วันพฤหัสบดีที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2563

นางราเคลรูปแบบของพระนางมารีย์

 


 
ราเคล,สตรีในพันธสัญญาเดิมนี้,ร่างของเธอถูกฝังอยู่ใกล้กับเบธเลเฮมและมีบทบาทเป็นผู้วิงวอนขอร้องต่อพระเจ้าเพื่อชาวอิสราเอลมาหลายศตวรรษ มาพิจารณากันว่าทำไมพระนางพรหมจารีย์มารีย์จึงรับบทบาทเป็นราเคลคนใหม่
 
เราคุ้นเคยกับเรื่องราวที่น่าสะเทือนใจของทารกหลายคนที่ต้องสละชีวิตเพื่อพระเยซู,ทารกซึ่งเราเรียกว่า”ทารกผู้วิมล” พวกเขาถูกสังหารโดยคำสั่งของกษัตริย์เฮโรดผู้มีความอิจฉาและบ้าคลั่ง
 
ส่วนหนึ่งของเรื่องราวที่เราอาจไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก,คือคำทำนายที่พระวรสารนักบุญมัทธิวกล่าวว่าได้เป็นจริง(มธ.2) กล่าวถึงประกาศกเยเรมีย์ (ยม. 31):
 
[เฮโรด] ทรงสั่งให้ประหารเด็กชายทุกคนที่มีอายุตั้งแต่สองขวบลงมาในเมืองเบธเลเฮมและบริเวณใกล้เคียง พระดำรัสที่ตรัสไว้โดยประกาศกเยเรมีย์ ก็เป็นความจริงว่า “มีผู้ได้ยินเสียงในหมู่บ้านรามาห์ เป็นเสียงร้องไห้และคร่ำครวญอย่างขมขื่น นางราเคลร้องไห้อาลัยถึงบรรดาบุตร นางไม่ยอมรับคำปลอบโยนใดๆ เพราะบุตรเหล่านั้นไม่อยู่แล้ว - มัทธิว 2:16-17
 
ราเคลคนนี้เป็นแม่ของโจเซฟ(Joseph) – ผู้ที่มีเสื้อคลุมหลายสี สิ่งที่น่าสนใจก็คือแท้จริงแล้วราเคลเป็นรูปแบบหมายถึงพระนางมารีย์,พระมารดาของพระเยซู(Jesus) Brant Pitre ได้แสดงถึงความคล้ายคลึงกันของบุคคลทั้งสองในหนังสือของเขาที่มีชื่อว่า Jesus and the Jewish Roots of Mary: Unveiling the Mother of the Messiah.
 
ก่อนอื่น, Pitre อธิบายว่าราเคลเป็นใครในพันธสัญญาเดิม เธอคือภรรยาสุดที่รักของยาโคบ(ยาโคบมีอีกชื่อหนึ่งว่า อิสราเอล) เธอเป็นมารดาของโจเซฟและเบนจามิน เธอเสียชีวิตในการให้กำเนิดเบนจามินในขณะที่ครอบครัวกำลังเดินทางและเมื่อพวกเขาอยู่ใกล้เบธเลเฮม
 
ราเคลไม่ได้ถูกฝังร่วมกับมารดาคนอื่นๆของอิสราเอล(นางซาราห์และรีเบคาห์)ในสุสานของครอบครัว แต่เธอถูกฝังไว้ที่ถนนใกล้กับ “เบธเลเฮม” (ปฐมกาล 35:19)
 
นี่เป็นสิ่งสำคัญสำหรับบทบาทของราเคลไม่เพียงแต่ในฐานะมารดาของโจเซฟและเบนจามินเท่านั้น, แต่ยังอยู่ในฐานะ “มารดาของชาวอิสราเอลทุกคน,ผู้ซึ่งทนทุกข์กับพวกเขาและร้องไห้เพื่อพวกเขาแม้ว่าเธอจะเสียชีวิตไปแล้วก็ตาม” คำทำนายที่นักบุญมัทธิวยกมาจากประกาศกเยเรมีย์นั้น, เป็นที่เข้าใจกันว่าระบุไปที่ความเชื่อมโยงของราเคลกับประชาชนของเธอในช่วงเวลาที่ถูกเนรเทศ
 
Pitre อธิบายว่า:
 
ตามความเห็นของนักวิชาการในพันธสัญญาเดิม,กุญแจสำคัญในการทำความเข้าใจข้อนี้คือพึงจำไว้ว่าที่ฝังศพของราเคลตั้งอยู่ใกล้กับสถานที่ที่ชาวยิวถูกเนรเทศและถูกจับไปเป็นเชลยโดยชาวบาบิโลน
 
พระเจ้าทรงสดับเสียงคร่ำครวญของราเคลขณะที่เธอ “ทนทุกข์” กับผู้คนของเธอที่ถูกเนรเทศ,และทรงสัญญาว่าผู้คนของเธอจะกลับไปยังดินแดนของตน (เยเรมีย์ 31:16) ดังนั้นในธรรมประเพณีของชาวยิว,ราเคลจึงเป็นผู้วิงวอนและเข้าแทรกแซงช่วยเหลือที่มีอำนาจมากที่สุดซึ่งได้วิงวอนขอร้องด้วยอำนาจแห่งความเศร้าโศกเยี่ยงมารดาของเธอ…เช่นเดียวกับพระแม่มารีย์
 
และในพันธสัญญาใหม่,เราจะเห็นว่าราเคลไม่เพียงแต่ร้องไห้คร่ำครวญให้กับลูกๆของเธอที่ถูกเนรเทศไปยังบาบิโลน,ณ.สถานที่ใกล้กับหลุมฝังศพของเธอเท่านั้น, แต่ตอนนี้เธอร้องไห้อีกครั้งเมื่อลูกๆของเธอถูกสังหารด้วยเงื้อมมือของเฮโรด,ใกล้กับสถานที่ซึ่งร่างของเธอถูกฝังไว้
 
บทบาทของพระนางมารีย์คือราเคลคนใหม่, มารดาของประชากรของพระนางและทรงเป็นผู้วิงวอนขอร้องที่ทรงพลัง
 
ในฐานะแม่ที่ทนทุกข์ทรมานของเด็กที่ถูกข่มเหงที่ถูกขับไล่, พระนางมารีย์ในพระวรสารนักบุญมัทธิวคือราเคลคนใหม่อย่างแท้จริง พระนางมารีย์ทรงร้องไห้ไม่เพียงเพราะการกระทำของการข่มเหงและเนรเทศบรรดาบุตรของพระนางเท่านั้น แต่ทรงร้องไห้สำหรับชีวิตของทารกชายทุกคนที่ถูกสังหารหมู่ในความพยายามที่จะสังหารบุตรของพระนางเอง
 

************************ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น