วันเสาร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2564

สิ่งสุดท้ายของมนุษย์

 

 
สิ่งสุดท้ายของมนุษย์ ความเชื่อคาทอลิกเกี่ยวกับความตาย การพิพากษา สวรรค์ และนรก
 
พระศาสนจักรสอนเกี่ยวกับความจริง 4 ประการที่มนุษย์ทุกคนต้องเผชิญในวาระสุดท้ายของชีวิตของแต่ละคน นั่นคือ ความตาย การพิพากษา สวรรค์ และนรก หรือที่เรารู้จักว่าเป็น “4 สิ่งสุดท้ายของมนุษย์”
 
เป็นสภาพความเป็นจริงที่เราทุกคนต้องเผชิญ แม้ว่า เราหลายคนไม่ปรารถนาที่จะ คิดถึงเรื่องเหล่านี้ก็ตาม เราหลายคนไม่ได้คิดถึงความตาย และถ้าเราคิดถึง เราก็จะคิดถึงด้วยความกลัวอย่างจับจิตจับใจเลยทีเดียว การพิพากษาและนรกไม่ใช่ความคิดที่น่าชื่นชอบสำหรับหลายคนในทุกวันนี้ อย่างไรก็ตาม มีคุณค่าที่ยิ่งใหญ่กว่าในการทำความกระจ่างเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้และในการช่วยให้คนอื่นเข้าใจเรื่องเหล่านี้ พระศาสนจักรถือว่า ความตายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เพราะเป็นขั้นตอนที่เราจะเผชิญอย่างแน่นอน เราจะเรียนรู้ ความตายจากประสบการณ์เพื่อเราจะได้มีความหวัง ณ ที่นี้ การตอบสนองสิ่งที่กระทำลงไป (กรรมสนองกรรม) และ ความกลัวมีความสำคัญเพียงเล็กน้อย
 
1.ความตาย
 
เราทุกคนต้องตาย ขณะที่ผู้ไม่มีความเชื่อหลายคนพยายามไม่คิดถึงเกี่ยวกับการตายเลย พวกเขากำลังเลิกคิดเกี่ยวกับความตายทั้งด้านชีวิตจิตและด้านจิตวิทยาเพราะคิดว่าเป็นสิ่งไม่ดีสำหรับชีวิต แต่เราต้องสำนึกว่าพระเจ้าตรัสเรียกเราเข้าสู่พระอาณาจักรผ่านทางความตาย ขณะที่คนหนุ่มสาว มีความโน้มเอียงที่จะผลักดันความตายให้ห่างออกไป แต่เมื่อเราเริ่มเข้าสู่วัยชรา เราก็จะค่อยๆยอมรับความคิดนี้ได้อย่างสงบ นักบุญฟรังซิสแห่งอัสซีซีเรียก “ความตายด้านร่างกายว่าเป็นพี่สาวของเรา” เพราะความตายคือประตูสู่ชีวิตนิรันดร เราพึงระลึกว่าโลกไม่ใช่ที่อยู่ที่แท้จริงของเรา พระเจ้าทรงใช้โลกเพื่อเป็นสถานที่เตรียมตัวเราให้พร้อมที่จะไปพบกับพระองค์เท่านั้น ความตายเป็นส่วนหนึ่งในเรื่องชีวิตฝ่ายจิตของคาทอลิกที่ว่าเราควรสวดภาวนาและเตรียมตัวเพื่อเผชิญความตายอย่างดี
 
2. การพิพากษา
 
พระเจ้าทรงพิพากษาตัดสินเราเพราะพระองค์เองคือองค์ความจริง และทรงเป็นองค์ความยุติธรรมสูงสุด ในเวลาที่มนุษย์ “พบกับการประทับอยู่ที่เร้นลับน่าพิศวงของพระเจ้า เขาจะพบว่า เขาไม่มีความสลักสำคัญแต่ประการใดเลย” (CCC ข้อ 208) พระเจ้าทรงพิพากษาวิญญาณด้วยมาตรการเท่าที่เป็นไปได้ 3 ประการ
 
