วันเสาร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

ภัยพิบัติ


โคโรน่าไวรัส

ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในโลกเป็นเครื่องมือที่พระเจ้าทรงใช้ เพื่อกำจัดความหลงผิดของมนุษย์ และเปิดเผยให้เห็นถึงความจริงของพระองค์
 
ในพระคัมภีร์พระธรรมเดิม, เรื่องเกี่ยวกับภัยพิบัติ 10 ประการที่พระเจ้าทรงส่งมาลงโทษอียิปต์นั้น เหตุผลที่พระองค์ทรงส่งภัยพิบัติมา, ไม่ใช่เพียงเพราะฟาโรห์มีใจตื้อกระด้างไม่ยอมปล่อยชาวอิสราแอลให้ออกจากอิยิปต์เท่านั้น แต่พระเจ้ายังทรงมีพระประสงค์ที่สำคัญอีกประการหนึ่ง นั่นคือ การต่อสู้กับความเชื่อในเทพเจ้าเท็จเทียมของชาวอิยิปต์ด้วย ชาวอิยิปต์มีการเคารพพระเท็จเทียมจำนวนมาก และนั่นเป็นความอ่อนแอที่สุดและน่าอดสูที่สุดในสายพระเนตรของพระเจ้าเที่ยงแท้ซึ่งมีเพียงพระองค์เดียวเท่านั้น (ดูอพยพ 7 ถึง 11)
 
ผู้ที่อ่านพระคัมภีร์ของเรื่องราวในตอนนี้ เมื่อมองดูผิวเผิน, ก็จะคิดว่าเป็นเรื่องของความขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่างฟาโรห์กับโมเสสที่มีพระเจ้าอยู่เคียงข้าง แต่ถ้าพิจารณาให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นก็จะรู้ว่านัยสำคัญนั้นอยู่ที่ในตัวภัยพิบัติเอง ซึ่งบ่งบอกถึงลักษณะของเทพเจ้าเท็จเทียมแต่ละชนิดอย่างสมเหตุกสมผล อาทิเช่นภัยพิบัติจาก โรคระบาด, น้ำกลายเป็นเลือด, ลูกเห็บและฝูงตั๊กแตน

ตัวอย่างเช่น กบ หมายถึงเทพเจ้า Heket, เทพเจ้าแห่งความอุดมสมบูรณ์ที่มีหัวเป็นกบ มีรูปภาพปรากฏอยู่ในศิลปะอียิปต์โบราณ กบถูกมองว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระเจ้าทรงทำให้มีฝูงกบจำนวนมากขึ้นมาทั่วแผ่นดินอิยิปต์ เข้าไปในบ้านเรือนของชาวอิยิปต์และพระราชวังของฟาโรห์, เป็นนัยสำคัญว่าพระเจ้าทรงอยู่เหนือกว่าเทพเจ้า Heket, พระเท็จเทียมตนนี้ และเมื่อพระเจ้าทรงกำจัดฝูงกบไปจากบ้านเรือนของชาวอิยิปต์ เป็นการยืนยันว่าพระเจ้าทรงมีอำนาจสูงสุดเหนือสรรพสิ่ง พระองค์คือผู้ที่เป็นต้นกำเนิดของชีวิตไม่ใช่เทพเจ้าแห่งความอุดมสมบูรณ์ของอียิปต์
 
ภัยพิบัติบางอย่างอาจดูไม่สอดคล้องกับลักษณะของเทพเจ้าโบราณ แต่มีความเกี่ยวข้องกับอำนาจของเทพเจ้าเหล่านั้น ตัวอย่างเช่น เทพแห่งแม่น้ำไนล์, Hapi ซึ่งชาวอิยิปต์จะเคารพบูชา เพราะถือว่าเป็นผู้นำความชุ่มชื่นและความอุดมสมบูรณ์ เมื่อพระเจ้าทรงเปลี่ยนน้ำในแม่น้ำไนล์ให้กลายเป็นเลือด พระองค์ทรงแสดงให้ชาวอิยิปต์เห็นว่า เทพ Hapi ไม่ได้มีอำนาจใดๆเลย เป็นพระเจ้า,พระยาห์เวห์ที่ทรงควบคุมแม่น้ำไนล์ ไม่ใช่พระเจ้าเท็จเทียมHapi  ลักษณะแบบเดียวกันนี้เกิดขึ้นอีก ฝีร้ายที่เกิดกับชาวอิยิปต์และสัตว์ของพวกเขา แต่ชาวยิวและสัตว์ของชาวยิวไม่เป็นอันตราย ภัยพิบัตินี้เปรียบเทียบกับ ไอซิส, เทพเจ้าแห่งการเยียวยารักษา ฝูงยุงที่เกิดจากฝุ่น เปรียบเทียบกับ Geb, เทพเจ้าแห่งแผ่นดิน; และความมืดมิด 3 วันทั่วแผ่นดินอิยิปต์เปรียบเทียบกับ Ra , เทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์

Khepri, เทพเจ้าแห่งการเนรมิตและการเกิด, มีหัวเป็นเหลือบริ้น
 
ตารางด้านล่างนี้เปรียบเทียบภัยพิบัติแต่ละชนิดกับเทพเจ้าของชาวอียิปต์โบราณที่สัมพันธ์กัน


                    ภัยพิบัติ

        เทพเจ้าของอิยิปต์(Deity)

1. น้ำแม่น้ำไนล์กลายเป็นเลือด

1. Hapi, เทพเจ้าแห่งแม่น้ำไนล์

2. ฝูงกบขึ้นมาทั่วบ้านเรือนของชาวอิยิปต์

2. Heket, เทพเจ้าแห่งความอุดมสมบูรณ์ซึ่งมีหัวเป็นกบ

3. ฝูงยุงที่มาจากฝุ่น

3. Geb, เทพเจ้าแห่งแผ่นดิน

4. ฝูงเหลือบริ้น

4. Khepri, เทพเจ้าแห่งการเนรมิตและการเกิด, มีหัวเป็นเหลือบริ้น

5. ฝูงสัตว์ของชาวอิยิปต์ล้มตาย

5. Hathor เทพแห่งการปกป้องคุ้มครองมีหัวเป็นวัว

6. ฝีร้ายเกิดขึ้นในคนและสัตว์ของชาวอิยิปต์.

