วันเสาร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

สวดภาวนาเวลาเช้า

 
  

แสงอาทิตย์สาดส่องท้องนภา

มวลบุปผางดงามยามสดใส

เสียงนกร้องเป็นสัญญาณกังวาลไกล

ให้วันใหม่ประสพสุขทุกชีวี

เช้าวันนี้ตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่น

จิตระรื่นสัมผัสทิพย์สถาน

แห่งพิภพอันมีมาแต่ช้านาน

จิตวิญญาณถวายแด่พระภูมี

ขอแซ่ซ้องร้องประกาศพระการุณ

แห่งพระผู้ทรงค้ำจุนทุกสรรพสิ่ง

ให้ดำรงคงอยู่คู่ภูมินทร์

พระเมตตามิรู้สิ้นมิรู้คลาย

ขอวันนี้ใช้ชีวีมีความหมาย

ให้ความรักแผ่กระจายไปทุกหน

สื่อสัมพันธ์สร้างไมตรีกับทุกคน

สร้างสังคมที่ดีมีคุณธรรม

ขอพระองค์ทรงช่วยอวยพรข้า

โปรดประทานปัญญาอันแจ่มใส

ประกอบกิจการดีมีวินัย

ให้ทำตามน้ำพระทัยของพระองค์

แสงสว่างเรืองรองสาดส่องฟ้า

ท้องนภางดงามอร่ามศรี

หมู่แมกไม้ปกคลุมทั่วคีรี

ในท้องนาเขียวขจีมีพระพร

พระเยซูเจ้าทรงสวดภาวนาเสมอทั้งในเวลาเช้าและกลางคืน นางอันนา สตรีใจศรัทธาสวดภาวนาและปฏิบัติรับใช้ในพระวิหารทุกวัน นักบุญเปาโลและซีลาสสวดภาวนาและร้องเพลงสรรเสริญพระเป็นเจ้าตลอดคืน คริสตชนยุคแรกใช้เวลาสวดภาวนานานนับชั่วโมงในแต่ละวันและประชุมกันในโบสถ์แม้ในเวลากลางคืนเพื่อสวดภาวนาและอ่านบทสดุดีร่วมกัน ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงจิตใจอันศรัทธาของพวกท่านมิใช่หรือ?
 
เมื่อเราเริ่มต้นของวันในการสวดภาวนา เราเติมจิตใจของเราด้วยปรีชาญาณของพระเป็นเจ้า สันติสุข พละกำลัง ความชื่นชมยินดีและความสัมพันธ์กับพระบิดาสวรรค์ของเรา
 
การตื่นนอนแต่เช้าตรู่ทุกวันเพื่อสวดภาวนายังเป็นการเอาชนะใจตนเอง และเป็นวิธีการที่จะได้รับพระคุณของพระเป็นเจ้าด้วย เราจะพบประโยชน์อันยิ่งใหญ่ในการสวดภาวนานี้ สิ่งนี้ดูเหมือนเป็นสิ่งเล็กน้อย แต่มันช่วยสอนเราว่า โดยการเอาชนะใจของเรา ทำให้เรามีพลังในตัวเองที่จะต่อสู้กับความชั่วและการล่อลวงต่างๆ
 
ในเวลาเดียวกันก็ทำให้เราอยู่ห่างจากความกลัว ความวิตกกังวลต่อความยากลำบากในชีวิต เพียงใช้เวลาไม่กี่นาทีในตอนเช้าเพื่ออยู่กับพระบิดาสวรรค์ของเรา ก็จะทำให้ชีวิตบนโลกนี้แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง พระบิดาทรงกำลังรอคอยให้เราพูดคุยกับพระองค์ พระองค์ทรงทราบว่าเรามีกิจธุระ แต่เราสามารถพูดสวัสดีกับพระองค์ได้ ไม่ใช่หรือ?
 
********************** 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น