วันศุกร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2563

การบังเกิดของแม่พระ



หลายศตวรรษผ่านไปนับตั้งแต่พระเจ้าทรงสัญญากับบิดามารดาคู่แรกของเราที่ประตูสวรรค์ว่าจะทรงประทานพระผู้ไถ่แก่มนุษย์(Messiah) ตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมาประชาชนชาวอิสราเอลมีชีวิตอยู่ด้วยความหวังของคำสัญญาของพระเจ้า โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่สาวพรหมจารีย์ผู้หนึ่งจากราชวงศ์ดาวิด, ผู้ซึ่งจะตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตรชายที่จะเรียกว่าเอ็มมานูเอลซึ่งแปลว่า 'พระเจ้าสถิตย์กับเรา' (อิสยาห์ 7 : 14). ชาวอิสราเอลผู้ศรัทธารุ่นแล้วรุ่นเล่า, เฝ้าตั้งตารอคอยการประสูติของพระมารดาของพระเมสสิยาห์, ผู้ซึ่งจะมาเป็นผู้นำของพวกเขา ตามที่ประกาศกมีคาห์กล่าวไว้บนพื้นฐานของคำพยากรณ์ของอิสยาห์ (มีคาห์ 5: 2)
 
วันที่ 8 กันยายน เราฉลองวันเกิดของพระแม่มารีย์ พระศาสนจักรฉลองจุดเริ่มต้นของการไถ่กูมนุษยชาติ โดยการบังเกิดมาในโลกของพระนางมารีย์ผู้ที่จะเป็นพระมารดาของพระผู้ช่วยให้รอด พระนางมารีย์มีภารกิจและบทบาทที่ไม่เหมือนใครในประวัติศาสตร์แห่งความรอด พระนางมีภารกิจสูงสุดยิ่งกว่าสิ่งสร้างใดๆ เราดีใจที่พระมารดาของพระเจ้าเป็นแม่ของเราด้วยเช่นกัน เรามักเรียกพระแม่มารีย์ว่า "เหตุแห่งความยินดีของชาวเรา" ซึ่งเป็นหนึ่งในพระนามของแม่พระที่ไพเราะที่สุดในบทเร้าวิงวอนของแม่พระ
 
คัมภีร์อะโปรกรีฟา apocryphal ซึ่งเป็นคัมภีร์นอกสารบบที่พระศาสนจักรไม่ได้นำมารวมไว้ด้วย เป็นคัมภีร์ที่เขียนขึ้นในศตวรรษที่สองที่เรียกว่า Protoevangelium of James จากคัมภีร์นี้ได้บอกเราให้รู้ถึงชื่อบิดามารดาของพระนางมารีย์ คือ ยออากิมและอันนา (หรือโจอาคิมและแอนน์) ซึ่งพระศาสนจักรได้จารึกวันฉลองของทั้งสองท่านไว้ในปฏิทินพิธีกรรม ธรรมประเพณีต่างๆได้ระบุสถานที่เกิดของพระนางมารีย์ว่าอยู่ในแคว้นกาลิลี หรือที่น่าจะเป็นไปได้มากกว่าคืออยู่ในเยรูซาเล็ม, นครศักดิ์สิทธิ์ โดยมีการพบซากปรักหักพังของมหาวิหารไบแซนไทน์จากศตวรรษที่ห้าสร้างขึ้นเหนือสถานที่เรียกว่า "บ้านของนักบุญอันนา"(House of St.Anne) อยู่ใกล้บ่อน้ำ Probatic Pool ในหนังสือบุตรสิรา, มีข้อความบางตอนซึ่งอาจหมายถึงสถานที่เกิดของพระนางมารีย์โดยกล่าวว่า : “ข้าพเจ้าจึงตั้งที่พำนักอยู่ในศิโยน พระองค์ทรงให้ข้าพเจ้าพักผ่อนในนครที่ทรงรัก อำนาจของข้าพเจ้าอยู่ในกรุงเยรูซาเล็ม ข้าพเจ้าหยั่งรากในประชากรที่รุ่งเรือง ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเลือกไว้เป็นมรดกของพระองค์” (บุตรสิรา 24: 11-12)
 
ก่อนการบังเกิดของพระนางมารีย์, โลกอยู่ในความมืดมิด, ห่อหุ้มด้วยเงามืดของบาป เมื่อพระนางทรงถือกำเนิด, รุ่งอรุณแห่งความรอดก็เกิดขึ้นพร้อมกับการประกาศวันที่จะมาถึง ขณะเดียวกัน, พระศาสนจักรก็สวดภาวนาในวันฉลองการบังเกิดของพระแม่มารีย์ว่า: "โดยการบังเกิดของพระนาง, พระมารดาของพระเจ้า, พระนางทรงนำความสุขความยินดีมาสู่คนทั้งโลก โดยทางพระนาง, ดวงอาทิตย์แห่งความยุติธรรม, พระคริสตเจ้าพระเจ้าของเรา, จึงได้ทรงมาสู่โลก" (บทสวดสรรเสริญแม่พระ) .
 
แต่โลกก็ยังคงไม่ล่วงรู้ถึงการบังเกิดของพระนางมารีย์ โลกกำลังหลับไหล
 
“เมื่อถึงเวลาที่กำหนดไว้, พระเจ้าทรงส่งพระบุตรของพระองค์ให้มาบังเกิดจากหญิงผู้หนึ่ง เกิดมาอยู่ใต้ธรรมบัญญัติ เพื่อทรงไถ่ผู้ที่อยู่ใต้ธรรมบัญญัติ และทำให้เราเป็นบุตรบุญธรรม” (กาลาเทีย 4: 4-5) พระเจ้าทรงเอาพระทัยใส่อย่างยิ่งในการคัดสรรผู้ที่จะเป็น ลูกสาว, คู่สมรส, และมารดาของพระองค์ และพระแม่มารีผู้บริสุทธิ์ยิ่ง, ทรงเป็นสตรีที่สูงส่งที่สุด, เป็นสิ่งสร้างที่พระเจ้าทรงรักมากที่สุด พระองค์ทรงสร้างสรรค์พระนางมาเป็นพิเศษให้บังเกิดมาโดยปราศจากบาปกำเนิด(ปฏิสนธินิรมล) พระนางบังเกิดมาท่ามกลางความเงียบสงัดของฤดูใบไม้ร่วง ขณะที่ทุ่งนาพักผ่อนนอนหลับ ผู้คนที่อาศัยอยู่ในเวลานั้น, ไม่มีใครล่วงรู้และตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้น มีเพียงเทวดาในสวรรค์เท่านั้นที่บรรเลงเพลงประสานด้วยความชื่นชมยินดี
 
“สุขสันต์วันเกิดแด่พระมารดาพรหมจารีย์มารีย์ แม่ผู้น่ารักยิ่งของชาวเรา"


***********************

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น