วันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

พระเมตตาครั้งสุดท้าย

 
 
มีอะไรเกิดขึ้นกับคนที่พยายามฆ่าตัวตาย? นี่เป็นคำถามที่น่าคิด.
 
นางแบบสาวที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งชื่อ คาเร็น มีความเครียดมากอันเนื่องมาจากการหย่าจากสามี เธอมีอาการหูแว่วและได้ยินเสียงพูดว่า "ข้าจะมาจัดการกับเจ้า" - (อาจจะเป็นเสียงของปีศาจก็ได้) .
 
คาเร็นเล่าต่อไปว่า สัปดาห์ต่อมาเธอรู้สึกซึมเศร้า,หดหู่สิ้นหวัง เธอพยายามฆ่าตัวตายด้วยการทานยากล่อมประสาท. เธอเล่าเรื่องของเธอให้ Carol และ Arvin Gibson ผู้เขียนเรื่องของเธอลงในหนังสือชื่อ Echoes from Eternity
 
เมื่อรถพยาบาลถูกเรียกมา, หัวใจของคาเร็นหยุดเต้นแล้ว, และแพทย์พยายามปั๊มหัวใจของเธอ "ในช่วงเวลานั้น ฉันรู้สึกว่ายังมีสติอยู่, แต่ถูกห้อมล้อมด้วยความมืดมิด" คาเร็นบรรายให้ผู้เขียนหนังสือ
 
"รอบๆตัวฉันเป็นสีดำเหมือนน้ำมันดิบ. แล้วมีเสียงของผู้ชายพูดกับฉัน. เป็นเสียงที่แตกต่างจากเสียงที่ฉันได้ยินในครั้งแรก. เสียงนั้นพูดว่า "เธอมีทางเลือก. เธอจะอยู่ที่นี่, หรือเธอจะกลับไป. ถ้าเธออยู่ที่นี่, เธอจะถูกลงโทษตามความยุติธรรมทันที"
 
ด้วยความหวาดกลัว, แน่นอน, คาเร็นเลือกที่จะกลับไป. นั่นเป็นพระเมตตาครั้งสุดท้าย, ตามคำพูดของเธอ
 
"ฉันจึงไม่สงสัยเลยว่า ถ้าคุณคิดที่จะฆ่าตัวตายละก็, นรกกำลังคอยคุณอยู่แน่นอน อาจจะมีนรกที่แตกต่างกันไปสำหรับแต่ละคน, สำหรับฉันแล้ว ความมืดมิดเป็นความทุกข์ทรมานอย่างที่สุด" เธอยังโชคดีที่ยังได้รับพระเมตตา
 
อันดับต่อมาที่เธอรู้ก็คือ เธอเห็นร่างกายของเธอเองในห้องที่โรงพยาบาล เธอมองลงมายังร่างกายของเธอ (ซึ่งอยู่ในสถาพใกล้ตาย) ในขณะที่เธอกำลังมองอยู่นั้น, นายแพทย์ลงความเห็นว่าเธอเสียชีวิตแล้ว.
 
บิดาของคาเร็นเป็นมอร์มอนและเลี้ยงดูเธอแบบมอร์มอน ภายหลังจากที่แม่ของเธอแต่งงานใหม่, ก็ได้เปลี่ยนมาเป็นคาทอลิก. การทดสอบของเธอยังไม่สิ้นสุดเพียงแค่การพยายามฆ่าตัวตาย (ซึ่งเธอได้รอดพ้นมาได้). คาเร็นได้แต่งงานใหม่. แต่อดีตก็กลับมาซ้ำรอยเดิม, ในปี 1988, สามีคนที่สองก็ทิ้งเธอไปกับผู้หญิงอื่น. แต่ครั้งนี้เธอกำลังตั้งครรภ์. คาเร็นตัดสินใจทำสิ่งที่เลวร้ายที่สุด, เธอไปทำแท้ง.
 
หลังจากเสร็จสิ้น "ขบวนการทำแท้ง" , เธอพักอยู่ที่ห้องพักผ่อนและเธอก็เริ่มมีอาการตกเลือด. "ฉันหวาดกลัวมาก, และเริ่มสวดภาวนา. ฉันภาวนาว่า : พระเป็นเจ้า, โปรดอภัยบาปให้ลูกในสิ่งที่ลูกได้ทำไปด้วยเถิด. โปรดนำวิญญาณของทารกที่ถูกทำลายไปสู่สวรรค์ด้วย - โปรดอภัยบาปของลูก. และโปรดอย่าให้ทารกรู้สึกเจ็บปวดเหมือนอย่างที่ลูกรู้สึกนี้เลย"
 
ไม่นานประมาณหนึ่งปีหลังจากการทำแท้ง. คาเร็นเป็นมะเร็งในลำไส้และเธอก็ใกล้จะตายอีก. เธอมีเพื่อนชายคนหนึ่งที่เป็นคาทอลิก. เมื่อเขารู้ว่าคาเร็นจะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้, เขาถามคาเร็นว่าเธอต้องการจะทำอะไรในโลกนี้ถ้าหากเธอเลือกได้ คาเร็นตอบว่า "ฉันอยากจะเป็นคาทอลิก"
 
ตามคำบอกเล่า, คาเร็นได้เดินไปยังโบสถ์คาทอลิกที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับบ้านของเธอ. เธอคุกเข่าที่พระแท่นที่ซึ่งขณะนั้นเธอคิดว่าเธอสิ้นหวังเสียแล้ว"
 
"อย่างไรก็ตาม, เพื่อนชายของฉันได้ไปพูดคุยกับพระสงฆ์, และเขาบอกกับท่านว่าฉันอาจต้องตาย, และความต้องการสุดท้ายก่อนที่จะเสียชีวิต คือการเข้าเป็นคาทอลิก "
 
"วันต่อมา พระสงฆ์ได้มาเยี่ยมฉันที่โรงพยาบาล. ท่านได้ถามเกี่ยวกับความปรารถนาที่จะเป็นตาทอลิก. ฉันยืนยันกับท่านว่านั่นเป็นสิ่งที่ฉันต้องการ."
 
