นักบุญอังเดร เบเซตติและนักบุญโยเซฟ

 

 

ในปี 2021 ซึ่งพระสันตปาปาฟรังซิสทรงประกาศให้เป็นปีนักบุญโยเซฟ เราขอแนะนำให้รู้จักกับ บราเดอร์อันเดร เบเซ็ตติ,ซึ่งจะเป็นผู้แนะนำและให้แบบอย่างในการมีความศรัทธาต่อท่านนักบุญโยเซฟ,ภัสดาของพระนางมารีย์พรหมจารีย์ได้ดีที่สุด บราเดอร์อันเดรเป็นผู้ที่มีความศรัทธาต่อนักบุญโยเซฟมาตั้งแต่เด็ก
 

-----------------
 

เมื่ออัลเฟรด เบเซ็ตติ(Alfred Bessette) มาหาท่านอธิการแห่งคณะ Holy Cross Brothers ในปี 1870 นั้น, เขาถือจดหมายจากพระสงฆ์ผู้แนะนำมาด้วย,จดหมายนั้นมีใจความว่า "ผมขอส่งนักบุญองค์หนึ่งมาหาท่าน" ท่านอธิการคณะพบว่าเป็นการยากที่จะเชื่อ เพราะอาการปวดท้องเรื้อรังทำให้อัลเฟรดทำงานได้ไม่นานนัก และตั้งแต่ยังเป็นเด็กเขาต้องสัญจรจากร้านค้าหนึ่งไปอีกร้านค้าหนึ่ง, จากไร่หนึ่งไปอีกไร่หนึ่ง,ในแคนาดาบ้านเกิดและในสหรัฐอเมริกาโดยอยู่เพียงคนเดียวจนกระทั่งนายจ้างจะรู้ว่า เขาทำงานได้น้อยแค่ไหน บราเดอร์ในคณะ Holy Cross Brothers มีพันธกิจเป็นครูสอนในโรงเรียน,และอัลเฟรดขณะนั้นอายุ 25 ปี,เขายังไม่รู้วิธีอ่านและเขียนหนังสือเลย ดูเหมือนว่าอัลเฟรดจะมาสมัครเข้าสู่คณะนี้โดยไม่มีความหวัง, มันอาจไม่ใช่กระแสเรียกของเขา
 

อัลเฟรด เบเซ็ตติเกิดที่เมืองควิเบค เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 1845 เขาเป็นเด็กกำพร้าตั้งแต่อายุ 12 ปีและต้องทำงานเพื่อเลี้ยงชีพโดยลำพัง เขาได้รับการศึกษาเพียงเล็กน้อย แต่เขามีความเชื่อความศรัทธาต่อนักบุญโยเซฟมาตั้งแต่วัยเด็ก เขาเดินทางไปสหรัฐอเมริกาเพื่อหางานทำ แต่ต่อมาได้กลับมาที่ควิเบคในแคนาดา ที่นี่พระสงฆ์ที่เคยสอนเขาได้ให้กำลังใจเขาและส่งเสริมกระแสเรียกให้เขาเป็นนักบวช ท่านส่งเขาไปที่คณะ Holy Cross พร้อมด้วยจดหมายฝากฝังเขาว่า "ผมขอส่งนักบุญองค์หนึ่งมาหาท่าน"
 

ตอนแรก,ทางคณะไม่ยอมรับอัลเฟรด เพราะสุขภาพที่ไม่ดีของเขา อย่างไรก็ตาม,อัลเฟรดไม่หมดกำลังใจ, และด้วยความช่วยเหลือของพระอัครสังฆราชแห่งมอนทรีล, ทางคณะก็ยอมรับเขาเข้าเป็นโนวิสของคณะ Holy Cross ในวันที่ 27 ธ.ค. 1870
 

