วันจันทร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

สถานการณ์ของพระศาสนจักร



วาติกันได้ประกาศเมื่อวันเสาร์ที่ 16 ก.พ. 2018 นี้ว่า พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงอนุมัติให้ถอดถอนอดีตพระคาร์ดินัล ทีโอดอร์ แมคคาริค ex-Cardinal Theodore McCarrick จากสถานะการเป็นพระสงฆ์ หรือเรียกว่าถูก “laicization” or “defrocking.” (ขาดจากความเป็นพระสงฆ์ )
 
ประกาศนี้ถือเป็นการลงโทษขั้นร้ายแรงที่สุดในพระศาสนจักรสำหรับพระสงฆ์ อดีตพระคาร์ดินัลแมคคาริค อายุ 88 ปี ถูกกล่าวหาว่าได้ล่วงละเมิดทางเพศ  ทางวาติกันได้สอบสวนพบว่าท่านมีความผิดในเรื่องที่เกี่ยวกับ “ศีลอภัยบาป และบาปต่อพระบัญญัติประการที่หกต่อเด็กและผู้ใหญ่ ด้วยปัจจัยของการใช้อำนาจในทางที่ผิด”
 
ทางวาติกันได้ลงโทษพระสงฆ์หลายร้อยคนแล้วในความผิดโทษเดียวกันนี้ แต่อดีตพระคาร์ดินัลแมคคาริค ถือเป็นพระสงฆ์ในตำแหน่งสูงสุดและเป็นผู้นำของพระสงฆ์ทั่วไปที่ถูกลงโทษอย่างรุนแรงเช่นนี้ พระสงฆ์ที่กระทำผิดส่วนใหญ่อยู่ในสหรัฐอเมริกา
 
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นสัญญาณที่แรงที่สุดของการที่พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงจัดการกับวิกฤตการล่วงละเมิดทางเพศในสหรัฐอเมริกา ในเดือนตุลาคมพระสันตะปาปาทรงลงโทษพระสังฆราชเกษียณชาวชิลีสองคนที่ถูกกล่าวหาว่าล่วงละเมิดทางเพศต่อผู้เยาว์ ในเดือนธันวาคมพระสันตะปาปาทรงถอดถอนพระคาร์ดินัลระดับสูงสองคนออกจากสภาที่ปรึกษาของพระองค์หลังจากพวกเขาพัวพันในคดีการล่วงละเมิดทางเพศ
 
ความลับที่ ทีโอดอร์ แมคแคร์ริคปกปิดมาตลอด 50 ปีก็คือ เขาได้ล่วงละเมิดเด็กๆ ที่ช่วยงานโบสถ์ และความจริงถูกเปิดเผย เมื่อกลางเดือนมิถุนายน 2018 โดยชายวัย 60 ปีที่ถูกล่วงละเมิดเมื่อเขาอายุแค่ 11 ขวบ เขามีชื่อต้นว่า James และอีกคนหนึ่งเป็นชายวัย 64 ปีก็ถูกล่วงละเมิดเมื่ออายุ 10 กว่าขวบด้วย องค์พระสันตะปาปาฟรานซิส ซึ่งได้ถูกรุกเร้ามาตลอด 2-3 ปีนี้ ให้จัดการกับมลทินที่หมักหมมแฝงเร้นในพระศาสนจักรท้องถิ่นตามที่ต่างๆ ของโลก ทั้งในไอร์แลนด์ (ราชาคณะขนาด Cardinal เช่นกัน)
 
ทั้งที่ออสเตรเลีย (Cardinal Pell) ที่สหรัฐฯ ก็ระดับ Bishop หลายท่าน รวมทั้งในประเทศอาร์เจนตินา และ ชิลี
 
เมื่อความลับถูกเปิดเผยและมีการฟ้องร้องต่อศาลสูงของสหรัฐอเมริกา ทีโอดอร์ แมคแคร์ริค ก็ได้ขอลาออกจากสมณะศักดิ์ต่อพระสันตะปาปาฟรังซิส และพระสันตะปาปาทรงอนุมัติการลาออกเมื่อวันที่ 28 ก.ค. 2018
 
ทีโอดอร์ แมคแคร์ริค เติบโตมาจากนักบวชคาทอลิกในเมืองนิวยอร์กและนิวเจอร์ซี จบจากมหาวิทยาลัย Fordham และเริ่มเป็นที่รู้จักด้วยการเผยแพร่ศาสนาโดยเน้นเรื่องความเห็นใจต่อคนยากจนผู้ทุกข์ยาก
 
