วันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

เราจะรู้ได้อย่างไรว่าสิ่งใดมาจากพระเจ้า



วิคก้า ได้อธิบายเรื่องนี้ว่า “เมื่อบางอย่างมาจากพระเจ้า เราจะรู้สึก สงบสุข, มีความยินดี และมีสันติสุข”
 
“เพราะคุณจะรู้สึกไม่ดี ถ้าคุณมีความกลัวในหัวใจ”
 
เมื่อคุณรู้สึกกลัว , สับสน, ขึ้งโกรธ นั่นย่อมมาจากศัตรู คุณไม่สามารถไว้ใจความรู้สึกของตัวคุณเองได้ ถ้าคุณไม่มีความสงบสันติภายในตัวคุณเอง แน่นอนว่า ความทุกข์เป็นสิ่งที่ไม่อาจอธิบายได้ มันอยู่ในหัวใจของแต่ละคน แต่เมื่อพระเจ้าประทานความทุกข์แก่เรา เป็นไม้กางเขนสำหรับเราและเป็นความเจ็บปวด สิ่งนี้ถือเป็นพระพรที่ยิ่งใหญ่
 
เรามักจะคิดว่า ความเจ็บป่วยจะเป็นพระพรได้อย่างไร? แต่มันเป็นพระพรที่ยิ่งใหญ่ พระเจ้าเท่านั้นที่ทรงทราบว่า ทำไมพระองค์จึงประทานพระพรยิ่งใหญ่นี้แก่เรา พระองค์ทรงทราบเหตุผลและพระองค์จะทรงนำกลับคืนไป มันขึ้นอยู่กับเราว่าจะยอมรับพระพรนี้อย่างไร เราทำได้ด้วยการสวดภาวนาว่า “ขอขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับพระพรนี้ พระองค์ทรงมีบางอย่างที่ต้องการประทานแก่ลูก ลูกพร้อมแล้วที่จะยอมรับ ลูกวอนขอแต่เพียงพระองค์ประทานความเข้มแข็งและความกล้าหาญเพื่อที่ลูกจะสามารถแบกรับไว้ได้”
 
“แม่พระยังทรงบอกเราว่า ‘ลูกไม่รู้หรอกว่าความทุกข์ของลูกนั้นมีคุณค่ายิ่งใหญ่สักเพียงไรในสายพระเนตรของพระเจ้า‘ มีความทุกข์ที่แตกต่างกัน มีความทุกข์ซึ่งพระเจ้าทรงประทานให้ และความทุกข์ที่เราสร้างมันขึ้นมาเอง นี่เป็นความทุกข์สองแบบที่แตกต่างกัน และมันมีคุณค่าที่ไม่เหมือนกัน เราต้องพยายามยอมรับความทุกข์ซึ่งพระเจ้าทรงประสงค์เท่านั้นและเราต้องขอบพระคุณพระองค์ที่ทรงประทานพระพรที่ยิ่งใหญ่นี้แก่เรา แล้วนั้น, พระหรรษทานและผลลัทพ์ที่ดีก็จะติดตามมาในไม่ช้า และเราจะสามารถพูดได้ว่า “ฉันได้รับความทุกข์, ฉันเจ็บป่วย” พระเจ้าทรงทราบดี จงยอมรับมัน อย่าพูดถึงมันให้มากนัก คนที่ยังคงพูดได้, นั่นย่อมไม่ใช่ความทุกข์
 
ความทุกข์คือการมีชีวิตอยู่ในวิญญาณและในหัวใจของเรา พระเจ้าพร้อมเสมอที่จะให้การรักษา แต่สำหรับพระเจ้ามันไม่ง่ายเลยที่เขาจะให้พระพรนี้แก่เรา เพราะมีปัญหา ปัญหาเหล่านี้คืออะไร? มันคล้ายกับแบบนี้ คือ หลายครั้งเมื่อมีปัญหาหรือความทุกข์ยากสำหรับลูก ของเรา, สามีของเรา, หรือเพื่อนบ้านของเรา เราวอนขอพระเจ้าอย่างสุดใจเพื่อให้พระองค์ทรงเยียวยารักษาความทุกข์ของพวกเขา เราพร้อมที่จะยอมรับทุกสิ่ง, ยอมทำทุกอย่าง, เราคุกเข่าสวดอ้อนวอนเป็นชั่วโมง แต่เฉพาะช่วงเวลานั้นเท่านั้น
 
“แม่พระทรงพร้อมที่จะประทานพระหรรษทานที่เราร้องขอ และหลายครั้ง, พระหรรษทานถูกประทานให้เพื่อแสดงให้คนๆนั้นรู้ว่าพระเจ้าทรงอยู่ใกล้เขา แต่พระแม่มารีย์ยังตรัสด้วยว่า พระเมตตานั้นไม่ควรให้อย่างพร่ำเพรื่อ เพราะว่าหลังจากได้รับอัศจรรย์แล้ว, บางคนมีพฤติกรรมเลวร้ายยิ่งกว่าแต่ก่อนเสียอีก และในครั้งต่อไปที่พวกเขาต้องการพระหรรษทานพิเศษ, พวกเขาคาดหวังว่าจะได้รับตามความปรารถนาอีกเป็นครั้งที่สอง พวกเขาคิดว่า 'พระเจ้าทรงประทานให้ [การรักษา] มาครั้งหนึ่งแล้ว ดังนั้นฉันต้องได้รับ [การรักษา] อีกในครั้งนี้ด้วย' ด้วยเหตุนี้, เราจะเริ่มทำเป็นเล่นๆกับพระคุณเหล่านี้ของพระเจ้า
 
“แม่พระตรัสกับเราว่า ‘ไม่มีปัญหาสำหรับพระหรรษทาน แม่สามารถให้พวกเขาได้โดย วอนขอจากองค์พระบุตรของแม่ แม่สามารถสวดอ้อนวอนขอพระพรเหล่านี้และให้แก่พวกเขา แต่ปัญหาอยู่ที่หัวใจของลูก ลูกทุกคนวอนขอการเยียวยารักษาความเจ็บไข้ฝ่ายร่างกาย แต่มีน้อยคนที่วอนขอการเยียวยารักษาหัวใจ เมื่อหัวใจของลูกเริ่มได้รับการรักษาแล้ว ร่างกายของลูกก็จะเริ่มได้รับการรักษาด้วย' เราต้องสวดอธิษฐานเพื่อให้มีความเชื่อที่มีชีวิตชีวา เราควรสวดอ้อนวอนทุกวันวอนขอพระพรนี้และของประทานนี้จะเจริญเติบโตขึ้นทุกวันในหัวใจของเรา”

**********************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น