เมื่อเป็นโนวิส,อัลเฟรดเปลี่ยนชื่อเป็นอันเดรซึ่งเป็นชื่อของพระสงฆ์ที่สอนคำสอนเขาในวัยเด็ก บราเดอร์อันเดรได้รับผิดชอบในการทำงานเป็นผู้เปิดประตูต้อนรับแขกของวิทยาลัย Notre Dame Collegeในมอนทรีลและได้ปฏิญาณตนเป็นบราเดอร์ตลอดชีพ เขาประจำอยู่ที่แผนกต้อนรับของคณะเป็นเวลานาน ในช่วงเวลาที่เงียบสงบเขาเข้าร่วมงานทำความสะอาด เขาถูพื้นและล้างหน้าต่าง แต่ช่วงเวลาเหล่านี้หายากขึ้นเมื่อชื่อเสียงของเขาในฐานะผู้ทำงานมหัศจรรย์แพร่กระจายและผู้คนจำนวนมากที่มาพบเขาและไว้วางใจในตัวเขาเพื่อที่เขาจะขอร้องให้นักบุญโยเซฟช่วยเหลือวิงวอนให้พวกเขาได้รับการเยียวยารักษาให้หายจากโรคและความทุกข์อื่นๆ
 

หลายคนเริ่มมีประสบการณ์การหายจากโรคหลังจากสวดภาวนากับบราเดอร์อันเดรและชื่อเสียงของอันเดรก็กระจายไป ทำให้ผู้คนจำนวนมากหลั่งไหลมาหา และทางคณะได้อนุญาตให้บราเดอร์อันเดรดูแลคนเจ็บไข้ที่เข้าแถวจนล้นออกไปนอกถนน
 

บราเดอร์อันเดรยังคงถ่อมตัว,และบ่อยครั้งเขาสงสัยว่าเหตุใดผู้คนจึงยกย่องเขามากนัก เขารู้ว่าต้นตอที่แท้จริงของการรักษาที่น่าอัศจรรย์เหล่านี้มาจากการช่วยเหลือวิงวอนของท่านนักบุญโยเซฟ
 

อาจเป็นเพราะเหตุนี้ที่ทำให้บราเดอร์อันเดรชอบการเดินทางด้วยรถยนต์ เขารู้สึกผ่อนคลายเล็กน้อยในความสะดวกสบายของรถ การได้ห่างจากหน้าที่ในการเปิดประตูและรับฟังความทุกข์ยากของฝูงชนและการแบกรับภาระจากบ่าของพวกเขา ระหว่างการเดินทางด้วยรถยนต์บราเดอร์อันเดรมีความสุขในความสงบเงียบ เขาสามารถสวดสายประคำได้อย่างสันติโดยไม่มีสิ่งใดมารบกวน
 

วันหนึ่งบราเดอร์อันเดรกำลังเดินทางโดยรถยนต์บนถนนในมอนทรีล เขากำลังเดินทางไปพบเพื่อนคนหนึ่งที่กำลังป่วย เมื่อเขาเห็นชายพิการคนหนึ่งนั่งบนไม้ค้ำยันอยู่ข้างถนน, บราเดอร์อันเดรขอให้คนขับหยุดรถ และเขาก็ชะโงกหน้าออกไปนอกหน้าต่างและเรียกคนที่ถือไม้ค้ำยันลุกขึ้นมา ชายคนนั้นบอกบราเดอร์อันเดรว่าเขาได้รับบาดเจ็บและพิการอย่างถาวรจากอุบัติเหตุ,เขาไม่สามารถลุกขึ้นได้ เมื่อรู้เรื่องนี้บราเดอร์อันเดรตอบว่า "ทิ้งไม้ค้ำยันเสียแล้วเดินไป!" ชายคนนั้นตอบอย่างขุ่นเคืองว่า "ผมทำไม่ได้!" แต่บราเดอร์อันเดรกลับพูดสัมทับว่า "ผมขอบอกคุณว่า จงทิ้งไม้ค้ำยันของคุณแล้วเดินไป!" ด้วยความขุ่นเคือง,ชายคนนั้นโยนไม้ค้ำออกจากตัวและด้วยความประหลาดใจ,เขาพบว่าเขาหายจากความพิการและสามารถเดินได้แล้ว เขามองไปที่อันเดรผู้ถ่อมตนที่มองเขาจากหน้าต่างรถและพูดว่า "ผมรู้ว่าท่านไม่ใชพระเจ้า แต่ท่านต้องเป็นคนดีเป็นอย่างยิ่งแน่!"
 

