วันอาทิตย์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2564

พระคริสต์แสดงองค์ - ครอบครัวศักดิ์สืทธื์กลับนาซาเร็ธเมื่อไร?

 


 
เมื่อเราอ่านพระวรสารของลูกาและมัทธิว เกี่ยวกับการที่ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์กลับไปอาศัยที่นาซาเร็ธ ก็อาจสงสัยและตั้งคำถามว่าครอบครัวศักดิ์สิทธิ์กลับไปนาซาเร็ธเมื่อใดแน่ ดูเหมือนจะมีข้อความที่ขัดแย้งกันจากผู้นิพนธ์พระวรสารทั้งสอง ในฉบับของนักบุญมัทธิวได้เล่าเรื่องราวของโหราจารย์สามคนที่มาจากบูรพาทิศเพื่อเฝ้ากษัตริย์ใหม่ที่เพิ่งประสูติ แต่ฉบับนักบุญลูกาไม่ได้เล่าเรื่องนี้เลย
 
ลูกา 2:22-39
 
เมื่อครบกำหนดเวลาที่มารดาและบุตรจะต้องทำพิธีชำระมลทินตามธรรมบัญญัติของโมเสส โยเซฟพร้อมกับพระนางมารีย์นำพระกุมารไปที่กรุงเยรูซาเล็มเพื่อถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า มีเขียนไว้ในธรรมบัญญัติว่า จะต้องถวายบุตรชายคนแรกแด่พระเจ้า.......เมื่อโยเซฟพร้อมกับพระนางมารีย์ปฏิบัติตามที่ธรรมบัญญัติขององค์พระผู้เป็นเจ้ากำหนดไว้สำเร็จทุกประการแล้ว ก็กลับไปที่นาซาเร็ธ เมืองของตนในแคว้นกาลิลี”
 
[หลังจากพระเยซูประสูติแล้ว ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ยังคงอยู่ที่ถ้ำเลี้ยงสัตว์ ถึงแม้ว่าจะสามารถจะย้ายไปอยู่ที่ดีกว่านี้ได้ เพราะแม่พระมีญาติอยู่ที่กรุงเยรูซาเล็มคือนางเอลิซาเบ็ท(เยรูซาเล็มอยู่ห่างจากนาซาเร็ธไม่มากประมาณ 4-5 ก.ม.) และแม่พระเคยอยู่ที่บ้านของเธอมาก่อนแล้ว แต่เป็นพระประสงค์ของพระเจ้าที่ให้ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่ถ้ำเลี้ยงสัตว์ อย่างไรก็ดี,เอลิซาเบ็ธก็ได้มาเยี่ยมและคอยดูแลแม่พระอยู่บ่อยๆ เมื่อผ่านไป 40 วันหลังการประสูติก็ถึงเวลาที่แม่พระต้องทำพิธีชำระมลทินและนำพระเยซูกุมารไปถวายพระเจ้าในพระวิหารที่กรุงเยรูซาเล็มตามธรรมบัญญัติ]
 
มัทธิว 2:13
 
เมื่อบรรดาโหราจารย์กลับไปแล้ว ทูตสวรรค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาเข้าฝันโยเซฟ กล่าวว่า “จงลุกขึ้น พาพระกุมารและพระมารดาหนีไปอียิปต์ และจงอยู่ที่นั่นจนกว่าเราจะบอกท่าน เพราะกษัตริย์เฮโรดกำลังสืบหาพระกุมารเพื่อจะประหารชีวิต
 
มัทธิว 2:19
 
หลังจากกษัตริย์เฮโรดสิ้นพระชนม์ ทูตสวรรค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาเข้าฝันโยเซฟในอียิปต์ กล่าวว่า “จงลุกขึ้น พาพระกุมารและพระมารดากลับไปแผ่นดินอิสราเอล เพราะผู้ที่ต้องการฆ่าพระกุมารตายแล้ว” โยเซฟจึงลุกขึ้น พาพระกุมารและพระมารดากลับไปแผ่นดินอิสราเอล แต่เมื่อรู้ว่าอารเคลาอัส ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์ในแคว้นยูเดียว สืบต่อจากกษัตริย์เฮโรดพระบิดา โยเซฟก็กลัวที่จะไปที่นั่น ...เขาจึงกลับไปที่กาลิลี ไปอาศัยอยู่ในเมื่องหนึ่งชื่อนาซาเร็ธ
 
