วันอาทิตย์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2562

บุตรสิรา

 

พระคัมภีร์เต็มไปด้วยความประหลาดใจ และมีเรื่องราวที่ให้แรงบันดาลใจ, มีคำแนะนำสั่งสอนจำนวนมากที่เป็นประโยชน์สำหรับการดำเนินชีวิตของเรา,ถ้าหากเรารู้จักที่จะนำมาพิจารณาไตร่ตรอง

ยกตัวอย่างเช่นหนังสือของ Sirach (บุตรสิรา)

คุณรู้หรือไม่ว่าผู้แต่งหนังสือเล่มนี้เป็นชายที่มีชื่อว่า “เยซู” ?

นี่เป็นเรื่องจริง: เยซูผู้นี้มาก่อนหน้าพระเยซูคริสต์ประมาณสองร้อยปีและเป็นบุตรชายของเอเลอาซาร์และนางซีราค Eleazar and Sirach (เขายังเป็นที่รู้จักในนาม “บุตรสิรา” Ben Sira)

ผู้ประพันธ์ เป็นนักปราชญ์ที่อาศัยอยู่ในกรุงเยรูซาเล็ม เขาภูมิใจเป็นอย่างมากและมีความรักในธรรมประเพณีแห่งภูมิปัญญาของยิว รวมทั้งกฎบัญญัติ, ฐานะปุโรหิต, พระวิหาร, และการนมัสการอันศักดิ์สิทธิ์” (ข้อสังเกตจาก เว็บไซต์ของบิชอปสหรัฐฯ)
“ในฐานะผู้สังเกตการณ์ชีวิตที่ชาญฉลาดและมีประสบการณ์, เขาได้พูดแนะนำแก่ผู้ที่อยู่ร่วมสมัยของเขาด้วยปรารถนาจะช่วยให้พวกเขารักษาความศรัทธาและความเชื่อทางศาสนาผ่านการศึกษาหนังสือศักดิ์สิทธิ์และธรรมประเพณีของชาวยิว”

หนังสือบุตรสิรา(Sirach)เป็นหนึ่งใน"หนังสือปรีชาญาณ" ซึ่งรวมอยู่ในพระคัมภีร์คาทอลิก แต่ไม่รวมอยู่ในหนังสือพระคัมภีร์ของชาวยิวและโปรเตสแตนต์

และปรีชาญาณมีอยู่มากมายในบุตรสิรา  ตัวอย่างเช่น 

“จงรวดเร็วในการฟัง แต่ช้าในการพูด” ซีรัค 5:13, เป็นการเตือน “ให้เรายับยั้งคำพูดและรอบคอบที่จะตอบในเวลาที่เหมาะสม”

“มีมิตรมากไว้เป็นการดี แต่จงมีที่ปรึกษาเพียงคนเดียวในหนึ่งพันคน” ซีรัค 6: 6 คำพูดนี้ชี้ให้เห็นว่า มีความจำเป็นที่ต้องมองให้เห็นทุกด้านของชีวิต – ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกวัน “จงสอบสวนให้ถี่ถ้วนก่อนจะตำหนิ จงคิดให้ดีก่อนจะกล่าวโทษ” ซีรัค 11: 7 “อย่าพาผู้ใดเข้ามาในบ้าน เพราะคนเจ้าเล่ห์มีอุบายมากมาย” (11:29) และบทต่อไปนี้น่าจะเป็นคำแนะนำที่ดีสำหรับการช่างพูดของเรา:

“จงฟังให้ดีก่อนจะตอบ อย่าสอดแทรกขณะที่ผู้อื่นกำลังพูด” (11: 8)

“อย่าอิจฉาความรุ่งเรืองของคนบาป เพราะท่านไม่รู้ว่าจุดจบของเขาจะเป็นอย่างไร” (11: 9) หนังสือเล่มนั้นเตือนเราว่า
พระเจ้าคือความยุติธรรมขั้นสูงสุด ไม่มีใครหนีพ้นการกระทำความชั่วของเขาได้ (ผลลัพท์อาจได้รับในชีวิตหลังความตาย) เป็นการดีที่จะระลึกถึงสิ่งนี้ในขณะที่อยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยคนอธรรมที่มีชื่อเสียง

“จุดเริ่มต้นของความเย่อหยิ่ง คือความดื้อรั้นของมนุษย์ที่ละทิ้งองค์พระผู้เป็นเจ้า” ซีรัค (10:12) ความดื้อรั้นอยู่ในบาปเป็นบาปที่ยิ่งใหญ่ในยุคสมัยของเรา! ความเย่อหยิ่งคือความอวดดี ความเห็นแก่ตัวและความภาคภูมิใจในตนเองที่เกินจริง และสิ่งนี้คือสิ่งที่ทำให้ซาตานถูกขับไล่ออกจากสวรรค์

“คนพูดเก่งเป็นที่รู้จักทั่วไป แต่เมื่อเขาพูดพลาด คนฉลาดก็จับผิดเขาได้ทันที” (21: 7)

“ใจของคนโง่เขลาอยู่ที่ปาก แต่ปากของผู้มีปรีชาอยู่ที่ใจ” (21:26)

“สำหรับผู้ตาย ,ไว้ทุกข์เจ็ดวันก็เพียงพอ แต่สำหรับคนโง่และคนอธรรม ต้องไว้ทุกข์ให้ทุกวันตลอดชีวิตของเขา” (22:11)

“โปรดทรงกระทำเครื่องหมายอัศจรรย์ใหม่ๆ และกระทำปาฏิหารย์อื่นๆ โปรดทรงสำแดงพระสิริรุ่งโรจน์และพระอานุภาพของพระองค์เถิด” (36: 5) บางคนอาจต้องการทดสอบพระเจ้าโดยวอนขอพระเจ้าให้ทรงประทานอัศจรรย์ใหม่ๆ!
แต่:
“ถ้าความฝันไม่ได้มาจากพระผู้สูงสุด ก็จงอย่าเชื่อความฝันนั้น” (34: 6)

และในที่สุด บทนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับคำทำนาย:
“พระผู้สูงสุดทรงทราบทุกสิ่ง และทรงสังเกตเห็นเครื่องหมายแห่งอนาคต พระองค์ทรงประกาศทั้งสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วและสิ่งที่จะเกิดขึ้น และทรงเปิดเผยร่องรอยของสิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่” (42: 18-19) อดีตที่ผ่านมาจะเป็นเรียนสำหรับในอนาคต เพื่อนำไปใช้คาดการณ์อนาคตของเรา

และขอให้จำสิ่งนี้ไว้เสมอ ข้อแรกสุดในหนังสือบุตรสิรา (1: 1):
“ปรีชาญาณทั้งมวลมาจากองค์พระผู้เป็นเจ้าและอยู่กับพระองค์ตลอดไป”

**********************

 

2 ความคิดเห็น:

  1. เพิ่งมีโอกาส​ได้อ่าน​หนังสือศักดิ์สิทธิ์ของ"บุตรอิสิรา"
    เป็นข้อคำสอนและให้ข้อคิด​ในแต่ละเรื่อง​สั้น​กระชับ​ ที่
    สามารถนำไปใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน​ให้พบกับความสุขสงบในจิตใจ...
    . ทุกคน​ มนุษยชาติ​ควรได้อ่านและเพ่งพิศอย่างลุ่มลึก(รำพึง)​บ่อยๆ​เป็นประจำ

    ตอบลบ