คนเราถูกยกขึ้นจากโลกด้วยปีกสองข้าง นั่นคือ ความเรียบง่ายและความบริสุทธิ์ ต้องมีความเรียบง่ายในความตั้งใจและความบริสุทธิ์ในความปรารถนาของเรา ความเรียบง่ายนำไปสู่พระเจ้า,ความบริสุทธิ์โอบกอดและมีความยินดีในพระองค์
หากหัวใจของท่านปราศจากความปรารถนาไม่ดี,การทำความดีก็จะไม่ใช่เรื่องยากสำหรับท่าน แต่ถ้าท่านไม่มุ่งเป้าและไม่แสวงหาสิ่งอื่นนอกจากความพอพระทัยของพระเจ้าและความปรองดองกับเพื่อนบ้าน,ท่านจะมีความยินดีในอิสรภาพภายใน
ถ้าท่านมีใจชอบธรรม,สิ่งสร้างทุกอย่างจะเป็นกระจกแห่งชีวิตสำหรับท่านและเป็นหนังสือคำสอนอันศักดิ์สิทธิ์ เพราะไม่มีสิ่งสร้างใดที่เล็กและไร้ค่าจนไม่แสดงถึงความดีของพระเจ้าออกมา ถ้าภายในตัวท่านดีและบริสุทธิ์,ท่านจะเห็นทุกสิ่งอย่างชัดเจนและเข้าใจสิ่งเหล่านั้นอย่างถูกต้องเพราะจิตใจที่บริสุทธิ์แทรกทะลุเข้าไปถึงสวรรค์และนรก และในขณะที่มนุษย์อยู่ภายใน,เขาจึงตัดสินสิ่งต่างๆด้วยจิตใจที่เที่ยงธรรม หากแม้นมีความสุขอยู่ในโลก,จิตใจที่บริสุทธิ์ก็จะครอบครองสิ่งนั้นอย่างแน่นอน และหากมีความปวดร้าวและความทุกข์อยู่ที่ใด,จิตใจก็รู้จักมันดีเช่นกัน
ดังเช่นที่เหล็กเมื่อถูกเผาด้วยไฟจะล้างสนิมให้หมดไปและกลายเป็นสีขาวอร่าม,ดังนั้นผู้ที่หันมาหาพระเจ้าโดยครบถ้วนจะถูกถลุงจนหมดสิ้นความเฉื่อยชาและเปลี่ยนเป็นคนใหม่ เมื่อมนุษย์เริ่มดำเนินชีวิตที่หละหลวม,เขาจะกลัวความลำบากแม้ที่เล็กน้อยและยินดีรับความสะดวกสบายจากภายนอก แต่เมื่อเขาเริ่มต้นเอาชนะตนเองอย่างสมบูรณ์และเดินอยู่ในหนทางของพระเจ้าอย่างกล้าหาญ,เขาก็จะเริ่มคิดว่าสิ่งเหล่านั้นลำบากน้อยลง สิ่งซึ่งเมื่อก่อนเขาเคยคิดว่าหนักมาก
ท่านพูดอะไรนะ? จงคิดถึงความทุกข์ของเราและความทุกข์ของบรรดานักบุญเถิด และหยุดบ่นเสียที ท่านยังไม่ได้ต่อสู้จนถึงกับหลั่งเลือดเลย สิ่งที่ท่านต้องทนนั้นน้อยนักเมื่อเทียบกับสิ่งยิ่งใหญ่ที่นักบุญทั้งหลายต้องทนทุกข์ทรมาน,ซึ่งเป็นการประจญล่อลวงอย่างหนัก,ความทุกข์ทรมานอย่างสาหัส,ความเหน็ดเหนื่อยและความทรมานในหลายๆด้าน เพราะฉะนั้นขอให้ท่านคิดถึงความทุกข์ยากที่เจ็บปวดของผู้อื่น,เพื่อที่ท่านจะทนแบกรับความทุกข์อันเล็กน้อยของตัวเองได้ง่ายขึ้น