Our Lady of Chiquinquira
รูปข้างบนนี้คือรูปแม่พระแห่งสายประคำ เรียกอีกชื่อหนึ่งว่ารูปแม่พระแห่งชิคินคิวรา รูปนี้เคยเสียหายจนมองแทบไม่เห็นเป็นรูปภาพ พระรูปถูกย้ายมาอยู่ที่เมืองชิคินคิวราในประเทศโคลัมเบีย และได้กลายเป็นองค์อุปถัมภ์ของประเทศโคลัมเบีย ชาวเวเนซูเอลาก็นับถือรูปนี้เช่นกันและเรียกรูปนี้ว่า ลาชินิตา เรื่องราวมหัศจรรย์ของพระรูปนี้เป็นดังนี้
ในตอนกลางศตวรรษที่ 16 จิตรกรชาวสเปนชื่อ อาลองโซ เดอ นาร์วาส ได้วาดรูปแม่พระแห่งสายประคำขึ้น เขาใช้สีที่ทำมาจากดิน สมุนไพร และดอกไม้ ที่มีอยู่ในบริเวณประเทศโคลัมเบียใหม่ ส่วนผืนผ้าใบนั้นทำด้วยผ้าทอด้วยฝีมือของชาวอินเดียนท้องถิ่นมีชนาด 44 นิ้ว X 49 นิ้ว รูปแม่พระมีความสูงประมาณ 1 เมตร ทรงประทับยืนบนพระจันทร์เสี้ยว ทรงยิ้มเล็กน้อยอย่างอ่อนหวาน พระพักตร์ของพระนางและพระกุมารถูกระบายสีด้วยสีสว่าง ท่าทางดูเหมือนกำลังทรงก้าวย่าง พระนางทรงสวมผ้าคลุมศีรษะสีขาว พระภูษายาวสีดอกกุหลาบ และมีผ้าคลุมทับภายนอกเป็นสีฟ้า มีสายประคำแขวนจากนิ้วที่พระหัตถ์ซ้าย ส่วนพระหัตถ์ขวาทรงถือสายจำพวก พระนางอุ้มพระกุมารอยู่ทางซ้ายพระหัตถ์ และทรงทอดพระเนตรมายังพระกุมาร พระกุมารเองมีนกตัวเล็กๆเกาะอยู่ที่พระบาท มีสายประคำเส้นเล็กๆแขวนอยู่ที่พระหัตถ์ซ้ายของพระองค์ ด้านข้างของแม่พระมีนักบุญ อันตนแห่งปาดัว และนักบุญแอนดรู อัครสาวกยืนอยู่ทั้งสองข้าง นักบุญทั้งสองเป็นนักบุญองค์อุปถัมภ์ของอาณานิคมและของนักบวชที่กำลังแพร่ธรรมในกิจการของคุณพ่อ อันโตนิโอ เดอ ซานตานา และ คุณพ่อแอนเดร จาตราคิว
ในปี 1562 รูปภาพถูกแขวนไว้ที่โบสถ์น้อยในชนบทธรรมดาแห่งหนึ่ง เนื่องจากรูปภาพไม่ได้มีการปกคลุมและสัมผัสกับอากาศ อีกทั้งหลังคาโบสถ์ก็มีรอยรั่ว ในไม่ช้าความชื้นและแสงแดดก็ทำลายสีของรูปถาพจนแทบไม่เหลือร่องรอย ปี 1577 รูปภาพที่เสียหายไปแล้วถูกเคลื่อนย้ายไปอยู่ที่ชิคินคิวรา และถูกเก็บไว้ในห้องที่ไม่ใช้แล้ว ปี 1585 สตรีใจศรัทธาซึ่งมาจากเซวิล ชื่อ มาเรีย รามอส มาทำความสะอาดโบสถ์น้อยชิคินคิวรานี้ เธอได้แขวนรูปภาพที่สีจางไปแล้วไว้ที่โบสถ์ และเธอชอบที่จะนั่งลงและจ้องมองพลางคิดรำพึงที่รูปแม่พระนี้ ถึงแม้ว่ารูปจะอยู่ในสภาพที่มองไม่เห็นความงามเลยก็ตาม
ในวันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม 1589 รูปภาพที่สีซีดจางและทรุดโทรมแล้วได้กลับคืนสภาพดีดังเดิมในทันทีทันใด สีที่ซีดจางได้กลับสดใส ผืนผ้าใบสะอาดหมดจด รูปภาพก็ชัดเจนและดูเหมือนเพิ่งวาดใหม่ๆ รูเล็กๆหลายรูที่ผืนผ้าใบและส่วนที่ฉีกขาดได้หายไป ผืนผ้าใบกลับมีสภาพดีเป็นปกติ ราวกับว่ารูปภาพนั้นรักษาสภาพของมันได้เอง แต่ก็ยังคงทิ้งร่องรอยที่เสียหายเอาไว้เล็กน้อยเพื่อเป็นประจักษ์พยาน
เมื่อดูรูปภาพในระยะห่างจะรู้สึกว่ารูปมีความสดใสและชัดเจนมากกว่าเมื่อมองในระยะใกล้ชิด รูปภาพยังคงแขวนไว้ที่โบสถ์นี้ต่อมาเป็นเวลานาน 300 ปี โดยไม่มีสิ่งใดปกคลุม มีผู้แสวงบุญมาชมรูปภาพนี้เป็นจำนวนมาก บางคนสัมผัสพระรูป ดังนั้นรูปภาพบนผืนผ้าใบที่บอบบางและไม่ได้รับการปกป้องจึงต้องรับการสัมผัสกับหลายๆสิ่งจากบรรดาผู้แสวงบุญและจากสภาพแวดล้อมโดยรอบ ด้วยสภาวะการดูแลรักษาเช่นนี้น่าจะทำให้รูปภาพต้องเสียหายไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็ดูเหมือนรูปภาพจะยังคงรักษาตัวเองและคงอยู่ได้โดยไม่เสียหายเลย
ปี 1829 พระสันตะปาปาปีโอที่ 7 ทรงประกาศให้แม่พระแห่งชิคินคิวราเป็นองค์อุปถัมภ์ของประเทศโคลัมเบีย และทรงให้มีการประกอบพิธีกรรมเป็นกรณีพิเศษขึ้น ในปี 1897 จึงได้มีการติดตั้งกระจกหนาวางทับบนพระรูปเพื่อป้องกันพระรูปจากอากาศและจากการสัมผัสด้วยความศรัทธาของผู้คนจำนวนมากที่มาแสวงบุญ ในปี 1919 ได้มีการสวมมงกุฎให้กับแม่พระ และในปี 1927 โบสถ์ที่พระรูปแขวนอยู่ได้รับการประกาศให้เป็นอาสนวิหาร
*******************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น