6. Isis, เทพแห่งการเยียวยารักษา

7. ลูกเห็บและฟ้าผ่า

7. Nut, เทพเจ้าแห่งท้องฟ้า

8. ฝูงตั๊กแตน

8. Seth, เทพแห่งพายุและหายนะภัยต่างๆ

9. ความมืดมิด 3 วัน

9. Ra, เทพแห่งดวงอาทิตย์

10. ความตายของบุตรหัวปีของชาวอิยิปต์

10. คือฟาโรห์เอง ซึ่งถือเป็นเทพเจ้าองค์หนึ่งด้วย

ภัยพิบัติต่างๆที่พระเจ้าทรงบันดาลให้เกิดกับชาวอิยิปต์ แสดงให้เห็นว่าเทพเจ้าทั้งหลายของชาวอิยิปต์นั้นไม่ได้มีอำนาจแต่อย่างใดเลย
 
ภัยพิบัติ 10 ประการทำให้ความคิดของชาวอียิปต์ที่คิดว่า พวกเขาสามารถควบคุมธรรมชาติได้ต้องพังทลายลง อารยธรรมอียิปต์โบราณตั้งอยู่บนความเชื่อที่ว่า เป็นสิ่งที่เป็นไปได้ที่จะจัดการและควบคุมธรรมชาติ – โดยใช้ระบบชลประทานและการพัฒนาทางเกษตรกรรมในระดับสูงซึ่งทำให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ได้ในทะเลทราย ภัยพิบัติ 10 ประการได้แสดงให้เห็นแล้วว่าการควบคุมธรรมชาติของชาวอียิปต์เป็นเพียงภาพลวงตา

โมเสสและฟาโรห์
ภัยพิบัติทำให้ชาวอียิปตสูญเสียเกือบทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นความเชื่อในเทพเจ้าเท็จเทียม, ทรัพยากรธรรมชาติของพวกเขา, และความคิดที่จะควบคุมสิ่งต่างๆ ภัยพิบัติเป็นวิธีในการลอกคราบความเชื่อต่างๆของพวกเขา ซึ่งทำให้พวกเขามีความภาคภูมิใจในความยิ่งใหญ่, ในความอุดมสมบูรณ์ สิ่งเหล่านี้ทำให้พวกเขามีความหลงผิดไปพึ่งพาเทพเจ้าเท็จเทียมที่พวกเขาสร้างขึ้นมาเอง
 
เมื่อภัยพิบัติประการสุดท้ายจบลงแล้ว, สิ่งที่เหลืออยู่คืออะไร? ภัยพิบัติบ่งชี้ไปยังความเป็นจริงถึงอะไร? ดังที่พระเจ้าทรงสั่งโมเสสให้ไปบอกฟาโรห์ในตอนแรกว่า “พระองค์จะทรงทราบว่าเราคือพระยาห์เวห์จากเหตุการณ์นี้” (อพยพ 7:17) พระเจ้าเท่านั้นที่ทรงมีอำนาจนำฝูงตั๊กแตนมาและกำจัดมันออกไป มีเพียงพระเจ้า, พระผู้สร้างที่แท้จริงที่สามารถปิดบังแสงของดวงอาทิตย์ พระองค์เท่านั้นที่ทรงเป็นผู้ควบคุมกฏของธรรมชาติ
 
เรารู้ว่าพระเจ้าส่งภัยพิบัติมาเพราะพระคัมภีร์กล่าวไว้เช่นนั้น การระบาดใหญ่ของโคโรน่าไวรัส โควิด-19 ในปัจจุบันนี้, ไม่มีการเปิดเผยเป็นพิเศษที่บ่งบอกให้เรารู้ว่า พระประสงค์ของพระเจ้าที่ทรงอนุญาตสิ่งนี้เกิดขึ้นเป็นเพราะอะไร? แต่เช่นเดียวกับภัยพิบัติ 10 ประการจากเรื่องราวในพระคัมภีร์ไบเบิล วิกฤติการระบาดของโรคโคโรนาไวรัส ก็อาจคาดเดาได้ว่าบ่งบอกถึงวิถีชีวิตของเราในปัจจุบันที่ไม่แตกต่างไปจากชาวอิยิปต์ในสมัยนั้นมากนัก เราเคยมีใจแข็งกระด้างต่อพระวาจาของพระเจ้าหรือไม่? เราเคยบูชาเทพเจ้าเท็จเทียมอะไรบ้าง? เราทำอะไรกับธรรมชาติบ้าง? แหล่งวัตถุดิบทางธรรมชาติอะไรที่เราได้ใช้ไปแล้วและอาจจะหมดไปในไม่ช้า? เราสามารถพึ่งพาผู้ใดในช่วงเวลาที่ยากลำบากเหล่านี้?
 
ภัยพิบัติมีวิธีเปิดเผยความจริงของพระเจ้า ขอให้เราพิจารณาในเรื่องนี้

*********************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น