1.พระองค์จะทรงประกาศว่า วิญญาณที่พร้อมที่จะอยู่กับพระองค์ในสวรรค์ตลอดไป นี่คือ คำพิพากษาสำหรับ นักบุญ
 
2.พระองค์ประกาศว่าวิญญาณที่จะถูกปรับโทษไม่ให้อยู่กับพระเจ้าตลอดไป วิญญาณเช่นนั้นจะได้รับโทษ ตามที่ตนได้กระทำ นี่คือการตัดสินลงโทษให้ไปนรก
 
3.วิญญาณที่ยังจำเป็นต้องรับการชำระให้บริสุทธิ์เสียก่อนในสถานที่ซึ่งเราเรียกว่า ไฟชำระ ซึ่งจะนำเราเข้าสู่ระดับของนักบุญ และเตรียมเราไปรับความสุขนิรันดรกับพระเจ้า เรามั่นใจได้ว่า สิ่งนี้จะเป็นคำพิพากษาสำหรับวิญญาณส่วนใหญ่
 
3. นรก
 
เหตุใดพระเจ้าแห่งความรักทรงยอมให้มีนรก ซึ่งเป็นสภาพทุกข์ระทมไม่มีสิ้นสุด เป็นเพราะบางคนใช้จิตใจอิสระของตน,อิสรภาพที่พระเจ้าประทานให้เพื่อปฏิเสธพระองค์และปฏิเสธพระประสงค์ของพระองค์ พวกเขามีความเห็นแก่ตัว ทำตามใจตัวเอง เราทุกคนมีอิสระที่จะปฏิเสธพระเจ้าและหนทางรักของพระองค์ พระเจ้าจะไม่ทรงบังคับเราให้ไปสวรรค์ แม้ว่าพระองค์ทรงประสงค์ให้เราไปสวรรค์ก็ตาม แต่พระองค์ทรงปล่อยให้เรามีอิสระที่จะยอมรับหรือปฏิเสธข้อเสนอของพระองค์ ดังนั้น ทางไปสู่นรกคือการที่คนเรายึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง ซึ่งตรงกันข้ามกับวิธีที่พระคริสตเจ้าทรงสอน
 
5.สวรรค์
 
ตามปกติ เราส่วนมากมักจินตนาการเกี่ยวกับชีวิตในสวรรค์ซึ่งมักนำมาจากหนังสือวิวรณ์ ที่ให้ภาพที่เป็นภาพสัญลักษณ์ ในภาพเหล่านี้ พระบัลลังก์ของพระเจ้าอยู่ตรงกลางสวรรค์ มีบรรดาทูตสวรรค์และบรรดานักบุญจำนวนมากอยู่ล้อมรอบพระบัลลังก์ พวกเขากำลังสรรเสริญและคอยปรนนิบัติรับใช้พระเจ้า พวกเขามีความสุขในความรักต่อพระเจ้าและพระองค์ประทับอยู่กับพวกเขา ความสุขในสวรรค์ต้องมีการแบ่งปัน ในสวรรค์เราจะถูกรวมเป็นหนึ่งเดียวกันกับคนที่เรารัก ได้แก่ บรรพบุรุษของเราและบรรดานักบุญของพระเจ้า สวรรค์ไม่มีสิ้นสุดเป็นนิรันดร,อยู่เหนือกาลเวลา สวรรค์เป็นความสุขตลอดกาล
 
การพิจารณาไตร่ตรองสักเล็กน้อยในความจริง 4 ประการนี้ จะแสดงให้เราเห็นถึงสิ่งที่พระศาสนจักรสอนอย่างต่อเนื่องว่า เราสามารถลิ้มรสสวรรค์และนรกล่วงหน้าได้ การลิ้มรสล่วงหน้าช่วยให้เราเตรียมตัวสำหรับความตายและการพิพากษา เพราะสวรรค์คือการดำเนินชีวิตอย่างมีความสุขกับพระเจ้า ส่วนนรกคือความพยายามที่จะหลีกหนีจากพระองค์
 
************************ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น