วันพฤหัสบดีที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2564

นิมิตของนักบุญเกอร์ทรูดในวันฉลองแม่พระรับสาส์น

 

วันฉลองแม่พระทรงรับสาส์นตรงกับวันที่ 25 มีนาคม, เป็นวันที่เราเฉลิมฉลองการที่อัครเทวดากาเบรียล,ทูตสวรรค์ของพระเจ้า,ปรากฏต่อพระนางมารีย์พรหมจารีย์และแจ้งแก่พระนางว่า พระนางจะทรงตั้งครรภ์บุตรชายผู้หนึ่ง วันฉลองนี้กำหนดขึ้นก่อนวันคริสต์มาสเก้าเดือนเพื่อแสดงถึงการเริ่มตั้งครรภ์ของพระนางมารีย์
 
กว่า 700 ปีที่แล้วในวันฉลองแม่พระรับสาส์น,นักบุญเกอร์ทรูดได้รับการเปิดเผยเป็นพิเศษเกี่ยวกับพระพรที่พระแม่มารีย์จะทรงมอบให้กับผู้ที่ให้เกียรติและสวดภาวนาต่อพระนาง นี่เป็นเหตุการณ์หนึ่งในชีวิตของนักบุญเกอร์ทรูด,เธอมีชีวิตถึงอายุ 46 ปีจากปี 1256 ถึง 1302
 
ในวันแม่พระทรงรับสาส์นนี้,เกอร์ทรูดได้เดินเข้าไปในโบสถ์น้อยในคอนแวนต์ของเธอ เธอสวมชุดนักบวชสีดำยาว และเธอได้เห็นภาพที่น่าประทับใจ: พระเยซูเจ้าและพระมารดาของพระองค์กำลังประทับนั่งอยู่ในที่นั่งของคุณแม่อธิการิณี
 
เมื่อเกอร์ทรูดและบรรดาซิสเตอร์เริ่มสวดภาวนาเพื่อสรรเสริญการรับสาส์นของแม่พระ, เธอได้เห็นพระเยซูเจ้าทรงโน้มเอียงใกล้ชิดด้วยความรักต่อพระมารดาของพระองค์และพระองค์ทรง"แสดงความเคารพพระนางด้วยท่าทีอันอ่อนหวานและสง่างามเช่นนี้เพื่อให้ความสุขสุดพรรณนาซึ่งพระนางเคยรู้สึกได้รื้อฟื้นขึ้นมาใหม่ เมื่อเวลาที่พระองค์ทรงรับเอาเนื้อหนังจากพระนางและมาอยู่ในครรภ์ของพระนาง"
 
จากนั้นเกอร์ทรูดและบรรดาซิสเตอร์ที่อยู่รอบๆเริ่มร้องบทเพลงมิสซิเรเร “ลูกแกะของพระเจ้าเจ้า,ผู้ทรงลบล้างบาปของโลก โปรดทรงพระกรุณาเทอญ ... ”
 
เกอร์ทรูดมองเห็นว่า แต่ละคำของบทสวดที่พวกเขาสวดอยู่,พระเยซูเจ้าทรงนำไข่มุกหนึ่งเม็ดจากไข่มุกทั้งหมดที่ทรงถือไว้ในพระหัตถ์หย่อนลงไปในพระหัตถ์ของพระมารดาของพระองค์ แต่ละคำของบทสวดนี้เป็นเหมือนไข่มุกแห่งพระเมตตาที่ทรงมอบให้กับพระแม่มารีย์ ไข่มุกมีสีที่แตกต่างกัน เป็นเฉดสีแห่งพระเมตตาที่ทรงมีอย่างมากมาย แต่ยิ่งไปกว่านั้น,พระแม่มารีย์ทรงนำไข่มุกจุ่มลงในน้ำหอม เกอร์ทรูดได้รับความเข้าใจจากเบื้องบนว่าน้ำหอมเหล่านี้เป็นสัญลักษณ์ของไม้กางเขนซึ่งเธอและบรรดาซิสเตอร์ของเธอต้องทนทุกข์ทรมานเมื่อไม่นานมานี้ และเมื่อเธอสงสัยว่าเหตุใดไม้กางเขนเหล่านี้จึงเป็นน้ำหอมในเชิงสัญลักษณ์ พระเยซูเจ้าตรัสกับเธอว่า "ผู้ที่เป็นคนละเอียดอ่อนจะพอใจกับน้ำหอมมากกว่า ดังนั้นเราจึงยินดีในจิตใจของผู้ที่ทนรับการทดลองด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน,ด้วยความอดทนและการขอบพระคุณ โดยละทิ้งตัวเองอย่างสิ้นเชิงต่อความดีงามเยี่ยงบิดาของเรา ซึ่งได้เปลี่ยนความทุกข์เหล่านั้นให้กลายเป็นผลดีต่อพวกเขา "
 