"พระสงฆ์ได้อธิบายว่าท่านสามารถให้ฉันรับศีลเจิมผู้ป่วยได้: เป็นศีลของผู้ใกล้ตายหรือผู้ป่วย. แล้วฉันก็ได้เข้าเป็นคาทอลิกและได้รับศีลนั้น. ฉันยังได้รับศีลมหาสนิทที่เตียงด้วย. ทำให้ฉันมีความสงบในจิตใจมาก. "
 
"ในทันใดนั้น, ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าฉันจมลงไปในกระแสน้ำ, น้ำท่วมฉันทั้งตัว. ความรู้สึกนี้เป็นอยู่ประมาณสักนาที. เป็นความรู้สึกว่ามีบางคนนำฉันจุ่มลงไปในกระแสน้ำ. "
 
"นั่นเป็นประสบการณ์ที่น่ากลัวที่สุดเท่าที่ฉันเคยมีมา"
 
"เมื่อความรู้สึกสงบสุขเข้ามาห้อมล้อมตัวฉัน, ฉันเห็นพระสงฆ์กำลังยืนที่ปลายเตียง." ท่านพูดว่า "มีบางอย่างที่มหัศจรรย์เกิดขึ้น" ท่านดูมีความสงบมาก. แล้วท่านพูดต่อว่า "เธอรู้ไหม, เธอได้รับการรักษาให้หายจากโรคมะเร็งแล้ว. และพ่อก็รู้สึกได้"
 
แต่ยังไม่จบเพียงเท่านี้. อีกหนึ่งเดือนหลังการผ่าตัด, แพทย์ยังคงคิดว่าเธอหมดหวังที่จะหาย. แพทย์คนหนึ่งในทีมบอกกับคาเร็นให้เตรียมตัวตายและสำหรับการถูกฝัง. แต่ปรากฏว่าได้มีอัศจรรย์เกิดขึ้นแทน."
 
"หลังจากกลับมาเป็นคาทอลิก, ฉันสวดภาวนาและรำพึงไตร่ตรองตลอดเวลาที่รับการรักษาด้วยคีโมเทราปี. การสวดภาวนา และรำพึงไตร่ตรองทำให้ฉันเข้มแข็งในความเชื่อและให้พลังแก่ฉันที่จะอดทนต่อความเจ็บปวด" 

 "ประมาณหนึ่งปีครึ่งผ่านไป ขณะที่ฉันกำลังสวดภาวนาและพิจารณาไตร่ตรองอยู่นั้นก็มีสิ่งที่น่าประทับใจเกิดขึ้น มีผู้หนึ่งมาเยี่ยมฉัน เมื่อฉันลืมตาขึ้น,ฉันก็ได้เห็นพระแม่มารีย์ "พระมารดาของพระเยซูเจ้า" 
 
ฉันพูดขึ้นว่า "ทำไมจึงเป็นลูก? ลูกมีคุณค่าอะไรที่พระแม่จะเสด็จมาเยี่ยม ? , ลูกไม่มีคุณค่าเพียงพอเลย"
 
"พระนางตรัสว่า พระนางมาเพื่อตอบแทนความเชื่อและการสวดภาวนาของฉัน. เพราะการสวดภาวนาทำให้ฉันสามารถพูดคุยกับพระนางได้"
 
"พระนางยังตรัสว่าฉันได้รับการอภัยบาปในความผิดที่ได้ทำมาในอดีตแล้ว"
 
"พระนางทรงบอกจุดประสงค์ของพระนาง, คือต้องการให้ฉันทำงานพิเศษบางอย่าง" ทรงมอบสาส์นของพระนางให้แก่ทุกคนภายหลังจากที่ทรงเสด็จมาจากนรก(หรือไฟชำระ) ?
 
"จุดประสงค์ของแม่ในการมาที่นี่, เพื่อจะบอกว่ามีชีวิตภายหลังความตาย, และมีพระเป็นเจ้าผู้ทรงรักพวกเราทุกคน - พระเป็นเจ้าผู้ทรงเปี่ยมด้วยการให้อภัย."
 
"ความรักที่พระเป็นเจ้าทรงมีต่อเรานั้น, เราควรพยายามที่จะจารึกไว้ในจิตใจและมอบต่อไปให้แก่คนอื่น. จุดประสงค์ที่พวกเรามาอยู่ที่นี่,ในโลกนี้,เพื่อเรียนรู้ว่าชีวิตคืออะไรและเราต้องพยายามเอาชนะอุปสรรคทั้งปวง. ชีวิตเป็นการฝึกสอนขัดเกลาเรา. ไม่ว่าจะมีเหตุการณ์หรือสถานการณ์ใดๆเกิดขึ้น, เราต้องพยายามทำให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้, นี่คือสิ่งที่พระเป็นเจ้าทรงขอร้องพวกเรา"
 
*********************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น