วันพุธที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2564

ลิ้นที่ไม่เน่าเปื่อยของนักบุญแอนโทนีแห่งปาดัว

 

หลายคนยังไม่ทราบว่านักบุญแอนโทนีแห่งปาดัว(หรือนักบุญอันตนแห่งปาดัว)ไม่ได้เกิดที่เมืองปาดัวในประเทศอิตาลี แต่แท้จริงแล้ว,ท่านเกิดที่โปรตุเกส ท่านถูกเรียกว่านักบุญแอนโทนี "แห่งปาดัว" เพราะร่างของเขาถูกฝังในเมืองปาดัว
 
เมื่อนักบุญแอนโทนีเสียชีวิตในวันที่ 13 มิถุนายน ค.ศ. 1231, ร่างของท่านถูกฝังในโบสถ์ฟรังซิสกันเล็กๆแห่งเซนต์แมรีในเมืองปาดัว เมื่อถึงปี 1263 (เพียง 32 ปีหลังจากการตายของท่าน!) มหาวิหารอันยิ่งใหญ่ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อวางพระธาตุของท่านไว้ใต้แท่นบูชาสูง
 
เมื่อโลงศพของนักบุญแอนโทนีถูกเปิดออก,พวกเขาพบว่าร่างของนักบุญเหลือแต่ฝุ่นและกระดูก แต่ลิ้นของท่านยังคงสดไม่เสื่อมสลายเหมือนเนื้อของลิ้นคนที่ยังมีชีวิต นี่เป็นสัญญาณจากพระเจ้าที่ยืนยันถึงพระพรแห่งการเทศนาสั่งสอนที่นักบุญแอนโทนีเคยใช้ในการเทศน์สอนแก่บรรดาสัตบุรุษบนโลกนี้ นักบุญโบนาเวนตูลา,ซึ่งเป็นอธิการของคณะฟรังซิสกันได้บรรจงถือลิ้นของนักบุญแอนโทนีไว้ในมือของท่านด้วยความคารวะและอุทานว่า
 
“โอ้ ลิ้นที่ได้รับพระพร,ซึ่งได้สรรเสริญถวายพระพรแด่พระเจ้าเสมอและทำให้ผู้อื่นสรรเสริญพระองค์ด้วย บัดนี้ปรากฏชัดแล้วว่าท่านมีบุญมากเพียงใดเบื้องหน้าพระพักตร์พระเจ้า!”
 
ลิ้นของนักบุญแอนโทนีถูกวางไว้ในที่เก็บพระธาตุพิเศษ และยังคงพบเห็นได้ในปัจจุบันในโบสถ์น้อยที่แยกมาอยู่ทางด้านข้างของมหาวิหาร ในปี ค.ศ. 1310 มหาวิหารจวนจะสร้างเสร็จแล้ว,พระธาตุของนักบุญแอนโทนีก็ถูกย้ายไปยังที่บรรจุพระธาตุที่อยู่ตรงกลางมหาวิหาร ต่อมาในปี ค.ศ. 1350 จึงได้ย้ายพระธาตุของนักบุญแอนโทนีครั้งสุดท้ายไปยังโบสถ์น้อยปัจจุบันซึ่งอยู่ทางด้านข้างของมหาวิหาร ทั้งเป็นการระลึกถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ในปฏิทินของคณะฟรังซิสกัน
 
นักบุญแอนโทนี่เป็นนักเทศน์ผู้ยิ่งใหญ่ เมื่อผู้คนฟังท่านเทศน์,พวกเขาจะรู้สึกถึงความอ่อนโยน,ความเชื่อมั่น,ความรักและความเข้าใจในบทเทศน์ของท่าน ท่านนักบุญมักจะใช้โวหารเปรียบเทียบซึ่งน่าประทับใจ
 

บทเทศน์ของนักบุญอันตนแห่งปาดัว
 
"บุคคล"ผู้มีพระจิตของพระเจ้าสถิตอยู่กับเขาจะพูดภาษาต่างๆได้. ภาษาต่างๆเหล่านั้นหมายถึงคุณธรรมต่างๆหลายประการที่เป็นพยานยืนยันถึงองค์พระคริสต์ ซึ่งได้แก่ ความสุภาพถ่อมตน ความยากจน ความเพียรทน และความนบนอบเชื่อฟัง.
 
"เพื่อนรัก, พวกเราจงพูดกันด้วยภาษาเหล่านี้เมื่อเราเปิดเผยตัวตนของเราด้วยคุณธรรมต่อผู้อื่น. "การกระทำส่งเสียงดังกว่าคำพูด" ขอให้วาจาของท่านจงสั่งสอนและการกระทำของท่านจงพูดส่งเสียง จงอย่าให้ภายในตัวของเราเต็มไปด้วยวาจามากมายแต่การกระทำของเรากลับว่างเปล่า เพราะมิฉะนั้นพระเป็นเจ้าจะไม่ทรงอวยพระพรแต่จะกลับทรงสาปแช่งเรา ดังเช่นที่พระองค์ทรงสาปแช่งต้นมะเดื่อ ยามเมื่อเสด็จมาพบว่ามันมีแต่ใบไม่มีผล. นักบุญเกรโกรีกล่าวว่า "นี่เป็นกฎเกณฑ์คือ ผู้สอนต้องกระทำตามสิ่งที่เขาได้สอน"  เป็นการเปล่าประโยชน์สำหรับคนที่โอ้อวดความรอบรู้ในบทบัญญัติต่างๆ แต่กลับทำลายสิ่งที่เขาสอนนั้นด้วยการกระทำของเขาเอง
 
มองดูบรรดาอัครสาวกเถิด พวกท่านได้เทศน์สอนตามที่พระจิตเจ้าประทานพระพรการพูดภาษาต่างๆให้แก่ท่าน. เป็นบุญของผู้ที่คำพูดของเขานั้นได้รับมาจากพระจิตเจ้า ..........
 
เราจึงควรพูดตามที่พระจิตเจ้าทรงประทานพระพรให้แก่เรา. จิตใจของเราต้องมีความสุภาพถ่อมตนและจริงใจเหมือนวันที่พระจิตเจ้าเสด็จลงมาแก่บรรดาอัครสาวก เมื่อพระจิตเจ้าจุดไฟในตัวของเราด้วยพระหรรษทานของพระองค์ เราจึงต้องประพฤติตนให้เป็นผู้ดีบริบูรณ์โดยปฏิบัติตามบทบัญญัติ. เราจะต้องมีจิตใจที่เศร้าเสียใจในบาปของตนเองและมีลิ้นที่เร่าร้อนในการประกาศความเชื่อ ดังนั้นเราจึงจะเหมาะสมสำหรับรางวัลที่จะได้ยืนอยู่ร่วมกับบรรดานักบุญที่สุกใสรุ่งโรจน์เพื่อเพ่งมองพระเป็นเจ้าผู้เป็นองค์พระตรีเอกภาพ
 
************************ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น