วันอาทิตย์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2564

สาส์นพระเยซูประทานแก่ลูซ เดอ มาเรีย

 


 
มีผู้หญิงคนหนึ่งจากคอสตาริกาชื่อลูซ เดอ มาเรีย (Luz de Maria ปัจจุบันอาศัยอยู่ในอาร์เจนตินา) ซึ่งมีรายงานว่าเธอได้รับรอยแผลลึกลับและมีประสบการณ์พิเศษมาตั้งแต่เยาว์วัย และเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2021 ลูซได้เปิดเผยสาส์นของพระเยซูดังนี้:
 
“สุดที่รักของเรา, จงพยายามทำความดีและละทิ้งความคิดที่ไม่ดีต่อพี่น้องของลูก มีการกระทำและงานมากมายที่ขัดขวางไม่ให้ลูกดำเนินชีวิตในศีลมหาสนิทอย่างถูกต้อง พยายามทำให้ลูกเข้ามาเฝ้าศีลมหาสนิทด้วยหัวใจที่ทำด้วยหิน โดยการไม่รักเพื่อนบ้านของลูก และด้วยเหตุนี้จึงทำให้พระบัญญัติข้อแรกถูกล่วงละเมิด ลูกคิดว่าลูกสามารถรักเราได้หรือในขณะที่ลูกไม่รักเพื่อนบ้านของลูก ผู้ซึ่งลูกปฏิบัติต่อเขาเหมือนฟืนที่ถูกเผาและกลายเป็นขี้เถ้า ซึ่งลูกโยนไปกับสายลมอย่างไร้ความปราณี
 
“นี่เป็นเวลาที่ลูกรอคอย, แต่โดยไม่ได้เตรียมพร้อมที่จะเป็นที่รักของเราและมอบความรักให้กับเพื่อนมนุษย์ของลูก, โดยไม่สนใจความจริงที่ว่าหากปราศจากความรักของเรา ลูกก็ไม่มีค่าอะไรเลย และเมื่อไม่มีค่าอะไรเลย, ลูกก็กลายเป็นเหยื่อของปีศาจอย่างง่ายดาย. ปีศาจของคนในรุ่นนี้
 
“พระมารดาสุดที่รักของเราได้บอกลูกล่วงหน้าแล้วว่า ปีศาจได้เตรียมมนุษย์ให้รับใช้มันและต้องรับผิดชอบต่อบาปของคนในรุ่นนี้ ซาตานดีใจมากที่ได้นำประชากรของเราไปสู่ความสับสนวุ่นวายโดยการทำตามความคิดของปีศาจ ที่ต้องการให้มนุษยชาติตรึงกางเขนเราครั้งแล้วครั้งเล่า ปีศาจดีใจมากในการเฝ้าดูมนุษย์ต้องทนทุกข์ทรมานมากขึ้นเรื่อยๆเพื่อทำให้มนุษย์หมดกำลังใจ และในที่สุดก็ต้องยอมจำนนต่อมัน(ช่างง่ายดายเหลือเกิน) แม้ว่าพวกเขาจะสูญเสียจิตวิญญาณไปแล้วก็ตาม
 
“ประชากรสุดที่รัก, จงพร้อมที่จะรับการทดสอบความเชื่อของลูก (1 ปีเตอร์ 1: 7) โดยผู้ที่ควบคุมมนุษยชาติและพวกเขาอยู่ในอาณัติของเอกะสหพันธ์ศาสนา,ซึ่งกำจัดเราออกไปเพราะมันไม่ใช่เจตจำนงของเรา แต่เป็นเจตจำนงของมนุษย์ เพื่อจุดประสงค์ของการครอบครองโลก พึงตระหนักว่าความเชื่อจะต้องถูกทดสอบในทุกด้านของชีวิตมนุษย์ จงอดทนต่อการเผชิญกับภาระหน้าที่ที่กำหนดโดยระเบียบโลก
 
“มนุษย์กำลังถูกอำนาจของโลกทำให้จนมุม, ซึ่งทำให้ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ลดลง, นำผู้คนไปสู่ความยุ่งเหยิงครั้งใหญ่และดำเนินการภายใต้การปกครองของซาตาน, โดยที่มนุษย์เคารพบูชามันด้วยจิตใจอิสระของพวกเขาเอง
 
“เรารอคอยด้วยความอดทนเพื่อให้คนบาปกลับใจและเราเรียกคนที่รักเราให้มอบตัวของเขาแก่เราอย่างครบถ้วน, เพื่อทำให้ความเชื่อของพวกเขามั่นคง,ปราศจากคำพูดและจิตใจที่ว่างเปล่า แต่ด้วยการสรรเสริญที่แท้จริงที่มาจากการปฎิบัติคุณธรรมอย่างต่อเนื่อง, ด้วยการนมัสการในการปรากฏอยู่อย่างแท้จริงของเราในศีลมหาสนิท
 