ต่อมา เขาได้มองเห็นช่องทางสร้างชื่อเสียงและตำแหน่ง ขณะที่เปิดประตูสร้างความใกล้ชิดกับบรรดาผู้มีอิทธิพลทางสังคม ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง นักธุรกิจ ด้วยการไปมาหาสู่และยื่นความช่วยเหลือแก่ตระกูลดังๆ ขณะที่มีเรื่องราวทุกข์โศกหรือยามที่บางครอบครัวเผชิญปัญหาต่างๆ ซึ่งนำมาสู่การขอรับบริจาคเงินจำนวนใหญ่ขึ้นๆ เพื่อนำไปทำกิจกรรมของโบสถ์
 
หนึ่งในตระกูลดังที่ประสบปัญหาใหญ่มากคือ ตระกูล Hearst ที่ซานฟรานซิสโก ที่เป็นเจ้าของสิ่งพิมพ์หนังสือพิมพ์ดัง และลูกสาวคนดังของตระกูลคือ Patty Hearst (เมื่ออายุ 20 ปี) ที่ถูกลักพาตัว (ปี 1974) โดยกลุ่มซ้ายจัดที่ต้องการเรียกค่าไถ่ แต่ต่อมาได้ล้างสมองเธอจนเธอกลับกลายเป็นสมาชิกของกลุ่มที่ทุ่มเท และร่วมปฏิบัติการปล้นธนาคาร (เอาเงินจากคนรวยมาดำเนินการปฏิวัติและช่วยคนจน)
 
ทีโอดอร์ แมคแคร์ริค ได้ฉวยโอกาสเดินทางไปปลอบใจผู้ใหญ่ตระกูล Hearst ซึ่งเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ภาคบ่าย The S.F. Examiner และหลังจากนั้น มหาเศรษฐีที่มีอิทธิพลตระกูล Hearst ก็เป็นผู้บริจาครายใหญ่ให้แก่บาทหลวงแมคแคร์ริค
 
ดาราฮอลลีวูดดังๆ แบบ Bing Crosby ก็เป็นผู้เคารพบาทหลวงผู้นี้ และในพิธีศพของ Bing ซึ่งเป็นข่าวดังมาก บาทหลวงดังรูปนี้ก็เป็นผู้ทำพิธีให้ เพิ่มชื่อเสียงแก่ตัวบาทหลวงผู้นี้มากขึ้น
 
ตระกูล Kennedy รวมทั้งรองประธานาธิบดี Jo Biden ก็เป็นผู้เคารพบาทหลวงผู้นี้ ซึ่งได้เริ่มไต่เต้าท่ามกลางการห้อมล้อมด้วยผู้ทรงอิทธิพลทางการเมือง และทางธุรกิจ
 
บันไดสำคัญที่บาทหลวงคนดังสร้างขึ้นเพื่อเข้าใกล้ชิดองค์พระสันตะปาปา ก็คือ การก่อตั้งมูลนิธิองค์พระสันตะปาปา (Papal Foundation) เพื่อระดมหาเงินบริจาคจากสหรัฐฯ ไปมอบให้แก่วาติกัน จนทำให้สามารถเข้าใกล้ชิดพระสันตะปาปา จอห์น ปอลที่ 2 และเขาได้เลื่อนสมณศักดิ์ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ถึงขั้น Bishop และ Archbishop จนได้สวม “หมวกแดง” เป็น Cardinal
 
ขณะที่เริ่มมีเรื่องฉาวโฉ่กรณีบาทหลวงคาทอลิกถูกฟ้องร้องเป็นจำเลยการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กๆ ที่ไปช่วยงานโบสถ์ในทศวรรษ 1980 ท่านคาร์ดินัล แมคแคร์ริค ก็ได้รับความไว้วางใจแต่งตั้งจากองค์พระสันตะปาปา จอห์น ปอลที่ 2 ให้อยู่ในคณะกรรมการกำหนดมาตรการ Zero Tolerance เพื่อลงโทษบาทหลวงที่ละเมิดทางเพศเด็กๆ และสังฆมณฑลที่ปิดบังความผิดอันนี้
 
เขายังดำรงอยู่ในคณะคาร์ดินัลที่คัดเลือกองค์พระสันตะปาปาถึง 2 องค์คือ พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 และพระสันตะปาปาฟรังซิสองค์ปัจจุบัน
 
 
ประตูนรกไม่มีวันชนะพระศาสนจักรนี้ได้

********************
ข้อมูลจาก – ผู้จัดการออนไลน์ , Crux Now, The New York Times


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น