และถ้าความทุกข์ของท่านดูไม่เล็กสำหรับท่าน,ก็จงพิจารณาดูว่าบางทีอาจเป็นเพราะความอดทนของท่านนั้นน้อยเกินไปจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้มันดูใหญ่โตสำหรับท่าน แต่ไม่ว่าความทุกข์นั้นจะใหญ่หรือเล็ก,จงพยายามแบกรับด้วยความอดทน ยิ่งท่านละทิ้งตัวเองยอมรับความทุกข์มากเท่าไหร่,ท่านก็ยิ่งปฏิบัติได้อย่างชาญฉลาดมากขึ้นเท่านั้นและรางวัลที่สัญญาไว้ก็ยิ่งใหญ่มากขึ้น ดังนั้นท่านก็จะทนรับความทุกข์ได้ง่ายขึ้นถ้าหากจิตใจและอุปนิสัยของท่านได้รับการฝึกฝนอย่างขยันขันแข็ง
อย่าพูดว่า:“ฉันทนไม่ได้กับคนแบบนี้,และฉันก็ไม่ควรทนกับเรื่องแบบนี้,เพราะเขาได้ทำผิดอย่างใหญ่หลวงกับฉัน เขากล่าวหาฉันในหลายๆเรื่องที่ฉันไม่เคยคิด อย่างไรก็ตาม,สำหรับคนอื่น,ฉันยินดีที่จะทนเท่าที่ฉันควรจะทำ”
ความคิดเช่นนี้เป็นเรื่องโง่เขลา,เพราะไม่ได้คำนึงถึงคุณธรรมของความอดทนหรือคิดถึงพระผู้ที่จะทรงประทานรางวัลตอบแทน แต่เป็นการให้น้ำหนักกับตัวบุคคลและความผิดที่ได้กระทำมากกว่า คนที่จะยอมทนเฉพาะกับคนที่ทำดีกับเขาเท่านั้น,หรือจะยอมทนเฉพาะกับคนที่เขายอมรับเท่านั้น,ไม่ใช่ความอดทนที่แท้จริง สำหรับคนที่อดทนอย่างแท้จริง,เขาไม่พิจารณาว่าความทุกข์ทรมานมาจากใคร ไม่ว่าจะมาจากผู้ที่อยู่เหนือเขา หรือมาจากคนที่เท่าเทียมกัน หรืออยู่ต่ำกว่า ไม่ว่าจะมาจากคนดีและบริสุทธิ์ ไม่ว่าความทุกข์จะเกิดขึ้นกับเขามากเพียงใด ไม่ว่ามันจะมาบ่อยแค่ไหน หรือมาจากใคร เขาก็ยอมรับด้วยความกตัญญูโดยถือว่ามาจากพระหัตถ์ของพระเจ้า และสิ่งนั้นให้ประโยชน์ยิ่งใหญ่แก่เขา เพราะเพื่อพระเจ้าแล้ว,ไม่มีสิ่งใดที่ต้องทนเพราะเห็นแก่พระองค์,ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเล็กน้อยเพียงใด,มันก็จะไม่ผ่านพ้นไปโดยที่ไม่มีรางวัลตอบแทนให้ จงเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้,ถ้าท่านต้องการที่จะได้รับชัยชนะ หากปราศจากการต่อสู้,ท่านก็ไม่สามารถได้รับมงกุฎแห่งความเพียรทน และหากท่านปฏิเสธที่จะทนทุกข์ทรมาน,ท่านก็กำลังปฏิเสธมงกุฎรางวัล แต่ถ้าท่านปรารถนาที่จะได้รับการสวมมงกุฎ,จงต่อสู้อย่างกล้าหาญและอดทน หากปราศจากการตรากตรำก็ไม่มีวันหยุดพัก และหากไม่มีการต่อสู้ก็จะไม่มีชัยชนะ
************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น