[เฮโรดตายหลังจากพระเยซูประสูติ 3 ปี ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่อิยิปต์ 3 ปีจึงได้กลับมาที่อิสราเอล]
 
เราต้องรู้ว่านักบุญมัทธิวเป็นผู้นิพนธ์พระวรสารคนแรก ท่านได้รวบรวมเรื่องราวจากคำบอกเล่าของคนที่มีส่วนในเหตุการณ์ต่างๆนี้ และพระวรสารของท่านก็แพร่หลายไปเป็นครั้งแรก นักบุญลูกาเองก็คงได้อ่านพระวรสารของนักบุญมัทธิวด้วยเช่นกัน แต่นักบุญลูกาได้ทำการตรวจสอบเพิ่มเติมจากผู้มีส่วนร่วมในเหตุการณ์อีกครั้ง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านคงได้สัมภาษณ์แม่พระ และได้รับการบอกเล่าจากแม่พระเองทีเดียว (หมายเหตุ - นักบุญมัทธิวก็คงได้รับคำบอกเล่าจากแม่พระด้วย แต่อาจมีรายละเอียดน้อยกว่า) ดังเราจะเห็นว่ามีรายละเอียดหลายอย่างที่นักบุญมัทธิวไม่ได้เขียนไว้ แต่มีอยู่ในฉบับของนักบุญลูกา เช่น เรื่องการที่แม่พระทรงได้รับการแจ้งสารจากอัครเทวดากาเบรียล, การที่แม่พระทรงไปเยี่ยมนางอาลิซาเบธ, การที่ซาคาเรียเป็นใบ้เพราะไม่เชื่อคำพูดของอัครเทวดากาเบรียล, บทสวดมักญีฟีกัต, เรื่องซีเมออนและนางอันนา ฯลฯ นั่นคือ นักบุญลูกาได้รายละเอียดมากกว่านักบุญมัทธิว แต่เหตุใดนักบุญลูกาจึงไม่ได้เขียนเกี่ยวกับโหราจารย์ที่มาจากบูรพาทิศ? อาจเป็นไปได้ที่แม่พระไม่ได้ทรงบอกเล่าแก่นักบุญลูกา หรือนักบุญลูกาอาจคิดว่านักบุญมัทธิวได้เขียนไปแล้วจึงไม่ต้องการเขียนซ้ำอีก
 
อย่างไรก็ดี ยังมีปัญหาว่าทำไมจึงมีความแตกต่างกันในเรื่องเวลาที่ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์กลับไปอาศัยที่นาซาเร็ธจากพระวรสารทั้งสองฉบับ?
 
นักบุญมัทธิวบอกว่า ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์กลับนาซาเร็ธ หลังจากเฮโรดตาย โดยเดินทางออกจากอียิปต์มาอยู่ที่นาซาเร็ธ
 
ส่วนนักบุญลูกาบอกว่า ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์กลับนาซาเร็ธ หลังจากปฏิบัติตามธรรมบัญญัติที่พระวิหารในกรุงเยรูซาเล็มสำเร็จทุกประการแล้ว โดยเดินทางออกจากกรุงเยรูซาเล็มไปที่นาซาเร็ธ
 
มีคนที่สงสัยในเรื่องนี้และบางคนก็บอกว่าเป็นความผิดพลาดของผู้นิพนธ์พระวรสาร แต่ในความคิดเห็นของผม ผมเข้าใจว่าผู้นิพนธ์พระวรสารทั้งสองท่านไม่ได้ผิดพลาด เพียงแต่บรรยายไว้ไม่ครบถ้วนเท่านั้น เมื่อพิจารณาให้ดีและนำข้อความจากพระวรสารทั้งสองมาพิจารณารวมกัน ผมมีความคิดเห็นว่าเรื่องราวน่าจะเป็นดังนี้
 
