ในปี 1940 ซิสเตอร์เอเลนาได้รับการชี้แนะจากพระเยซูเจ้าให้มีบทบาทมากขึ้นในสังคมภายนอก ซิสเตอร์ได้รับสาส์นจากพระเยซูเจ้าที่ต้องส่งต่อไปให้กับเบนิโต มุสโสลินี แจ้งให้มุสโสลินีทราบว่าอย่าร่วมมือกับฮิตเลอร์ในการทำสงครามโลกครั้งที่ 2 มิฉะนั้นอิตาลีจะได้รับความพ่ายแพ้อย่างชอกช้ำและมุสโสลินีจะถูกลงโทษจากพระยุติธรรมซึ่งจะลงมาอย่างรวดเร็ว แต่มุสโสลินีไม่ยอมเชื่อฟัง และทุกสิ่งก็เกิดขึ้นตามที่ได้แจ้งไว้ล่วงหน้าแล้ว
จดหมายฉบับนี้ถูกส่งไปเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 1940 ถึงน้องสาวของผู้นำ ดอนน่า เอ็ดวิก ซึ่งได้ส่งต่อไปถึงมุสโสลินี
ถึงท่านหัวหน้ารัฐบาล เบนิโต มุสโสลินี
ท่าน Duce (ชื่อเล่นของมุสโสลินี แปลว่า ผู้นำ)
ดิฉันจดหมายมาหาท่านในพระนามของพระเจ้า เพื่อแจ้งให้ท่านทราบถึงสิ่งที่พระองค์ทรงเปิดเผยแก่ดิฉัน และสิ่งที่พระองค์ทรงมีพระประสงค์จากท่าน ดิฉันลังเลใจที่จะเขียน แต่เมื่อวานนี้วันที่ 22 เมษายน พระเยซูเจ้าทรงปรากฏแก่ดิฉันอีกและทรงสั่งให้ดิฉันแจ้งแก่ท่านดังนี้
“โลกกำลังถูกทำลายเพราะบาปจำนวนมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บาปแห่งความไม่บริสุทธิ์ซึ่งมากมายจนเกินขีดจำกัด ต่อหน้าพระยุติธรรมของพระบิดาสวรรค์ของเรา เพราะฉะนั้น ท่านจะต้องทนทุกข์และจะกลายเป็นเหยื่อของโลก โดยเฉพาะอิตาลีซึ่งเป็นที่พำนักของผู้แทนบนโลกของเรา อาณาจักรของเราเป็นอาณาจักรแห่งสันติภาพ ในขณะที่ทั้งโลกเข้าไปพัวพันกับสงคราม ผู้ปกครองของประเทศต่างๆต้องการครอบครองดินแดนแห่งใหม่ คนโง่ที่น่าสงสารเอ๋ย! พวกเขาไม่รู้หรือว่า เมื่อไม่มีพระเจ้า ก็จะไม่มีชัยชนะ หัวใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความชั่วร้าย ทุกสิ่งที่พวกเขากระทำนั้นชั่วช้าสามานย์และเป็นการดูหมิ่นเรา พวกเขาเป็นเหมือนปีศาจที่หว่านความแตกแยก ทำให้ประชาชนฆ่าฟันกันเองและมุ่งหน้าไปสู่ความหายนะแห่งสงคราม แม้แต่อิตาลี ประเทศที่พระเจ้าทรงโปรดปรานต่อวิญญาณหลายดวง และเป็นประเทศที่ซึ่งผู้แทนของเราบนโลก, ผู้อภิบาลของเหล่าธรรมิกชนอาศัยอยู่ ฝรั่งเศสซึ่งเป็นที่รักแห่งดวงใจของเราจะล่มสลายในไม่ช้าสืบเนื่องมาจากบาปอันมากมายของเธอ และจะถูกโยนทิ้งถูกทำลายล้างเหมือนกรุงเยรูซาเล็มที่อกตัญญู เราได้ส่งเบนิโต มุสโสลินีมาปกปักรักษาอิตาลีไว้ไม่ให้ตกหน้าผาก็เพราะเห็นแก่ผู้แทนบนโลกของเรา มิฉะนั้นแล้ว ในเวลานี้ อิตาลีก็คงจะเลวร้ายลงยิ่งกว่ารัสเซียเสียอีก
เราได้ปกป้องเขา(มุสโสลินี)จากอันตรายเสมอ เวลานี้เขาต้องปกป้องรักษาอิตาลีไว้จากสงคราม เพราะอิตาลีเป็นอารยะประเทศและเป็นที่พำนักของผู้แทนบนโลกของเรา ถ้าเขาตั้งใจทำตามคำของเรา เขาจะได้รับความชอบมากมายและเราจะทำให้ทุกประเทศเคารพนับถือเขา แต่เพราะเขาตัดสินใจที่จะเข้าไปสู่สงคราม จงบอกเขาว่า ถ้าเขายังไม่เปลี่ยนใจเสียใหม่ เขาจะถูกลงโทษด้วยพระยุติธรรมศักดิ์สิทธิ์ของเรา” พระเยซูเจ้าเองทรงตรัสทั้งหมดนี้กับดิฉัน ได้โปรดเถิด ท่านผู้นำ อย่าคิดว่าดิฉันสนใจในเรื่องการเมืองแม้แต่น้อย ดิฉันเป็นเพียงแม่ชีธรรมดาที่ดูแลเด็กหญิงที่ถูกทอดทิ้งเท่านั้น และดิฉันสวดภาวนาอย่างกระตือรือร้นเพื่อความปลอดภัยของท่านและของประเทศของเราด้วย