“ขอบคุณนักบุญโยเซฟเถิด ไม่ใช่ผม” บราเดอร์อันเดรตอบอย่างถ่อมตน
 

บราเดอร์อันเดรมีชีวิตอยู่ตั้งแต่ปี 1845 ถึง 1937 และอาจจะไม่มีนักบุญองค์ใดในศตวรรษที่ผ่านมาที่มีความศรัทธาต่อนักบุญโยเซฟและมีความไว้วางใจในการช่วยเหลือของนักบุญโยเซฟเท่าอันเดร เบเซ็ตติ ไม่มีใครสู้เขาได้ในความรักต่อนักบุญโยเซฟ
 

มีการรักษาที่น่าอัศจรรย์ 10,000 ครั้ง ขณะที่บราเดอร์อันเดรเป็นสมาชิกของคณะกางเขนศักดิ์สิทธิ์ และเป็นเรื่องน่าประหลาดใจมากที่รู้ว่าตัวเลขนี้ถูกปกปิดไว้ถึง 60 ปีในเวลาที่บราเดอร์อันเดรเป็นบราเดอร์ในคณะ Holy Cross Congregation - เมื่อเขายังมีชีวิตอยู่
 

อัศจรรย์ที่น่าทึ่งกว่านั้นเกิดขึ้นหลังจากบราเดอร์อันเดรเสียชีวิตไปแล้ว มีกรณีของอาเธอร์ ดูชาร์ม(Arthur Ducharme),ซึ่งเป็นเด็กชายอายุ 8 ขวบ แขนของเขาถูกทำลายจากอุบัติเหตุ, กล้ามเนื้อและเส้นประสาทที่แขนของเขาถูกเศษแก้วขูดลึกไปถึงกระดูก พ่อแม่ของเขาได้รับแจ้งว่าเขาจะต้องถูกตัดแขนตัดขา แต่แม่ของเขาทนไม่ได้กับความคิดที่จะยินยอมให้ตัดแขนขาลูกชายของเธอ แขนของอาเธอร์อยู่ในสลิงผ้ามัสลินและพับห้อยอยู่ข้างกายของเขา ไม่มีกล้ามเนื้อที่ใช้งานได้ในการขยับและไม่มีเส้นประสาทที่จะควบคุมมัน แต่เมื่ออาเธอร์ถูกนำไปยังที่ฝังศพของบราเดอร์อันเดรซึ่งร่างนอนอยู่ในโลงศพ, แขนและขาของอาเธอร์ถูกวางอยู่บนร่างของบราเดอร์อันเดร, และทันใดนั้นแขนของอาเธอร์ก็กลับมีชีวิตขึ้นมาและทำงานได้ทันทีราวกับเศษแก้วที่แหลมคมไม่เคยฉีก เส้นประสาทและกล้ามเนื้อจากมัน อาเธอร์กระโดดโลดเต้นไปรอบอารามด้วยความดีใจ เขายกเก้าอี้ขึ้นเพื่อพิสูจน์การทำงานของแขน!
 

ในปี 1904 บราเดอร์อันเดรทำให้อาร์คบิชอปแห่งมอนทรีลประหลาดใจ เขาได้ขออนุญาตสร้างโบสถ์ถวายแด่นักบุญโยเซฟบนภูเขาใกล้กับวิทยาลัย อาร์คบิชอปปฏิเสธที่จะเป็นหนี้และจะอนุญาตให้บราเดอร์อันเดรสร้างได้เท่าที่จำนวนเงินที่เขามีเท่านั้น บราเดอร์อันเดรมีเงินเท่าไร? เงินที่เขารวบรวมได้เป็นเงินบริจาคที่ได้จากการตัดผมเด็กชาย และจาก เศษเงินในกล่องบริจาคเล็กๆที่เขาวางไว้ในที่พักพิงสำหรับปิกนิกบนยอดเขาใกล้รูปปั้นของนักบุญโยเซฟพร้อมป้ายที่เขียนว่า "บริจาคเพื่อนักบุญโยเซฟ" เขารวบรวมเงินมาหลายปีแล้ว แต่เขายังมีเงินเพียงไม่กี่ร้อยเหรียญ ใครจะเริ่มสร้างโบสถ์ด้วยเงินทุนเพียงเล็กน้อยได้?
 