ตามข้อความของนักบุญลูกา - หลังจากปฏิบัติตามธรรมบัญญัติที่พระวิหารในกรุงเยรูซาเล็มสำเร็จทุกประการแล้ว ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ก็ตั้งใจจะกลับไปที่นาซาเร็ธเลย แต่การเดินทางไกล(ระยะทางจากเบธเลเฮมไปนาซาเร็ธเท่ากับ 65 กิโลเมตร) นั้นไม่ใช่ทำได้ง่ายๆจะต้องเตรียมจัดหาข้าวของให้พร้อมเสียก่อนโดยเฉพาะเมื่อมีพระกุมารที่เป็นทารกไปด้วย จึงต้องจัดหาเสบียงอาหาร, น้ำ, เครื่องนุ่งห่ม ฯลฯ นักบุญโยเซฟจึงต้องหาซื้อสิ่งต่างๆในกรุงเยรูซาเล็ม หลังจากนั้นก็ต้องไปร่ำลานางเอลิซาเบ็ธด้วย จึงต้องใช้เวลานานพอสมควรจนถึงช่วงบ่ายหรือเย็น ซึ่งไม่สะดวกในการเดินทาง ดังนั้นโยเซฟจึงพาพระกุมารและพระมารดากลับไปเบทเลเฮมก่อนเพื่อพักผ่อนและจะออกเดินทางในวันรุ่งขึ้น พอตกกลางคืนก็พอดีกับที่โหราจารย์มาถึง(หรือพญาสามองค์) พวกเขาได้นมัสการพระเยซูกุมารและถวายเครื่องบรรณาการ โหราจารย์ได้รับแจ้งจากเทวดาในฝันให้เดินทางกลับโดยทางอื่น(ไม่ให้ไปที่กรุงเยรูซาเล็มเพื่อแจ้งต่อเฮโรด) ต่อจากนั้นนักบุญโยเซฟก็ได้รับการเตือนจากเทวดาในฝันเช่นกันให้พาพระกุมารและพระมารดาหนีไปอียิปต์ การเดินทางไปอียิปต์ก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะนักบุญโยเซฟได้เตรียมข้าวของเสบียงไว้เรียบร้อยแล้ว จึงออกเดินทางไปอียิปต์ซึ่งอยู่ทางทิศใต้ของอิสราเอลได้ทันที(ระยะทางจากเบธเลเฮมถึงอิยิปต์ประมาณ 140 กิโลเมตร) ส่วนโหราจารย์เดินทางกลับบ้านไปทางทิศตะวันออกของอิสราเอล
 
ในวันนั้นมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นมากมายในกรุงเยรูซาเล็มและเบธเลเฮม ที่กรุงเยรูซาเล็ม,พระคริสตเจ้าทรงแสดงองค์แก่ชาวยิว โดยมีซีเมออนและนางอันนาเป็นตัวแทน และในวันเดียวกัน,ที่เบธเลเฮม,พระคริสตเจ้าทรงแสดงองค์แก่ชาวต่างชาติ โดยมีโหราจารย์ทั้งสามเป็นตัวแทน
 



เส้นทางที่นักบุญโยเซฟพาพระมารดามาจากนาซาเร็ธไปที่เบธเลเฮมระยะทาง65ก.ม. N=นาซาเร็ธ, J=เยรูซาเร็ม, B=เบธเลเฮม และจากเบธเลเฮมไปกรุงเยรูซาเล็ม และไปนาซาเร็ธ ตามพระวรสารนักบุญลูกา ถ้าเดินทางได้วันละ 10 ก.ม. ก็ต้องใช้เวลา 6-7 วันจึงจะถึงเบธเลเฮม
 


เส้นทางที่นักบุญโยเซฟพาพระกุมารและพระมารดาหนีไปอิยิปต์ระยะทาง140กม. และจากอิยิปต์กลับนาซาเร็ธ ตามพระวรสารนักบุญมัทธิว (เดินทางไปอิยิปต์ก็ต้องใช้เวลาประมาณ 15 วัน)
 
************************ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น