Benigna Cardoso da Silva (เบนิกนา คาร์โดโซ ดา ซิลวา) เด็กหญิงอายุ 12 ปี พยายามรักษาความบริสุทธิ์ถึงแม้จะต้องแลกด้วยชีวิต เธอเป็นเหมือน นักบุญมารีอา กอเร็ตตี “มรณะสักขีแห่งความบริสุทธิ์” ท่านนักบุญได้ต่อสู้กับชายหนุ่มที่พยายามจะทำร้ายพรหมจรรย์ของเธอ เธออ้อนวอนเขาไม่ให้ทำบาป แต่ชายหนุ่มไม่ยอมและแทงเธอด้วยมีดหลายแผลจนเธอเสียชีวิตในที่สุด มารีอา กอเร็ตตีได้รับการสถาปนาเป็นนักบุญในปี 1950 เวลานี้พระศาสนจักรกำลังพิจารณาเพื่อสถาปนาเด็กหญิงอีกผู้หนึ่งที่ประกอบวีรกรรมเช่นเดียวกับนักบุญมารีอา กอเร็ตตี
เบนิกนา คาร์โดโซ ดา ซิลวา เด็กหญิงอายุ 12 ปี (15 ต.ค. 1928 - 24 ต.ค. 1941) อาศัยอยู่ในซานตานา โด คาริรี, ประเทศบราซิล บิดาของเธอเสียชีวิตก่อนที่เธอจะเกิดมา มารดาได้มอบเธอและพี่ชายของเธอให้แก่ครอบครัวอื่นเลี้ยงดูแทน และหนึ่งปีต่อมา,มารดาของเธอก็เสียชีวิตไปด้วย เบนิกนาเป็นเด็กที่นิสัยดีมาก เธอชอบช่วยทำงานบ้าน และทำดีต่อผู้อื่น เธอมีความศรัทธามาก เธอมีความปรารถนาที่จะรับศีลมหาสนิทตั้งแต่อายุยังน้อย และหลังจากได้รับศีลมหาสนิทครั้งแรกแล้ว เธอก็ปฏิญาณตนที่จะปฏิบัติตามพระบัญญัติ 10 ประการอย่างเคร่งครัด
เธอไปร่วมพิธีมิสซาสม่ำเสมอไม่เคยขาด และทำพลีกรรมในวันศุกร์ต้นเดือนเพื่อถวายแด่ดวงพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า เบนิกนาอ่านพระคัมภีร์และขอคำปรึกษาจากคุณพ่อเจ้าอาวาสอยู่เป็นประจำ
การอ่านพระคัมภีร์ทำให้ความเชื่อของเธอเข้มแข็ง และเสริมสร้างพลังแก่เธอที่จะต่อสู้กับความประสงค์ร้ายของเด็กชายคนหนึ่งที่กำลังเพ่งมองมาที่เธอ
ในปี 1941 เมื่อเบนิกนามีอายุ 12 ปี เด็กชาย ไรมุนโด อัลเวส รีเบอรีโอ มักจะเรียกว่า ราอุล ซึ่งมีอายุใกล้เคียงกับเบนิกนา ได้พยายามชักชวนเธอให้ทำบาปแต่เธอปฏิเสธคำชักชวนของเขา และเธอ
ยังได้ไปขอคำแนะนำจากคุณพ่อเจ้าอาวาส Cristiano Coelho Rodrigues ในเรื่องนี้ซึ่งท่านได้แนะนำให้เธอปฏิเสธและขัดขืนความต้องการของเขา เด็กชายรีเบอรีโอ ยังชักชวนเธออีก และเบนิกนาปฏิเสธอีกเช่นเดิม ทำให้เด็กชายรู้สึกโกรธแค้นมาก หนึ่งสัปดาห์ต่อมาเบนิกนาต้องไปตักน้ำในบริเวณที่เปลี่ยวแห่งหนึ่งซึ่งเด็กชายผู้นี้รู้จักดี ในตอนบ่ายของวันที่ 24 ต.ค. 1941 เด็กชายซ่อนตัวอยู่ที่พุ่มไม้คอยให้เบนิกนามาถึง เมื่อเบนิกนากำลังจะตักน้ำเขาก็กระโดดเข้าไปจับตัวเธอ แต่เบนิกนาขัดขืนและต่อสู้ทำให้เด็กชายโมโหมาก เขาเอามีดที่ติดตัวมาด้วยกระหน่ำแทงเบนิกนาสี่ครั้ง การแทงครั้งแรกได้ตัดนิ้วจากมือขวาของเบนิกนาไปสามนิ้ว ครั้งที่สองแทงที่หน้าผาก ครั้งที่สามแทงที่ท้อง และครั้งที่สี่แทงที่คอของเบนิกนาทำให้เธอเสียชีวิตทันที เบนิกนาเสียชีวิตตอนบ่ายสี่โมง เด็กชายหนีไปเมื่อรู้ว่าเธอเสียชีวิตแล้ว ต่อมาพี่ชายของเบนิกนา Cirineu ซึ่งออกมาตามหาเบนิกนาก็ได้มาพบศพของเธอซึ่งเปื้อนไปด้วยเลือด ได้มีการทำพิธีศพของเบนิกนาในวันที่ 25 ต.ค. และตำรวจได้ออกตามล่าตัวฆาตกร ในตอนแรกตำรวจสงสัย Cirineu พี่ชายของเบนิกนา แต่ต่อมาเขาก็ถูกปล่อยตัวเมื่อจับกุมตัว รีเบอรีโอ ได้แล้ว ฆาตกรถูกพิพากษาตัดสินให้จำคุก
ในปี 1991 รีเบอรีโอ ได้รับการปล่อยตัวออกจากคุก เขาเดินทางไปยังสถานที่กระทำฆาตกรรมและแสดงความสำนึกผิดเสียใจในสิ่งที่ได้กระทำไป
วันที่ 26 พฤษภาคม 2012 ร่างของเบนิกนาถูกดคลื่อนย้ายไปไว้ที่โบสถ์ Santana do Cariri
แบบอย่างแห่งวีรกรรมของเบนิกนาเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ชาวบ้านบริเวณนั้นและทั่วประเทศบราซิล ในปี 2011 มีการเสนอเรื่องราวของเบนิกนาไปยังวาติกันเพื่อการสถาปนาเป็นนักบุญ วันที่ 2 ต,ค. 2019 พระสันตะปาปาฟรังซิสได้รับรองวีรกรรมแห่ง “มรณสักขี” ของเบนิกนาอย่างเป็นทางการ เป็นการปูทางเพื่อประกาศให้เธอเป็นนักบุญต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น