ด้วยความเคารพ
ซิสเตอร์ เอเลนา ไอเอลโล
3ปีต่อมา ซิสเตอร์เอเลน่าได้เขียนจดหมายไปถึงน้องสาวของมุสโสลินี ดอนน่า เอ็ดวิก อีกครั้ง
เอ็ดวิกที่รัก
“คุณอาจคิดว่าดิฉันคงลืมคุณไปแล้ว เพราะดิฉันเงียบไปเป็นเวลานาน แต่ดิฉันยังคงคิดถึงคุณอยู่เสมอในคำภาวนาของดิฉัน ดิฉันได้ติดตามข่าวคราวเหตุการณ์ที่เจ็บปวดในเวลานี้ซึ่งเกิดกับอิตาลีที่สวยงามของเรา เราได้ละทิ้งโคเซนซ่าไปอันเนื่องมาจากการถูกทิ้งระเบิด
ความป่าเถื่อนของศัตรูได้ระบายความเกลียดชังโดยการทิ้งระเบิดเมืองโคเซนซานำมาซึ่งความอ้างว้างและความตายต่อประชากร ดิฉันต้องนอนเตียงเพราะเจ็บป่วย ระเบิดสามลูกตกใกล้กับบ้านของเรา แต่พระเยซูเจ้า ด้วยพระทัยดีหาที่สุดมิได้และพระเมตตาของพระองค์ ได้ทรงปกป้องพวกเราไว้ เราได้หลบภัยไปอยู่ที่ Montalto Uffugo เมืองบ้านเกิดของดิฉัน เพื่อปกป้องเด็กหญิงเล็กๆให้พ้นจากอันตรายที่จะมารุกราน
เราไม่มีความสะดวกสบายอะไรเลย แต่เราได้มอบถวายความยากลำบากแด่พระเป็นเจ้าเพื่อช่วยรักษาอิตาลี จดหมายฉบับนี้มีจุดประสงค์ที่จะวิงวอนจากคุณอีกอย่างหนึ่ง เช่นเดียวกับที่ดิฉันได้ทำเมื่อเดือนพฤษภาคม 1940 เมื่อท่านหญิง บารอนเนสรุกจิได้แนะนำดิฉันกับคุณ เพื่อที่ดิฉันจะได้ส่งจดหมายให้กับคุณ จดหมายที่บอกถึงสิ่งพระเจ้าทรงเปิดเผยแก่ดิฉันเกี่ยวกับท่านผู้นำ
ถ้าคุณจำได้ เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 1940 เราพูดถึงการที่ท่านผู้นำตัดสินใจที่จะเข้าสู่สงคราม และพระเยซูเจ้าทรงเตือนเขาในจดหมายของดิฉันว่าให้นำอิตาลีออกจากสงคราม มิฉะนั้น พระยุติธรรมอันศํกดิ์สิทธิ์จะตกลงบนเขา “เราได้ช่วยปกป้องเขาไว้เสมอ – พระเยซูเจ้าตรัส – จากอันตรายมากมายหลายครั้ง เวลานี้ มันขึ้นอยู่กับเขาแล้วที่จะช่วยอิตาลีจากความชั่วร้ายของสงคราม เพราะอิตาลีเป็นที่พำนักของผู้แทนของเราบนโลก ถ้าหากเขาทำตามความประสงค์ของเรา เราจะหลั่งพระพรอันยิ่งใหญ่แก่เขาและเราจะทำให้นานาชาติเคารพนับถือเขา แต่เนื่องจากเขาตัดสินใจที่จะเดินหน้าต่อไป เราต้องการให้เขารู้ว่า ถ้าเขายังคงยืนกราน เขาจะถูกลงโทษอย่างรุนแรงโดยพระยุติธรรมของเรา” อา! ถ้าเพียงแต่ท่านผู้นำจะยอมฟังพระวาจาของพระเยซูเจ้า อิตาลีก็คงจะไม่ตกอยู่ในสถานการณ์อันเลวร้ายเช่นนี้,,,,ดิฉันรู้ว่าท่านผู้นำคงรู้สึกหดหู่ใจที่เห็นอิตาลีเป็นเช่นนี้ อิตาลีที่ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นสวนที่เต็มไปด้วยดอกไม้สวยงาม บัดนี้กลายเป็นผืนดินที่อ้างว้างเต็มไปด้วยโรคร้ายและความตาย แต่ทำไมเขาจึงยังคงยืนกรานที่จะเข้าสู่สงครามที่โหดร้ายเช่นนี้เล่า ในเมื่อพระเยซูเจ้าตรัสว่าไม่มีใครได้รับชัยชนะที่แท้จริง?
