รูปถ่ายของเทเรซา ลู่ Teresa Liu อายุ 86 ปี (15 มิ.ย. 2019) ที่โบสถ์เซนต์ไมเคิล ในเมืองฮัทส์วิลล์ ทางตอนใต้ของซิดนีย์ ออสเตรเลีย นางลู่ ถูกจองจำในจีนนาน 20 ปี ในข้อหาเป็น”สมาชิกฆราวาสแพร่ธรรม – พลมารีย์” เธอได้ช่วยให้ผู้ลี้ภัยชาวจีนหลายร้อยคนให้มาสู่ความเชื่อคาทอลิกในออสเตรเลีย
-----------------------------------------
เธอถูกขังเดี่ยวเป็นระยะเวลา20ปีโดยไม่เคยได้รับการไต่สวนและการพิพากษา
ระหว่างถูกจองจำเธอไม่ได้รับอนุญาตให้รับศีลศักดิ์สิทธิ์หรือมีพระคัมภีร์ แต่เธอก็ยังรักษาความเชื่อของเธอโดยการสวดภาวนาในห้องขังอย่างลับๆ
“ฉันสามารถสวดสายประคำอย่างลับๆหลังจากที่ฉันทำเป็นนอนหลับบนเตียง”
“ฉันรู้สึกใกล้ชิดกับพระเจ้าในเวลานั้น ฉันพูดในใจว่า “พระเยซูเจ้า เวลานี้ลูกไม่มีสิ่งใดนอกจากพระองค์เท่านั้น โปรดอย่าให้ลูกละทิ้งพระองค์เลย”
นางลู่ถูกกล่าวหาว่าเป็นสมาชิกขององค์กรฆราวาสคาทอลิก นั่นคือ “คณะพลมารีย์” ซึ่งถูกพิจารณาว่าเป็นพวก "ต่อต้านการปฏิวัติ” จากทางการจีน
เธอยังถูกกล่าวหาว่าภักดีต่อพระสันตะปาปาโดยปฏิเสธที่จะเข้าร่วมกับสมาคมคาทอลิกจีนรักชาติที่เป็นของรัฐบาล
หลังจากถูกจองจำเป็นเวลานาน 20 ปี เธอได้รับการปล่อยตัวในปี 1980 นางลู่ได้ขอลี้ภัยไปอยู่ออสเตรเลีย เธอไปพร้อมกับสามี ยอห์นบอสโก ลู่ ซึ่งเขาก็ถูกขังเป็นเวลานาน 22 ปี
ปัจจุบันนี้ทั้งสองได้สังกัดอยู่ที่โบสถ์ St. Michael Parish ในเมือง Hurstville ทางตอนใต้ของซิดนีย์ นางลู่ได้ช่วยสอนคำสอนให้แก่ผู้ลี้ภัยชาวจีนมากกว่าสิบปี เธอสอนพวกเขาตัวต่อตัวในภาษากวางตุ้ง หรือ จีนกลาง เธอได้ช่วยคนหลายร้อยคนให้มาสู่ความเชื่อในพระศาสนจักรคาทอลิก
คุณพ่อ Janusz Bieniek พระสงฆ์ประจำโบสถ์ St. Michael กล่าวเกี่ยวกับนางลู่ว่า
“เธอเป็นคนที่กระตือรือร้นมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานที่เกี่ยวกับการแพร่ธรรมกับชาวจีนที่ตั้งใจจะมาเป็นคริสตชน”
“เธอรวบรวมพวกเขา พูดคุยกับพวกเขาเป็นส่วนตัวและติดต่อกับพวกเขาเสมอ ให้กำลังใจแก่พวกเขา”
“เธอเป็นพยานยืนยันและซื่อสัตย์ต่อความเชื่อ และในเวลาเดียวกันเธอก็สงบเงียบ ผู้คนรู้เกี่ยวกับอดีตของเธอ ประสบการณ์และความทุกข์ทรมานที่เธอได้รับ แต่เธอไม่ได้คุยโอ้อวดในเรื่องนี้”
“เธอมีความคิดบวกและไม่เคยพูดเกี่ยวกับความเกลียดชังหรือการแก้แค้นเลย เธอไม่มีความโกรธ และนั่นเป็นสิ่งที่สร้างความประทับใจให้แก่ผู้คน”
นางลู่บอกว่าเธอได้ให้อภัยแก่ผู้ที่จับกุมเธอ
“คนเหล่านั้นทำตามหน้าที่ของเขาเท่านั้น พวกเขาก็เป็นผู้เคราะห์ร้ายของระบอบคอมมิวนิสต์”
ในตอนที่เธอถูกจับกุมนั้น เธอมีอายุเพียง 25 ปี และกำลังหมั้นอยู่กับสามีในอนาคต
ก่อนที่จะหมั้นนั้น นางลู่ตั้งใจจะเข้าคณะนักบวชคาร์เมลไลท์ แต่ได้เปลี่ยนใจเมื่อยอห์นบอสโกลู่ บอกรักเธอ
นางลู่อยู่ในเรือนจำเดียวกันกับสามีของเธอ ทั้งคู่ได้แต่เพียงสบตากัน หรือพูดจากันสั้นๆ หรือส่งสัญญาณความคิดถึงกันเท่านั้น นั่นแสดงถึงการลงโทษที่รุนแรงของทั้งสอง
หลังจากได้ปล่อยตัวเป็นอิสระ นางลู่ได้เขียนจดหมายถึงสามีที่ยังอยู่ในคุก บอกถึงความรักของเธอที่มีต่อเขา เมื่อยอห์นบอสโก ลู่ ถูกปล่อยตัว ทั้งสองจึงได้เข้าพิธีแต่งงานกันในปี 1979
10ปี หลังจากแต่งงาน ยอห์นบอสโก ลู่ ก็เสียชีวิตจากโรคหัวใจล้มเหลว หลังจากที่เขาได้รับศีลมหาสนิทในระหว่างพิธีมิสซา และนางลู่ก็ได้อยู่เคียงข้างเขาในเวลานั้น
“ฉันขอบพระคุณพระเจ้าที่โปรดให้เขาเสียชีวิตอย่างสงบและโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเขาได้รับศีลมหาสนิทแล้ว” เธอกล่าว
นางลู่ยังได้สูญเสียพี่ชาย ปอล อีกด้วย เขาถูกจองจำเป็นเวลานาน 15 ปี ได้ทิ้งภรรยาและลูก 8 คนไว้เบื้องหลัง
พระสงฆ์และแม่ชีจากกวางซูหลายคนก็ถูกจองจำด้วย รวมทั้งพระอัครสังฆราชโดมินิก ตัง ยี มิง (Dominic Tang Yee-ming) ท่านถูกจองจำนานถึง 22 ปีโดยไม่ได้รับการไต่สวน
นางลู่ขอบคุณพระเจ้าที่โปรดให้เธอมีชีวิตที่ยืนยาวเพื่อที่เธอจะสามารถเล่าเรื่องราวของเธอแก่ประชาชนชาวจีนเป็นจำนวนมากได้
“ขอให้สวดภาวนาเพื่อประเทศจีน สถานการณ์ในประเทศจีนเวลานี้เลวร้ายยิ่งขึ้นสำหรับพวกเรา...พวกเขาต้องการทำลายทุกศาสนา”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น