หากลูกเป็นคนเช่นนี้,ผู้มอบความเจ็บปวดแห่งไม้กางเขนของลูกด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตนที่น่าชื่นชมและในขณะเดียวกันก็สวดภาวนาวอนขอพระเมตตา,ไข่มุกที่มีกลิ่นหอมจำนวนมากจะถูกเก็บรักษาไว้ในสวรรค์สำหรับลูก ดังที่เราได้กล่าวแนะนำไว้ในพระวรสารนักบุญมัทธิวว่า "จงสะสมทรัพย์สมบัติไว้ในสวรรค์เถิด"
 
ครั้นถึงเวลาที่เกอร์ทรูดและบรรดาซิสเตอร์จะต้องสวด บทวันมามารีย์,เธอก็ได้เห็นภาพที่งดงามของสายน้ำสามสายที่ออกมาจากพระเจ้า,พระบิดา,พระบุตรและพระจิต สายน้ำเหล่านี้ไหลเข้าสู่ดวงหทัยของพระแม่มารีย์ผู้ทรงบุญ จากนั้นก็ไหลจากดวงหทัยของพระนางกลับไปยังสามพระบุคคลแห่งพระตรีเอกานุภาพ สิ่งนี้เป็นที่เปิดเผยต่อเกอร์ทรูดว่า พระแม่มารีย์ทรงมีอำนาจมากที่สุดรองจากพระบิดา,พระผู้ทรงรอบคอบที่สุด รองจากพระบุตร,ผู้ทรงอ่อนโยนที่สุด และรองจากพระจิต,ผู้ทรงบริสุทธิ์ที่สุด ต่อไปเกอร์ทรูดได้รับความเข้าใจอย่างชัดเจนว่าใครก็ตามที่สวดบทวันทามารีย์ด้วยความรัก,จะได้รับจากสายน้ำสามสายที่ไหลเข้าสู่พระแม่มารีย์,สายธารเล็กๆแห่งความยินดีและความรอด,ซึ่งจะให้พระคุณมากมายอันเนื่องมาจากการจุติขององค์พระบุตรของพระเจ้าแก่พวกเขา
 
ถ้าหากคุณสวดบทวันทามารีย์ด้วยความรัก,คุณก็จะได้รับสายธารแห่งความยินดีและความรอดเช่นกัน
 
เกอร์ทรูดมองเห็นสถานที่บนสวรรค์ซึ่งบรรดานักบุญและทูตสวรรค์กำลังชื่นชมยินดีในการเฉลิมฉลองการรับสาส์นของแม่พระ อัครเทวดากาเบรียลเปล่งประกายงดงามมากขึ้นและมากขึ้นเรื่อยๆทุกครั้งที่การประกาศถึงการแจ้งสาส์นต่อพระแม่มารีย์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของท่านเมื่อท่านได้รับเกียรติในการแจ้งกับพระนางมารีย์ว่าพระนางคือพระมารดาของพระเมสสิยาห์ เมื่อมีการประกาศชื่อของนักบุญโยเซฟ,นักบุญทุกองค์ก็ค้อมคำนับท่าน แต่ที่น่าประหลาดใจที่สุดคือทุกครั้งที่ประกาศถึงความบริสุทธิ์ของพระแม่มารีย์,บรรดานักบุญทุกองค์ยืนขึ้นเคารพพระนางในฐานะราชินีและขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับพระพรทั้งหมดที่พระองค์ประทานแก่มนุษย์โดยผ่านทางพระนาง
 