“ในช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับมนุษยชาตินี้,การโจมตีของโรค,ที่สร้างขึ้นโดยการใช้วิทยาศาสตร์ในทางที่ผิด,จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นการเตรียมมนุษยชาติ เพื่อที่จะขอเครื่องหมายของสัตว์ร้ายโดยสมัครใจ,ไม่เพียง แต่เพื่อไม่ให้ป่วยเท่านั้น, แต่เพื่อจะได้รับวัตถุสิ่งของที่จะขาดแคลนในไม่ช้า, โดยลืมสิ่งที่เป็นฝ่ายจิตวิญญาณ,เนื่องจากความเชื่อที่อ่อนแอ
 
“ช่วงเวลาแห่งความอดอยากครั้งใหญ่กำลังดำเนินไปเหมือนเงาเหนือมนุษยชาติที่กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงโดยไม่คาดคิด,ทำให้พืชผลลดลงเนื่องจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง
 
“ประชากรสุดที่รัก, จงอธิษฐานภาวนา – ความไม่สงบจะเพิ่มขึ้นในประเทศใหญ่ๆ, รวมถึงฝรั่งเศส,สหรัฐอเมริกา,อิตาลี,และสวิตเซอร์แลนด์
 
“ประชากรสุดที่รักของเรา, แผ่นดินไหวรุนแรงจะสร้างความหายนะ จงอธิษฐานภาวนาสำหรับประเทศที่เราขอให้ลูกอธิษฐานภาวนา, รวมทั้งสิงคโปร์และออสเตรเลีย
 
“ประชากรสุดที่รักของเรา, จงสวดภาวนาเพื่อพระศาสนจักรของเราซึ่งกำลังสั่นคลอน
 
“จงใคร่ครวญดูเถิดลูกที่รัก: การเดินทางโดยไม่จำเป็นจะทำให้ลูกกลายเป็นคนต่างชาติอย่างถาวรในดินแดนที่ไม่ใช่ของลูก ลูกจะอยู่กับความวิตกกังวลบริเวณพรมแดนที่ถูกปิดลงอย่างคาดไม่ถึง
 
“จงเข้ามาใกล้พระมารดาของเรา–พระนางจะนำทางลูกไปบนหนทางของเรา:“จงทำทุกอย่างที่พระองค์บอกท่าน” (ยอห์น 2: 5)
 
“ลูกทั้งหลายของเรา, จงกลับใจและมีความคิดที่ดี,อย่าทำความชั่วอีกต่อไป จง พากเพียรในความเชื่อ
 
"จงอย่ากลัว! เราจะอยู่กับลูกจนถึงวาระสุดท้าย
 
ดวงหทัยนิรมลของพระมารดาของเราจะได้รับชัยชนะ, และพวกลูกคือลูกของพระนาง”
 
                                                         ——
 
                                       ความคิดเห็นของลุส เดอ มาเรีย
 
พี่น้องชายหญิงทั้งหลาย, องค์พระผู้เป็นเจ้าที่รักของเรา,พระเยซูคริสต์,ทรงเตือนเราเพื่อว่าในฐานะบุตรที่รักของพระองค์,เราจะพยายามอย่างแน่วแน่ในชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณมากขึ้นและด้วยเหตุนี้เราจะมั่นคงในความเชื่อ
 
เราถูกเรียกครั้งแล้วครั้งเล่าให้ปฏิบัติตามบัญญัติข้อแรกของพระบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้าเพราะด้วยพระบัญญัตินี้จึงทำให้พระบัญญัติที่ตามมาบรรลุผล
 
พระเยซูคริสต์ตรัสพระวาจาเหล่านี้แก่ดิฉันหลังจากทรงประทานสาส์นแล้ว
 
“มนุษย์ปฏิเสธที่จะเข้าใจว่าสิ่งใดที่จำเป็นสำหรับจิตวิญญาณ นั่นคือการลดอัตตาของมนุษย์ และมุ่งตรงมาที่เรา, จงปฏิเสธความคิดที่ทำให้มองแต่ตัวเอง
 
พระองค์จบลงด้วยพระวาจาเหล่านี้
 
เราจำเป็นต้องใคร่ครวญในความจริงที่ว่าอัตตาของมนุษย์ไม่จำเป็นต้องถูกกำจัดออกไป แต่ต้องถูกเปลี่ยนให้นำไปสู่ “พระองค์” ผู้ทรงเป็นพระคริสต์
 
อาแมน
 
************************ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น