บราเดอร์อันเดรเอาเงินไม่กี่ร้อยเหรียญและสร้างสิ่งที่เขาทำได้ ... มันเป็นเพียงเพิงไม้ขนาดเล็กเพียงสิบห้าฟุตคูณสิบแปดฟุต เขารวบรวมเงินและกลับไปอีกในสามปีต่อมาเพื่อสร้างเพิ่มเติม อาร์คบิชอปผู้ระมัดระวังถามเขาว่า "คุณได้รับนิมิตเกี่ยวกับนักบุญโยเซฟที่บอกให้คุณสร้างโบสถ์ให้ท่านหรือไม่"
 

บราเดอร์อันเดรให้ความมั่นใจแก่พระสังฆราช "ผมมีเพียงความศรัทธาที่ยิ่งใหญ่ต่อนักบุญโยเซฟเท่านั้นที่นำทางผม"
 

อาร์คบิชอปอนุญาตให้บราเดอร์อันเดรสร้างต่อไปตราบเท่าที่เขาไม่เป็นหนี้ เขาเริ่มต้นด้วยการต่อเติมหลังคาเพื่อให้ทุกคนที่มาร่วมพิธีมิสซาที่โบสถ์จะได้ไม่ต้องยืนท่ามกลางสายฝนและสายลม จากนั้นก็มาถึงกำแพง,เครื่องทำความร้อน,ถนนลาดยางขึ้นไปบนภูเขา,ที่พักพิงสำหรับผู้แสวงบุญ,และในที่สุดก็เป็นบ้านพักที่บราเดอร์อันเดรและคนอื่นๆสามารถอาศัยและดูแลโบสถ์ได้ – รวมทั้งผู้แสวงบุญที่มาตลอดเวลา, บราเดอร์อันเดรช่วยให้วิญญาณหลายคนได้รับการรักษาและฟื้นฟู,บนยอดเขาด้วยความเมตตา, ด้วยความห่วงใยและด้วยความทุ่มเท แม้กระทั่งกรณีของการรักษาทางกายภาพ สำหรับทุกสิ่ง,บราเดอร์อันเดรจะขอบคุณนักบุญโยเซฟ

แม้จะมีปัญหาทางการเงิน,บราเดอร์อันเดรไม่เคยสูญเสียศรัทธาหรือความทุ่มเท เขาเริ่มสร้างมหาวิหารบนภูเขา แต่ปัญหาทางการเงินเข้ามาแทรกแซง, ตอนอายุเก้าสิบปีเขาบอกให้เพื่อนร่วมงานประดิษฐานรูปปั้นของนักบุญโยเซฟไว้ในมหาวิหารที่ยังสร้างไม่เสร็จ, มหาวิหารยังไม่มีหลังคาเขาป่วยหนักจนต้องถูกหามขึ้นภูเขาเพื่อไปดูรูปปั้น หลังจากนั้นไม่นาน,บราเดอร์อันเดรก็เสียชีวิตในวันที่ 6 มกราคมและไม่ได้อยู่เพื่อดูงานสร้างมหาวิหารให้แล้วเสร็จ แต่ในความคิดของบราเดอร์อันเดร,มันจะยังคงไม่เสร็จเพราะเขาจะได้แสดงความทุ่มเทและการเยียวยาผู้อื่นอยู่ต่อไป ตราบใดที่เขายังมีชีวิตอยู่,เขาจะไม่มีวันหยุดทำงานเพื่อพระเจ้า
 

ตลอดชีวิตของบราเดอร์อันเดร, ท่านจะพูดยกย่องและให้เครดิตสำหรับอัศจรรย์แก่นักบุญโยเซฟเสมอ ในเวลานั้นท่านจะพูดเสียงดังมากแม้ว่ามันจะขัดกับมารยาทแบบฝรั่งเศส - แคนาดาและวิสัยปกติของท่านที่เป็นคนอ่อนโยนและพูดเสียงเบาๆ
 

ครั้งหนึ่งบราเดอร์อันเดรลงโทษด้วยวาจาต่อคนที่พยายามยกย่องเขาขึ้นเหนือกว่านักบุญโยเซฟเมื่อพวกเขาพูดว่า "บราเดอร์อันเดร, ท่านดีกว่านักบุญโยเซฟ เราสวดภาวนาวอนขอต่อนักบุญโยเซฟและไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่เมื่อเรามาพบท่านเราก็หายขาด!" เมื่อได้ยินเช่นนี้,บราเดอร์อันเดรก็โกรธจัดและตะโกนว่า "ออกไปจากที่นี่! เป็นนักบุญโยเซฟที่รักษาคุณไม่ใช่ผม, ออกไป!"
 