เกอร์ทรูดแสดงความเคารพต่อพระแม่มารีย์โดยย้ำเตือนพระแม่ให้ระลึกถึงความสุขอันยิ่งใหญ่ที่พระแม่เคยรู้สึกเมื่อพระแม่ขานรับพระประสงค์ของพระเจ้า,ทรงยอมรับเป็นพระมารดาของพระบุตร,พระผู้ไถ่ของชาวเรา จากนั้นพระแม่มารีย์ทรงให้สัญญาแก่เกอร์ทรูดว่า ใครก็ตามที่ย้ำเตือนพระนางในเรื่องนี้ด้วยความศรัทธา,พระนางจะทูลพระเยซูเจ้าเกี่ยวกับปัญหาของพวกเขา,จะทรงวอนขอองค์พระบุตรเพื่อพวกเขา,และช่วยเหลือพวกเขาด้วยความรักความเมตตา
 
คุณอาจย้ำเตือนพระแม่มารีย์ถึงการที่พระแม่ทรงยอมจำนนต่อพระประสงค์ของพระเจ้าด้วยความยินดี,และพระแม่จะทรงยินดีที่จะเสนอความยากลำบากของคุณต่อพระบุตรของพระนาง,จะทรงวิงวอนขอต่อพระองค์เพื่อคุณและสนับสนุนช่วยเหลือคุณด้วยความอ่อนโยน
 
นักบุญเกอร์ทรูดถามพระแม่มารีย์ว่ามีความศรัทธาพิเศษใดที่เธอสามารถถวายพระแม่ได้หรือไม่ พระแม่มารีย์ตอบว่าใครก็ตามที่สวดบทวันทามารีย์ 45 ครั้งโดยรำพึงถึงเวลาที่พระเยซูเจ้าขณะทรงเป็นทารกในครรภ์ของพระนาง (สวดบทวันทามารีย์ 5 ครั้งในแต่ละเดือนเป็นเวลา 9 เดือนเพื่อระลึกถึงการตั้งครรภ์ของพระแม่มารีย์เป็นเวลา 9 เดือน) พวกเขาจะให้เกียรติแพระนางเสมือนว่าพวกเขาได้ดูแลพระนางทุกวันของการตั้งครรภ์ของพระนาง และพระแม่มารีย์ทรงสัญญากับเกอร์ทรูดว่า พระนางจะทรงตอบรับคำภาวนาทั้งหมดของบุคคลที่สวดบทวันทามารีย์ 45 ครั้งเช่นนี้
 
ในวันฉลองแม่พระทรงรับสาส์นนี้,คุณสามารถถวายบทวันทามารีย์ 45 ครั้งเพื่อเป็นเกียรติแก่เวลาที่พระเยซูเจ้าทรงเป็นทารกในครรภ์ของพระแม่มารีย์เพื่อความตั้งใจมอบให้แก่บุคคลอันเป็นที่รักของคุณ
 
ขอให้คุณทุกคนมีความสุขในวันฉลองแม่พระทรงรับสาส์นในปีนี้ ผมหวังว่าคำภาวนาวอนขอพระเมตตาของคุณจะทำให้คุณได้รับไข่มุกที่มีกลิ่นหอมมากมาย และขอให้คำภาวนาบทวันทามารีย์ของคุณจะนำสายน้ำแห่งความยินดีและความรอดหลั่งไหลมาสู่คุณทุกคน
 

นำมาจากนิมิตของนักบุญเกอร์ทรูดในหนังสือ The Life and Revelations of St Gertrude
 
************************ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น