วันอาทิตย์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2563

น้ำท่วมในพระธรรมเก่า และการตรึงกางเขน



เหตุการณ์ตรึงกางเขนของพระเยซูเจ้า เป็นการพิพากษาของพระเจ้าต่อบาปของโลก ที่พระเจ้าทรงกระทำอย่างน่าอัศจรรย์ใจ
 
ตามธรรมประเพณีของพระศาสนจักรได้เปรียบเทียบไม้กางเขนของพระเยซูเจ้ากับสำเภาไม้ของโนอาห์ที่ช่วยชีวิตมนุษย์ 8 คนกับสัตว์ต่างๆจำนวนหนึ่ง ดังที่มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ปฐมกาล (นักบุญออกัสตินได้เขียนอธิบายเรื่องนี้) ถ้าเรือสำเภาของโนอาห์เป็นรูปแบบของไม้กางเขนของพระเยซูเจ้า แล้วน้ำท่วมล่ะ, จะเป็นรูปแบบของอะไร?
 
ความสัมพันธ์ระหว่างไม้ที่ใช้ทำเรือสำเภา และน้ำท่วมนั้นได้ถูกนิยามไว้ ณ. ที่เนินเขาโกลโกธา
 
ในเหตุการณ์น้ำท่วม, น้ำได้กลืนกินทุกสิ่งทุกอย่างบนแผ่นดินโลกทั้งมวล มีเพียงสำเภาของโนอาห์เท่านั้นที่ยังคงอยู่ เป็นสิ่งที่ใหญ่โตและยิ่งใหญ่ที่สุดในเวลานั้น และในเหตุการณ์การตรึงกางเขนของพระเยซูเจ้า ไม้กางเขนเป็นเครื่องหมายของความรอด และเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เช่นเดียวกัน
 
น้ำท่วมในปฐมกาลเป็นแหล่งที่มาของความตาย น้ำซัดกระหน่ำเรือสำเภาอันเป็นสิ่งปกป้องสรรพชีวิตที่อาศัยอยู่ข้างใน แต่ในพระวรสารของยอห์น น้ำได้หลั่งออกมาจากสีข้างของพระเยซูเจ้าและเป็นแหล่งที่มาของชีวิต เป็นสัญลักษณ์ของน้ำแห่งศีลล้างบาป ความสัมพันธ์ระหว่างไม้และน้ำได้เกื้อหนุนซึ่งกันและกัน สิ่งหนึ่งนำไปสู่อีกสิ่งหนึ่ง
 
ในเหตุการณ์ตรึงกางเขนของพระเยซูเจ้า, น้ำเป็นเครื่องหมายที่เกิดมาจากการพิพากษาแห่งพระเมตตาของพระเจ้า หรือก็คือ มาจากองค์พระคริสตเจ้า การพิพากษาของพระเจ้ากลายเป็นพระเมตตาต่อมนุษย์ทั้งหลาย ตามที่นักบุญโทมัส อะไควนัสได้เขียนอธิบายไว้ในหนังสือ Summa Theologica ว่า “ในการทำให้คนอธรรมกลับกลายเป็นคนชอบธรรม พระยุติธรรมได้ปรากฏให้เห็น เมื่อพระเจ้าทรงอภัยบาปของมนุษย์ด้วยพระทัยรักของพระองค์ พระเจ้าทรงประทานความรักให้อย่างสมบูรณ์ด้วยพระเมตตาของพระองค์เอง”
 
สำเภาของโนอาห์ทำด้วยไม้ที่ปิดทึบทั้งลำ มีช่องหนึ่งที่เปิดเพื่อให้แสงสว่างส่องเข้ามาได้(ปฐ 6:16).และมีช่องอื่นๆ คือประตูที่อยู่ด้านข้างของเรือ นักบุญออกัสตินได้เขียนอธิบายเรื่องนี้ในหนังสือ City of God,ว่า “และเรือมีช่องประตูที่ถูกสร้างขึ้นอยู่ด้านข้างของเรือ สิ่งนี้หมายถึงรอยบาดแผลที่พระสีข้างของพระเยซูเจ้าที่ถูกทำขึ้นด้วยการใช้หอกแทงขณะที่ทรงอยู่บนไม้กางเขน”
 
