พระนามที่มอบให้กับพระจิตเจ้านั้นจะต้องกระตุ้นจิตวิญญาณของบุคคลใดก็ตามที่ได้ยินพระนามนี้ และทำให้พวกเขาตระหนักอย่างแน่ชัดว่า พวกเขากำลังพูดถึงพระเจ้า, พระผู้สูงสุด พระองค์ทรงถูกเรียกว่าพระจิตของพระเจ้า, พระจิตแห่งความจริงที่ทรงรับมาจากพระบิดา , จิตแห่งความมั่นคงแน่วแน่, และจิตผู้นำทางมิใช่หรือ? แต่พระนามที่แสดงถึงพระบุคคลของพระองค์ที่สำคัญที่สุดก็คือ พระจิตบริสุทธิ์ศักดิสิทธิ์, องค์พระเจ้าสูงสุด
สิ่งสร้างที่มีชีวิตทั้งมวลต้องการการชำระให้บริสุทธิ์โดยพระจิตเจ้า ทุกสรรพชีวิตแสวงหาพระองค์ตามความสามารถของพวกเขา ลมหายใจของพระองค์ช่วยให้แต่ละชีวิตบรรลุจุดประสงค์ตามธรรมชาติของตัวเอง
พระจิตเจ้าทรงเป็นแหล่งที่มาของความศักดิ์สิทธิ์, เป็นแสงสว่างฝ่ายจิต, และพระองค์ทรงประทานแสงสว่างของพระองค์แก่สติปัญญาของทุกคนเพื่อช่วยพวกเขาในการค้นหาความจริง โดยธรรมชาติแล้วพระจิตเจ้าอยู่เหนือสติปัญญาของเราที่จะเข้าใจได้ แต่เราสามารถรู้จักพระองค์ได้จากความดีงามของพระองค์ พระฤทธานุภาพของพระจิตเจ้าเติมเต็มทั่วทั้งจักรวาล แต่พระองค์ทรงมอบพระองค์เองเฉพาะแก่ผู้ที่เหมาะสมมีค่าคู่ควรเท่านั้น พระองค์ทรงประทานแก่แต่ละคนตามระดับของความเชื่อของพวกเขา
พระองค์ทรงเรียบง่าย, พระจิตเจ้าทรงปรากฏอยู่ในผลงานอันยิ่งใหญ่ทั้งหลายของพระองค์ พระองค์ทรงปรากฏอยู่ในแต่ละสรรพสิ่งอย่างครบถ้วน ทรงปรากฏอยู่ในทุกหนทุกแห่ง ถึงแม้จะทรงดำรงอยู่ในแต่ละสรรพสิ่ง แต่พระองค์ก็ไม่เปลี่ยนแปลง การที่ทรงมอบพระองค์เองไม่ได้ทำพระองค์สูญเสียความเป็นอยู่ของพระองค์ ดุจดังแสงอาทิตย์ที่แทรกซึมอยู่ทั่วทั้งบรรยากาศ, แผ่กระจายไปทั่วพื้นดินและทะเล และแต่ละคนก็มีความสุขเกษมสันต์, ราวกับว่าเป็นความยินดีในพระองค์แต่เพียงผู้เดียว ดังนั้นพระจิตเจ้าจึงทรงหลั่งพระหรรษทานของพระองค์อย่างอุดมบริบูรณ์, เพียงพอสำหรับทุกคน เป็นพระหรรษทานที่มากล้นเพียงพอสำหรับทุกคนที่สามารถรับพระองค์ได้ สำหรับสิ่งสร้างทั้งมวลที่มีส่วนร่วมในพระองค์ พระองค์ทรงประทานความปิติสุขให้ตามความจำกัดโดยธรรมชาติของสิ่งสร้างนั้น ไม่ใช่โดยความสามารถของพระองค์ในการทรงประทานให้
พระจิตเจ้าทรงยกหัวใจของเราขึ้นสู่สวรรค์, ทรงนำทางย่างก้าวของผู้อ่อนแอ, และทรงทำให้ผู้ประสงค์ความก้าวหน้าฝ่ายจิตได้ไปสู่ความสมบูรณ์ดีพร้อม พระองค์ทรงส่องสว่างแก่ผู้ที่ได้รับการชำระล้างจากบาปทุกประการและทำให้จิตวิญญาณของพวกเขาร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ ..
เมื่อแสงสว่าง (ของพระจิตเจ้า) ซึ่งเปล่งประกายเจิดจ้าส่องกระทบจิตวิญญาณ และจิตวิญญาณมีความสดใสกระจ่างจ้ากลายเป็นแสงสว่างมากขึ้น วิญญาณนั้นก็ได้รับพระจิตเจ้า, วิญญาณกลายเป็นจิตด้วยตัวเองและเป็นแหล่งของพระหรรษทานสำหรับผู้อื่น
พระจิตเจ้าทรงทำให้วิญญาณนั้นทราบล่วงหน้าถึงอนาคต, เข้าใจความลึกลับแห่งความเชื่อ, มองเห็นความหมายที่ซ่อนอยู่ในพระคัมภีร์และของประทานพิเศษอื่นๆ โดยผ่านทางพระจิตเจ้าเรากลายเป็นพลเมืองแห่งสวรรค์, เราเข้าสู่ความสุขนิรันดรและดำรงอยู่ในพระเจ้า
จากหนังสือของ Saint Basil the Great, Bishop, on the Holy Ghost, บทที่ 9 หมายเลข 22-23
***************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น