บราเดอร์อันเดร จะพูดกับคนที่มาหาเขาว่า “จงไปหาท่านนักบุญโยเซฟ” เป็นคำสั่งง่ายๆที่เขาบอกกับทุกคนที่กำลังมีความทุกข์และมองมายังดวงตาของเขาด้วยสายตาระห้อยและมอบความทุกข์ของพวกเขาแก่เขา
 

ถ้าคุณไปหาบราเดอร์อันเดร,ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาจะบอกคุณว่า "จงไปหานักบุญโยเซฟ"
 

ในปี 2021 นี้ได้อุทิศให้กับนักบุญโยเซฟ, บิดาบุญธรรมของพระเยซู,ผู้ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็น "protodulia" ซึ่งเป็นเกียรติที่มอบให้ท่านในฐานะบิดา,ที่พระเจ้าพระบิดาทรงไว้วางใจมอบพระบุตรของพระองค์ให้ท่านดูแล พระแม่มารีย์ผู้เป็นภรรยาของนักบุญโยเซฟ,เป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น "hyperdulia" ในฐานะมารดาของพระเมสสิยาห์, ในขณะที่นักบุญองค์อื่นๆทุกคนได้รับเกียรติเป็น "dulia", ผู้ที่สมควรได้รับการยกย่องคนแรกให้เป็น "proto"คือนักบุญโยเซฟ
 

ผมมีคำแนะนำบางอย่างที่อาจเป็นประโยชน์สำหรับคุณในการแสดงความศรัทธาต่อนักบุญโยเซฟ คือการสวดสายประคำหนึ่งสายเพื่อเป็นเกียรติแก่นักบุญโยเซฟและสวดสายประคำสายที่สองเพื่อเป็นเกียรติแก่นักบุญอันเดร เบเซ็ตติ ขอให้ นักบุญอันเดรสอนเราถึงวิธีที่จะรักนักบุญโยเซฟและสอนเราให้รู้จักวิงวอนขอความช่วยเหลือจากนักบุญโยเซฟ วันในสัปดาห์ที่อุทิศให้กับนักบุญโยเซฟคือวันพุธ และเนื่องจากนักบุญโยเซฟเป็นที่หวาดกลัวของเหล่าปีศาจ,ท่านจึงอาจข่มขวัญปีศาจที่พยายามจะล่อลวงคุณ
 

มีกรณีในชีวิตของคุณพ่อปีโอ,ในขณะที่ท่านยังเป็นนักพรตหนุ่ม คุณพ่อปีโอถูกปีศาจโจมตีอย่างหนัก มันมาพร้อมกับท่อนไม้เพื่อทุบตีท่านและยังแสดงตัวของมันให้เห็นอีกด้วย (เป็นภาพที่อัปลักษณ์น่ากลัวที่สุด คุณพ่อปีโอยอมรับว่าเป็นการข่มเหงที่เลวร้ายที่สุดที่มาเยือนท่านในขณะที่ท่านยังเป็นนักพรตหนุ่ม) แต่เมื่อถึงวันพุธ, คุณพ่อ ปิโอไม่ได้รับอันตรายเพราะวันนี้เป็นวันของนักบุญโยเซฟ, พวกปีศาจไม่ได้ทำร้ายคุณพ่อปีโอในวันนี้
 

ดังนั้นผมจึงขอแนะนำให้คุณถวายตนเองให้อยู่ในความคุ้มครองของท่านนักบุญโยเซฟด้วย การถวายตนเองให้อยู่ในความคุ้มครองของท่านนักบุญโยเซฟส่วนใหญ่มาจากแรงบันดาลใจที่ได้รับจากนักบุญอันเดร เบเซ็ตติ,วันฉลองของท่านคือวันที่ 6 มกราคมอันเป็นวันที่นักบุญอันเดรจากโลกไปสู่สวรรค์ และในปีของนักบุญโยเซฟปีนี้, วันฉลองนักบุญอันเดร ตรงกับวันพุธ!