เมื่อพิจารณาให้ดี,จะเห็นความแตกต่างอย่างหนึ่ง ในปฐมกาลเรื่องน้ำท่วม, พระเจ้าทรง “ปิด” ประตูเรือหลังจากที่โนอาห์และครอบครัว และสัตว์ต่างๆได้เข้าไปในสำเภาเรียบร้อยแล้ว (ปฐ 7:16) บนไม้กางเขน, พระเจ้าทรง “เปิด” พระสีข้างออก พระเจ้าทรงเปิดโลกให้แก่พวกเรา ไม้กางเขนได้กลายเป็นเครื่องมือของเราในการเอาชนะโลก เราไม่ต้องกลัวลมพายุแห่งโลกนี้ “ในโลกนี้ ท่านจะมีความทุกข์ยาก แต่อย่าท้อแท้ เราชนะโลกแล้ว” (ยอห์น 16:33)
 
พระเจ้าทรงเปิดประตูสวรรค์ให้แก่พวกเรา สำเภาของโนอาห์เปรียบเหมือนสวนเอเดนที่ลอยน้ำ ที่ล้อมรอบด้วยความตายและการทำลายล้างซึ่งซัดกระหน่ำผนังเรือ แต่สำเภาเป็นที่ลี้ภัยแห่งชีวิต
 
พระเจ้าทรงเปิดพระองค์เองแก่พวกเรา พระองค์ทรงเชื้อเชิญเราให้มามีส่วนร่ามกับพระองค์  ยุคสมัยของพระธรรมเก่า, เป็นโลกแห่งกำแพงกั้นและมีขอบเขตอาณาบริเวณ อาดัมและเอวาอาศัยอยู่ในสวนที่ปิดกั้นจากโลกภายนอก ทะเลแดงได้แบ่งแยกชาวอิสราแอลจากพวกอิยิปต์ และในแผ่นดินแห่งพระสัญญาเอง ชาวอิสราแอลก็ถูกบังคับด้วยกฎบัญญัติที่เข้มงวด มีหีบแห่งพันธสัญญาและพระวิหารเป็นศูนย์กลาง
 
แต่บรรทัดฐานที่โดดเด่นของยุคสมัยแห่งพระธรรมใหม่นั้นเป็นไปในทางตรงกันข้าม คือเป็นการข้ามพ้นขอบเขตที่กั้นขวางไว้ พระเจ้าทรงข้ามพ้นเขตแดนที่แยกสวรรค์และโลกออกจากัน พระองค์ทรงข้ามพ้นหุบเหวช่องว่างแห่งบาปที่แบ่งแยกมนุษย์จากพระเจ้า และในที่สุด, พระเจ้าก็ทรงข้ามพ้นสิ่งกีดขวางที่แยกชีวิตออกจากความตาย
 
ความโดดเด่นที่สำคัญสุดยอดของความสัมพันธ์ระหว่างเหตุการณ์น้ำท่วมและการตรึงกางเขนของพระเยซูเจ้าได้กลับกลายเป็นความหวังให้แก่เรา พระเจ้าทรงนำสาระของเรื่องราวน้ำท่วมมาใช้ใหม่ให้กลายเป็นเครื่องมือแห่งการไถ่กู้ให้รอดสำหรับมนุษย์ทุกคน สิ่งนี้คือความหวังอย่างแท้จริง การไถ่บาปของพระเจ้านั้นช่างยิ่งใหญ่ยอดเยี่ยม พระองค์ไม่เพียง แต่ช่วยมนุษย์ให้รอดพ้นจากน้ำท่วมเท่านั้น แต่พระองค์ยังทรงชำระล้างน้ำนั้นด้วย และทรงใช้น้ำที่หลั่งมาจากพระสีข้างของพระเยซูเจ้าให้เป็นเครื่องมือในการ “ไถ่บาปมนุษย์”

***************************

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น