เพราะฉะนั้น ดอนน่า เอ็ดวิกที่รัก, โปรดบอกท่านผู้นำ ในนามของดิฉันเอง ว่านี่เป็นคำเตือนครั้งสุดท้ายของพระเจ้าต่อเขา เขายังมีเวลาที่จะรักษาชีวิตตนเองไว้ได้ด้วยการละทิ้งทุกสิ่งไว้ในพระหัตถ์ของพระบิดาศักดิ์สิทธิ์ ถ้าเขาไม่ทำดังนี้ – พระเยซูเจ้าตรัส - พระยุติธรรมอันศักดิ์สิทธิ์จะมาถึงเขาโดยเร็ว
“สำหรับผู้ปกครองคนอื่นๆก็เช่นเดียวกัน ผู้ที่ไม่ยอมฟังคำแนะนำของผู้แทนของเรา เขาจะถูกลงโทษด้วยพระยุติธรรมของเราด้วย” คุณจำได้ไหมว่า เมื่อวันที่ 7 กรกฏาคมปีที่แล้ว คุณถามว่ามีความหวังอะไรสำหรับท่านผู้นำหรือไม่?
ดิฉันได้ตอบว่า ถ้าเขาไม่ฟังเสียงของพระสันตะปาปา เขาจะได้รับสิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่านโปเลียน? เวลานี้ดิฉันขอย้ำในคำพูดเดิม “ถ้าท่านผู้นำไม่เต็มใจที่จะปกปักรักษาอิตาลีและไม่ฟังเสียงของพระสันตะปาปา เขาจะตกต่ำลงอย่างรวดเร็ว” แม้แต่บรูโน (ลูกชายของมุสโสลินีที่เสียชีวิตแล้ว) ก็ยังวิงวอนขอต่อบิดาของเขาจากอีกโลกหนึ่งให้ปกปักรักษาอิตาลีและตัวเขาเองด้วย บ่อยครั้งทีเดียวที่พระเยซูเจ้าตรัสว่าอิตาลีได้รับการปกปักรักษาก็เพราะองค์สมเด็จพระสันตะปาปา ผู้ทรงตกเป็นเหยื่อของภัยพิบัติครั้งนี้ เพราะฉะนั้นวิธีเดียวที่จะทำให้เกิดสันติภาพที่แท้จริงบนโลกคือทำตามที่พระบิดาศักดิ์สิทธิ์(พระสันตะปาปา) ทรงแนะนำ
ดอนนา เอ็ดวิกที่รัก โปรดจำไว้ว่าสิ่งใดก็ตามที่พระเยซูเจ้าทรงเปิดเผยแก่ดิฉันจะสัมฤทธิ์ผลเสมอ ใครที่เป็นสาเหตุของการล่มสลายของอิตาลีเล่า? ไม่ใช่ความผิดของท่านผู้นำหรอกหรือ? ท่านไม่ได้ปฏิเสธที่จะฟังคำเตือนของพระเจ้าของเรา พระเยซูคริสตเจ้าหรอกหรือ? แม้แต่ในเวลานี้ เขาก็ยังถูกปีศาจล่อลวงไม่ให้ทำตามคำเตือนของพระเจ้า สำหรับดิฉัน ดิฉันจะยังคงสวดภาวนาเพื่อความตั้งใจนี้ต่อไป
ด้วยความเคารพ
ซิสเตอร์เอเลน่า ยังได้เขียนจดหมายถึงประธานาธิบดีรูสเวลท์ ของอเมริกา วิงวอนขอให้เขาอย่าทิ้งระเบิดที่คาบสมุทรแห่งหนึ่ง และเธอยังส่งจดหมายต่อว่ากษัตริย์จอร์จที่ 6 แห่งอังกฤษ กล่าวว่าพระองค์ต้องรับผิดชอบในเรื่องความขัดแย้ง เพราะพระองค์ทรงเป็นคนโหดร้ายและไร้พระเจ้า และฮิตเลอร์จะเป็นเครื่องมือสำหรับการลงโทษ
*************************
มุสโสลินีถูกจับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2488 โดยกองกำลังปาร์ติซานของพรรคคอมมิวนิสต์อิตาลี ที่บริเวณใกล้ชายแดนอิตาลี-สวิสเซอร์แลนด์ ในขณะที่เขาพยายามจะหลบหนีออกจากอิตาลี และถูกประหารชีวิตด้วยข้อหาทรยศต่อชาติ ในวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2488 ร่างของมุสโสลินี ภรรยาน้อย และผู้นิยมลัทธิฟาสซิสต์คนอื่นๆ อีกประมาณ 15 คน ถูกนำไปที่มิลานและแขวนประจาน
ศพของมุสโสลินีถูกแขวนประจานต่อสาธารณชน
เช่นเดียวกับยูดาส อิสคาริโอท ผู้ทรยศต่อพระเยซูเจ้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น