด เสียงดังอย่างเอิกเกริก เพื่อให้เป็นเกียรติแก่ครอบครัวที่มีลูกสะใภ้กตัญญู และให้เกียรติ "พ่อ-แม่" สามีครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่ง.....
 
กลับมาถึงบ้าน สามีเปิดประตูออกมา เห็นฉันพา "พ่อ-แม่" มาด้วย เขาถึงกับยืนตลึงอยู่กับที่...
 
ฉันบอกสามีว่าฉันคือผู้หญิงที่คุณคุยด้วยคืนนั้น และฉันพา "พ่อ-แม่" คุณกลับมาแล้ว "พ่อ-แม่" ที่ดีพร้อมสมบูรณ์แบบอย่างนี้ ทำไมคุณถึงยอมปล่อยทิ้งใว้บนเขานะ ?
 
สามีโผเข้ามากอดฉันแน่น พูดจนฟังไม่ได้ศัพพ์ น้ำตาไหลพรากจนเปียกฉันอีกครั้งหนึ่งแล้ว...
 
**ฉวยโอกาศที่พ่อแม่ยังแข็งแรงอยู่ กตัญญูต่อท่านเถอะ ! *****
 
จาก.....美丽日报 หมุยหลีหยิกป่อ...
 
แปล และเรียบเรียง โดย เจงเอี่ยม แซ่อึ้ง 黄振炎 2/2/2019

**********************************************

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น